ในประวัติศาสตร์ของเกมฟุตบอลมีนักเตะที่ถือเป็น ‘คู่ปรับ’ ที่ต้องขับเคี่ยวระหว่างกันและกันมาไม่น้อย แต่หากจะถามถึงนักฟุตบอลสองคนที่เป็นคู่แข่งแห่งชีวิต และเป็นดั่งคู่ปรับที่ฟ้าส่งมาเกิดให้ต้องห้ำหั่นกันมาโดยตลอด แน่นอนว่าจะเป็นคู่ใดไม่ได้นอกจาก ลิโอเนล เมสซี และ คริสเตียโน โรนัลโด

เรื่องราวการแข่งขันระหว่างทั้งสองนั้นเป็นดังนิทานลูกหนังชั้นดี ที่จากนี้ไปอีกสิบ ยี่สิบ สามสิบ หรือห้าสิบปี ก็ยังสามารถเล่าขานให้ลูกหลานฟังได้อย่างสนุกสนานถึงการห้ำหั่นกันด้วยผลงานในสนามระหว่างสองยอดนักฟุตบอลที่ต่างก็ถือเป็นสุดยอดในยุคสมัยของตัวเอง

อย่างไรก็ดี ทุกเรื่องดีๆ นั้นมีตอนจบด้วยกันทั้งสิ้น และเรื่องราว ‘เมสซี vs. โรนัลโด’ นั้นดูเหมือนจะเดินทางมาถึงบทสุดท้ายแล้ว โดยเฉพาะหลังจบฟุตบอลโลก 2022 ที่อาจถือเป็นฉากสุดท้ายในเรื่องราวครั้งนี้ และเส้นทางระหว่างทั้งสองที่ถูกขีดให้แยกห่างจากกันอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก

การยอมรับข้อเสนอจากอัล นาสเซอร์ ของโรนัลโด ผู้ที่ไม่สามารถหาสโมสรใดในแผ่นดินยุโรปที่เชื่อมั่นในฝีเท้าของหนึ่งในสุดยอดกองหน้าจอมถล่มประตู ถูกมองว่าเป็นการบอกและยอมรับทางอ้อมของซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุเกสว่าวันและเวลาของเขาสิ้นสุดแล้วในการเล่นฟุตบอลระดับสูงสุด หลังจากที่พิสูจน์ตัวเองมาอย่างยาวนานถึง 21 ปี ในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

5 บัลลงดอร์ 5 แชมเปียนส์ลีก 1 แชมป์ฟุตบอลยูโร และจำนวนประตูอีกมากมายมหาศาล

สำหรับโรนัลโด เขาไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้ว นับจากนี้จะเป็นช่วงเวลาของการเก็บเกี่ยวความสุข รวมถึงความมั่งคั่ง

กระนั้นการ ‘จัดฉาก’ ในการเปิดตัวฮีโร่ลูกหนังของชาวตะวันออกกลางคนใหม่ในเกมกระชับมิตรกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง ก็ดูเป็นความคิดที่สำหรับโรนัลโดและคนที่รักเขา อาจจะรู้สึกว่าเหมือนเอาเกลือมาทาแผลที่เกิดขึ้นใหม่

ไม่เคยมีใครยอมใครระหว่างคู่ปรับฟ้าประทาน

โรนัลโดจะสวมปลอกแขนกัปตันทีม ‘ริยาด XI’ หรือทีมรวมดาราของอัล นาสเซอร์ ต้นสังกัดของเขา และ อัล ฮิลาล สโมสรอันดับหนึ่งของซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นทีมคู่ปรับร่วมเมือง ต้อนรับการมาเยือนของทีมเปแอสเช ซึ่งนำมาโดยเมสซี ที่เดินทางมาอุ่นเครื่องที่ซาอุดีอาระเบียเป็นจุดแวะพักหลังเดินทางไปกาตาร์

แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความบังเอิญ หากแต่เป็นการวางแผนอย่างรอบคอบและมีนัยสำคัญที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง

เพราะนี่คือเกมที่ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์กันระหว่างซาอุดีอาระเบียและกาตาร์ ภายหลังจากที่แตกร้าวจนแทบสลายในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา แต่เริ่มมีความพยายามในการที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกันในช่วงที่ผ่านมา

ย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายน ภาพของ ชีค ตะมีม บิน ฮามัด อัษษานี เจ้าผู้ครองนครรัฐกาตาร์ และ เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย ที่นั่งร่วมกันในพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 โดยมี จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) นั่งระหว่างกลางเป็นภาพที่ทรงพลังอย่างยิ่งในทางการเมืองที่มีเกมกีฬาเป็นตัวประสานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

สำหรับเกมในค่ำคืนนี้ ‘ริยาด XI’ คือตัวแทนของซาอุดีอาระเบีย ในขณะที่ปารีส แซงต์ แชร์กแมง คือตัวแทนของกาตาร์ โดยที่ต่างฝ่ายต่างก็มีสุดยอดนักเตะแห่งยุคสมัยอยู่ในทีมฝ่ายละหนึ่งคน

ในความรู้สึกของโลกภายนอกแน่นอนว่าอาจมีการเปรียบเทียบกันระหว่างเมสซีและโรนัลโด ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่สำหรับชาวซาอุดีอาระเบียและอาจรวมถึงชาวตะวันออกกลางทั้งหมด การพบกันอีกครั้งของทั้งสอง ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายของทั้งคู่ คือเกมแห่งชัยชนะของพวกเขา

กระแสฟุตบอลในโลกตะวันออกกลางกำลังร้อนแรงถึงขีดสุดหลังการมาของโรนัลโด โดยตอนนี้เด็กๆ ในซาอุดีอาระเบียต่างต้องการเข้ามาชมการแข่งขันในสนามเพื่อรับแรงบันดาลใจจากเขา ไม่นับการที่โรนัลโดเป็นผู้เปิดประตูให้แก่นักฟุตบอลระดับสตาร์อีกมากมายที่สามารถย้ายมาค้าแข้งที่นี่ได้

ขณะที่การปรากฏตัวอีกครั้งบนแผ่นดินทะเลทรายของเมสซี ก็จะยิ่งช่วยโหมไฟนั้นให้ร้อนแรงมากยิ่งขึ้น

สิ่งที่เป็นตัวบ่งชี้ได้คือการที่เมื่อมีการเปิดจำหน่ายตั๋วเข้าชมเกมนี้ มีผู้ที่เข้าคิวออนไลน์ซื้อตั๋วเข้าชมถึง 2 ล้านคน

หนึ่งในนั้นมีการประมูลตั๋วเข้าชมด้วยมูลค่าที่สูงถึง 2.1 ล้านปอนด์ สำหรับตั๋วสุดพิเศษในระดับ ‘เหนือจินตนาการ’ ​หรือ ‘Beyond Imagination’ ซึ่งจะได้สิทธิพิเศษนอกจากที่นั่งชมเกมที่ดีที่สุดแล้วจะได้เข้าห้องแต่งตัว รวมถึง Meet-and-Greet กับโรนัลโด, เมสซี และอีก 2 ซูเปอร์สตาร์อย่าง เนย์มาร์ และ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่อยู่กับปารีส แซงต์ แชร์กแมงด้วย

แฟนฟุตบอลชาวเยอรมนีคนหนึ่งเล่าในโลกออนไลน์ว่าเคยซื้อตั๋วเข้าชมเกมของทีมนิวยอร์ก คอสมอส ซึ่งสองสุดยอดตำนานลูกหนังโลกอย่าง เปเล่ ได้ลงสนามกับ ฟรานซ์ เบ็คเคนเบาเออร์ ด้วยราคา 718 ปอนด์ ในปี 1977

“มันคือเกมที่เราเอาไว้เล่าให้ลูกหลานฟังได้”

งานประกาศรางวัลต่างๆ เคยเป็นสมรภูมิระหว่างทั้งสอง

การพบกันระหว่างทั้งสองในครั้งนี้จึงอาจแตกต่างจากการพบกันในการประกาศรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของ FIFA ในปี 2007 ซึ่งครั้งนั้นโรนัลโดถูกทำให้รู้สึกอับอายเล็กๆ เมื่อเปเล่ ในฐานะผู้เชิญรางวัล ได้มอบรางวัลผิดจนพิธีกรต้องขอรางวัลอันดับ 2 คืนจากเขาให้แก่เมสซี ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของการขับเคี่ยวที่ยาวนาน

และหากฟุตบอลโลก 2022 คือฉากจบของนิทานลูกหนังเรื่องคู่ปรับฟ้าประทาน ซึ่งไม่จำเป็นต้องแข่งขันอะไรกันอีกแล้ว

เกมที่ริยาดในคืนนี้ก็อาจเป็น End Credit ที่มอบให้แก่แฟนๆ ทั้งสองฝ่าย ได้เห็นการลงเล่นฟุตบอลในสนามเดียวกันอีกครั้งของสองสุดยอดนักเตะตลอดกาล

ก่อนจะปิดกล่องความทรงจำเอาไว้เท่านี้และเก็บไว้ในห้องของหัวใจ

หมายเหตุ: เกม ริยาด XI vs. ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ถ่ายทอดสดคืนวันที่ 19 มกราคม เวลา 23.55 น. ทาง beIN SPORTS

อ้างอิง:

• https://www.thetimes.co.uk/article/lionel-messis-saudi-arabia-pitstop-will-show-ronaldo-how-far-he-has-fallen-00fgs9m5t
• https://www.espn.com/soccer/paris-saint-germain–frapsg/story/4855472/vip-ticket-for-messi-ronaldo-clash-goes-for-26-million
• https://www.espn.com/soccer/blog-the-toe-poke/story/4088676/messi-and-ronaldos-most-memorable-clashes-from-the-champions-league-to-el-clasico