×

กูรูชี้อุตสาหกรรมคริปโตในอเมริกา ‘ตายแล้ว’ หลังถูกหน่วยงานกำกับคุมเข้ม และโยนความผิดว่าเป็นต้นเหตุของวิกฤตภาคธนาคาร

25.04.2023
  • LOADING...
Chamath Palihapitiya

Chamath Palihapitiya มหาเศรษฐีนักลงทุนด้านเทคโนโลยีและกูรูคริปโตชื่อดัง ออกมาแสดงความเห็นผ่านพอดแคสต์ว่า การเข้ามาควบคุมและกำกับดูแลอย่างเข้มงวดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ ได้ทำให้อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีในอเมริกาตายไปแล้ว 

 

ยิ่งไปกว่านั้น ปัจจัยนี้ยังได้เปลี่ยนมุมมองของเขาที่เคยเชื่อว่าบิทคอยน์จะก้าวขึ้นมามีสถานะแทนทองคำ และมีโอกาสที่ราคาจะพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 200,000 ดอลลาร์ในอนาคตอีกด้วย

 

“อุตสาหกรรมคริปโตในอเมริกาได้ตายไปแล้ว เห็นได้จากการที่หน่วยงานกำกับโยนความผิดของการล้มลงของ Silicon Valley Bank และวิกฤตภาคธนาคารในรอบนี้มาที่คริปโต ซึ่งเปรียบได้กับการเอาปืนจ่อมาที่อุตสาหกรรมคริปโต” Palihapitiya ระบุ 

 

ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ ได้ปราบปรามอุตสาหกรรมคริปโตอย่างหนัก และมีการเฝ้าติดตามบริษัทและโปรเจกต์ที่ขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก.ล.ต. มีแผนจะเสนอกฎระเบียบใหม่ ซึ่งจะเปลี่ยนวิธีการที่บริษัทคริปโตถือครองทรัพย์สินของลูกค้า

 

ต่อมาในเดือนมีนาคม ก.ล.ต. ได้เตือน Coinbase แพลตฟอร์มคริปโตชื่อดังว่าอาจถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ และเมื่อเร็วๆ นี้ ก.ล.ต. ยังได้ฟ้องร้องอีกหนึ่งแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตอย่าง Bittrex พร้อมด้วยอดีตซีอีโอในข้อหาซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนอีกด้วย

 

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้บริหารของทั้ง Coinbase และ Bittrex ออกมาระบุว่า พวกเขาอาจจำเป็นต้องย้ายฐานทางธุรกิจออกจากสหรัฐฯ หากสถานการณ์ไม่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น

 

“คริปโตถูกมองว่าเป็นภัยต่อธุรกิจการเงินแบบดั้งเดิม ทำให้หน่วยงานกำกับพยายามตีกรอบเพื่อควบคุมมันมากกว่าสตาร์ทอัพประเภทอื่นๆ” Palihapitiya กล่าว

 

ราคาของบิทคอยน์เคยพุ่งขึ้นไปทำสถิติสูงสุดที่ 69,000 ดอลลาร์ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2021 ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดดอกเบี้ยลงมาอยู่ใกล้ระดับ 0% โดยในช่วงดังกล่าว Palihapitiya เคยทำนายว่าราคาของบิทคอยน์จะพุ่งขึ้นไปสู่ระดับ 200,000 ดอลลาร์ และจะก้าวขึ้นมามีสถานะทดแทนทองคำ ก่อนที่ราคาบิทคอยน์จะร่วงลงมากว่า 60% สู่ระดับปัจจุบันที่ 27,300 ดอลลาร์

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising