×

หุ้นอิงคริปโตอ่วม! ปี 65 ขาดทุนถ้วนหน้า ฟาก JTS ย้ายฐานขุด Bitcoin ไปสหรัฐฯ หวังลดต้นทุนค่าไฟฟ้า

27.02.2023
  • LOADING...

ผลประกอบการประจำปี 2565 ของบรรดาหุ้นที่ทำธุรกิจอิงกับคริปโต รวมทั้ง Bitcoin ต่างออกมาย่ำแย่ โดยแต่ละบริษัทต่างรายงานขาดทุนสุทธิหลังจากที่ราคา Bitcoin และคริปโตอื่นๆ ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อปีก่อน

 

เมื่อปี 2565 ราคา Bitcoin ร่วงลงมาประมาณ 65% จากราว 47,700 ดอลลาร์ ไปต่ำสุดที่ประมาณ 16,400 ดอลลาร์ เช่นเดียวกับราคาของคริปโตอื่นๆ ที่ร่วงลงหนักในทิศทางเดียวกัน

 

ราคา Bitcoin และคริปโตอื่นๆ ที่ดิ่งลงส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของหุ้นที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องทั่วโลก ซึ่งรวมถึงหุ้นที่จดทะเบียนในไทยอย่างเช่น บมจ.จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น (JTS) บมจ.บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK) บมจ.เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี (AJA) บมจ.โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล (COMAN) และ บมจ.ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) เป็นต้น

 

สำหรับ JTS ที่มุ่งสู่ธุรกิจขุด Bitcoin อย่างเต็มตัว โดยติดตั้งเครื่องขุดไปแล้ว 2,641 เครื่อง ในปี 2565 เพิ่มขึ้นจาก 325 เครื่อง เมื่อปี 2564 มีรายได้จากธุรกิจขุด Bitcoin จำนวน 143.1 ล้านบาท และมีต้นทุนสำหรับการขุดจำนวน 632.9 ล้านบาท ขณะที่รายได้หลักของบริษัทยังมาจากธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม จำนวน 1,846.6 ล้านบาท ทั้งนี้ JTS มีผลขาดทุนสุทธิ 105.3 ล้านบาท สำหรับปี 2565

 

ดุสิต ศรีสง่าโอฬาร กรรมการและกรรมการผู้จัดการของ JTS กล่าวว่า บริษัทกำลังดำเนินการย้ายฐานการขุด Bitcoin จำนวน 3,500 เครื่อง คิดเป็นกำลังขุดที่ 423,000 TH/s จากไทยไปยังสหรัฐฯ โดยเป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้า และด้วยความสามารถของกำลังการขุดนี้จะช่วยให้บริษัทขุด Bitcoin ได้จำนวน 500 เหรียญ Bitcoin ต่อปี

 

นอกจาก JTS หุ้นอื่นๆ ของไทยที่ขยายธุรกิจในส่วนของการขุด Bitcoin ทั้ง AJA COMAN และ UPA ต่างรายงานผลประกอบการปี 2565 ออกมาแล้วเช่นกัน

 

สำหรับ AJA มีรายได้จากการขุด Bitcoin 28.6 ล้านบาท เทียบกับรายได้รวมทั้งหมด 349.5 ล้านบาท ขณะที่ต้นทุนจากการขุด Bitcoin อยู่ที่ 47.6 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัล จำนวน 40.5 ล้านบาท โดยภาพรวมส่งผลให้บริษัทขาดทุนสุทธิ 146.9 ล้านบาท

 

เช่นเดียวกับ COMAN ที่รุกเข้าสู่ธุรกิจขุดสกุลเงินดิจิทัลผ่านบริษัทย่อยคือ โคแมน คริปโต ในปีที่ผ่านมามีรายได้ในส่วนนี้ 19.9 ล้านบาท และมีต้นทุนจำนวน 35.7 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมของ COMAN ในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 75.9 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิ 46.3 ล้านบาท กดดันจากบันทึกค่าเผื่อการด้อยค่าเครื่องขุดคริปโตจำนวน 22.6 ล้านบาท

 

ส่วน UPA ซึ่งเตรียมจะเปลี่ยนชื่อบริษัทและชื่อย่อเป็น บมจ.กรีนเทค เวนเจอร์ส หรือ GTV โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้ ในปี 2565 ที่ผ่านมา UPA มีรายได้หลักจากการผลิตกระแสไฟฟ้า จำนวน 309 ล้านบาท และมีผลขาดทุน จำนวน 203.5 ล้านบาท แม้ UPA จะยังไม่ได้มีการรับรู้รายได้จากธุรกิจขุด Bitcoin แต่ในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทได้จ่ายเงินล่วงหน้าจำนวน 1,087.1 ล้านบาท เพื่อลงทุนในเครื่องขุด Bitcoin ใน สปป.ลาว โดยตั้งเป้าจะขยายการลงทุนให้ถึง 6,000 เครื่อง

 

ด้าน BROOK เน้นลงทุนโดยถือครองคริปโตโดยตรง มีรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสินทรัพย์ดิจิทัลรวม 106 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายเหรียญจำนวน 103 ล้านบาท ดอกผลจากการถือครองเหรียญ 34 ล้านบาท รายได้จากการขาย NFT 31 ล้านบาท รายได้จากการขุดเหรียญ 3 ล้านบาท และมีผลขาดทุนจากการรับเหรียญ BNB ตามสัญญาซื้อขาย 47 ล้านบาท

 

ขณะที่ค่าใช้จ่ายของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 421.8 ล้านบาท มาเป็น 820.7 ล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปี 2565 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 521.3 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ ราคาหุ้นของแต่ละบริษัทในช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลายบริษัทฟื้นตัวขึ้นจากราคาปิดเมื่อปลายปีก่อน โดย ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น COMAN +20%, AJA +14.3%, UPA +14.3%, BROOK +12.2% และ JTS -15.9%


บทความที่เกี่ยวข้อง 


 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising