×

เบื้องหลังวุ่นๆ ในห้องสัมภาษณ์ และความในใจจาก ‘นุชา’ คนใหม่ของ ‘คุณหลวงผลิต’

19.07.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 mins read
  • เป๊กเคยเดินทางไปฮอลแลนด์ด้วยตัวคนเดียว ทั้งตกรถไฟ หลงทาง ต้องเดินฝ่าหิมะเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรโดยไม่ยอมขอความช่วยเหลือจากใคร เพียงเพราะอยากเซอร์ไพรส์คุณแม่
  • เป๊กดูเหนื่อยเพราะต้องทำงานและถ่ายรายการติดๆ กันมาตลอด 2 วัน แต่ก็ยังตั้งใจตอบคำถามและทำงานตามที่ทีมงานทุกคนขออย่างไม่เคยปฏิเสธ
  • หลังถ่ายรายการเสร็จ เป๊กเรียกหาแค่ขนมจีบของโปรด หลังจากไม่ได้กินอะไรเป็นจริงเป็นจังมาทั้งวัน เมื่อรู้ว่าขนมจีบหมดแล้ว มีคนเสนอจะไปซื้อมาให้ แต่เป๊กปฏิเสธ และหยิบขนมปังชืดๆ ที่เหลือในกล่องขึ้นมากินแทน

     สารภาพตรงนี้ก่อนว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมา ผมคือหนึ่งในคนที่เคยตั้งคำถามถึง ‘ตัวตน’ ของ เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร เพราะนอกจาก ‘เสียง’ ของเขาแล้ว ผมแทบไม่รู้จักมุมอื่นๆ ของผู้ชายคนนี้เลย

     โชคดีที่การเป็นนักสัมภาษณ์มอบสิทธิพิเศษในการก้าวเข้าพื้นที่ส่วนตัวเพื่อทำความรู้จักผู้คนมากขึ้น และหลายครั้งที่อาชีพนี้ทำให้ผมมั่นใจ คนโบราณเขาไม่ได้พูดคำว่า ‘อย่าตัดสินคนจากภายนอก’ ขึ้นมาลอยๆ

     ‘คุณหลวงผลิต’ ก็เช่นกัน!

 

     

     ผมคุยกับเป๊กครั้งแรกเมื่อ 1 ปีก่อน เรื่องที่เขาเดินทางไปเยี่ยมคุณแม่ที่ฮอลแลนด์ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าหนุ่มหน้าหวานที่แสนบอบบางคนนี้จะกล้าตัดสินใจแบกกระเป๋า 4 ใบเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลด้วยตัวคนเดียว ทั้งตกรถไฟ หลงทาง ต้องเดินฝ่าหิมะเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรโดยไม่ยอมขอความช่วยเหลือจากใคร เพียงเพราะอยากทำให้คุณแม่เซอร์ไพรส์เพียงเท่านั้น

     รวมทั้งนิสัยปุบปับ นึกอยากไปไหนก็เก็บกระเป๋าเดินทางไปคนเดียวได้แบบไม่ต้องรอใครให้เสียเวลา แตกต่างกับภาพนักร้องที่มีแต่คนคอยโอ๋ที่ผมเคยคิดเอาไว้เหลือเกิน

     จนช่วงทำการบ้านก่อนมาสัมภาษณ์ครั้งนี้ ได้รู้เรื่องที่เป๊กซื้อลิขสิทธิ์เพลงต่างประเทศด้วยเงินของตัวเอง เห็นคลิปเฟซบุ๊กไลฟ์ ‘ขนอมในตำนาน’ บางคลิปก็เหมือนไปยืนอยู่ในคอนเสิร์ตต่างจังหวัดแล้วเต้นท่าตลกๆ ไปกับทุกคนที่เดินเข้ามาเต้นด้วย โดยเฉพาะคลิปงานที่เป๊กขึ้นไปร้องเพลงกับเด็กดาวน์ซินโดรมอย่างใกล้ชิดเป็นกันเอง แถมยังดึงความสามารถของน้องให้โชว์ศักยภาพได้อย่างเต็มที่ จากหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำการบ้าน ผมอยากคุยกับเขามากขึ้นเรื่อยๆ และ ‘คุณหลวง’ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง

 

     

     เป๊กเพิ่งถ่ายรายการเสร็จจากที่หนึ่ง (แถมน่าจะเหนื่อยค้างจากงานมีตแอนด์กรี๊ดในคืนก่อน สังเกตจากตาที่บวมจนแทบจะปิด) แต่ทันทีที่เจอกัน เขาเป็นฝ่ายชวนให้เริ่มการสัมภาษณ์โดยไม่ต้องพักเหนื่อยให้เสียเวลา

     ขณะสัมภาษณ์มีเหตุฉุกละหุกหลายอย่าง ต้องเบรกออกไปถ่ายภาพ เป๊กดูเหนื่อย แต่ไม่เคยปฏิเสธในสิ่งที่เราต้องการ รวมทั้งตอนที่น้องช่างภาพให้คุณหลวงกระโดด หรือทำท่าประหลาดๆ ถึงแม้คุณหลวงจะไม่ค่อยมีแรง แต่ก็ยอมทำตามพวกเราจนได้ภาพน่ารักๆ หลายภาพอย่างที่เอามาฝากกัน

     หลังถ่ายรูปเสร็จ เป๊กต้องสลับภารกิจไปถ่ายคลิปวิดีโอให้อีกรายการหนึ่งต่อทันที เขาหายไปพักใหญ่ พอกลับมาอีกครั้งก็ต่อด้วยการอัดจิงเกิลรายการวิทยุ เป๊กดูไม่ค่อยมีเสียง แต่พอเปิดเครื่องอัดปุ๊บ เป๊กก็โปรเจกต์เสียงเต็มพลัง อ่านจิงเกิลอย่างมั่นใจ ตรงไหนที่รู้สึกว่ายังไม่ดี เป๊กขออัดเองอีกรอบโดยที่ไม่ต้องมีใครขอ หรือทีมงานจะให้อัดคลิปอะไรเพิ่ม คุณหลวงก็ไม่เคยปฏิเสธ

     เหลือเวลาอีกประมาณ 5 นาที เป๊กมีคิวต้องเข้าคลื่นวิทยุต่อ เราคิดว่าเขาอยากใช้ช่วงเวลาที่เหลือเพื่อพักผ่อนสักครู่ แต่เป๊กบอกกับเราว่า “สัมภาษณ์กันต่อเลยไหมครับ” ตรงนี้แสดงถึงความเป็นมืออาชีพของเป๊ก เพราะ ‘เวลา’ คือสิ่งมีค่าสำหรับคนทำงานทุกคน เป๊กตระหนักถึงข้อนี้ดี และเขาพร้อมแลกเวลาของตัวเองเพื่อให้ ‘เวลา’ ของคนอื่นเดินหน้าต่อไปได้

 

     

     พอเข้าคลื่นวิทยุ เป็นอีกครั้งที่เป๊กออกไปทำงานอย่างเต็มที่ จากที่เหนื่อยๆ ก็ออกไปให้สัมภาษณ์อย่างสนุกสนาน รับ-ส่งมุกกับดีเจได้แบบไหลลื่น และยังโชว์สเต็ปการเต้นน่ารักๆ ที่ทำให้เราเกือบลืมไปว่า นี่คือคนเดียวกับคนที่เหน็ดเหนื่อยกับการทำงานและเดินทางติดๆ กันมาตลอด 2 วันที่ผ่านมา

     30 นาทีผ่านไป เป๊กกลับมาที่ห้องสัมภาษณ์อีกครั้ง เช่นเคย เขาไม่ปล่อยให้เวลาเดินไปอย่างเปล่าประโยชน์ และยังขอโทษเราอีกครั้งที่ทำให้รอนาน พร้อมกับชวนเปิดบทสนทนาต่อทันทีแบบไม่ต้องพัก มีแค่เรียกหาขนมจีบของโปรดก่อนสัมภาษณ์ เนื่องจากไม่ได้กินอะไรเป็นจริงเป็นจังมาทั้งวัน และเมื่อรู้ว่าหมดไปแล้ว มีคนเสนอว่าจะไปซื้อให้ เขาก็ปฏิเสธ และเปิดกล่องขนมปังที่เหลืออยู่ออกมากินแบบไม่เดือดร้อนใคร ก่อนจะเปิดเครื่องบันทึกเสียง เขาไม่ลืม ‘ขออนุญาต’ เพื่อกินไปด้วยระหว่างคุยกัน แต่จนแล้วจนรอด หลังจากกัดคำแรก เป๊กตั้งใจตอบทุกๆ คำถามจนแทบไม่ได้แตะขนมปังชืดๆ ชิ้นนั้นอีกเลยตลอดเวลากว่า 1 ชั่วโมงที่นั่งคุยกัน

     เป๊กทำให้เราเซอร์ไพรส์ตลอดเวลาที่สัมภาษณ์ เริ่มตั้งแต่วัยเด็กของเขาเป็นอย่างไร เราคิดคำถามนี้เพื่อเปิดบทสนทนานำไปสู่เรื่องอื่นๆ แต่กลายเป็นว่า ‘ความดื้อ’ และ ‘ความซ่า’ ที่เป๊กเล่าให้เราฟังทำให้พาร์ตชีวิตวัยเด็กที่คิดไว้ว่าน่าจะจบภายใน 5 นาทีไหลเป็น 30 นาทีอย่างรวดเร็วและไม่ทันรู้ตัว

     มีบางช่วงที่พอถามลึกไปเรื่อยๆ (โดยเฉพาะวีรกรรมในวัยเด็ก) เป๊กเริ่มสงสัยและถามกลับมาว่า “เอ๊ะ นี่จากสื่อไหนนะครับ” ตอนนั้นทำผมสะดุ้งเหมือนกัน คิดว่าไปล้ำเส้นอะไรหรือเปล่า แต่เป๊กก็ยังตอบทุกถามกลับมาด้วยความสนุกสนานไม่มีกั๊ก รวมทั้งเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องความรัก มีไม่กี่คนหรอกที่จะเปิดเผยด้านแย่ๆ ของตัวเองออกมา แต่อยู่ดีๆ เป๊กก็พูดว่าเวลาอยู่กับแฟนแล้วจะเอาแต่ใจตัวเองมากๆ ขึ้นมาเอง

 

 

     จนภารกิจของผมเสร็จสิ้นและเตรียมตัวเก็บของกลับบ้าน ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก แถวแฟนคลับยาวเหยียดที่ทะลุออกไปนอกตึกมาลีนนท์ทำให้ผมรู้ทันทีว่าภารกิจของ ‘คุณหลวงผลิต’ คงยังไม่จบลงง่ายๆ หรือถ้าจะพูดให้ถูก ภารกิจของเขาอาจจะไม่เคย ‘ง่าย’ อยู่แล้วด้วยซ้ำ

     “เวลาลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วได้คิดว่าวันนี้จะได้ไปที่ไหน ไปจังหวัดอะไร จะได้ไปกิน ได้ไปเที่ยวอะไรบ้าง งานเป็นแบบไหน แต่งตัวอะไรดี วันนี้จะได้เจอแฟนคลับคนไหน แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว จริงๆ นี่คือโมเมนต์ที่ทำให้ผมมีความสุขมาตลอด เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่ได้มีโอกาสสัมผัสทุกวันนี้ขนาดนี้ ตอนนี้มีงานทุกวันยาวไปถึงสิ้นปี เท่ากับว่าอย่างน้อยผมยังจะมีความสุขไปได้อีกหลายเดือน แค่นี้ก็พอแล้ว หลังจากนี้จะเป็นยังไงค่อยว่ากันอีกที” คำตอบเปื้อนยิ้มในบทสัมภาษณ์ของเขาดังขึ้นมาอีกครั้งในหัวของผม

     ผมรู้ทันทีว่า ‘ความสุข’ นี้จะยังอยู่กับเขาไปได้อีกนานแสนนาน

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising