‘CPF’ ประกาศนำบริษัทย่อย ‘CPFGS’ ทำธุรกิจขายเนื้อสัตว์กับอาหารแปรรูป, ร้านอาหาร รวมทั้งเป็นแฟลกชิปธุรกิจร้านอาหารในไทย พร้อมตั้ง บล.บัวหลวง-บล.ภัทร เป็น FA ยื่นไฟลิ่งขาย IPO จำนวนไม่เกิน 500.01 ล้านหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น
กอบบุญ ศรีชัย เลขานุการบริษัท บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ CPF แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2566 บมจ.ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น หรือเดิมชื่อ บริษัท ซีพีเอฟ เทรดดิ้ง จำกัด (CPFGS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ CPF ได้ยื่นคำขออนุญาตและยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) เพื่อการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และได้ยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
พร้อมกันนี้ CPF และบริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิง จำกัด(CPM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ CPF ได้ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อการเสนอขายหุ้นสามัญที่ถือใน CPFGS ต่อประชาชนในคราวเดียวกัน
โดยการออกและเสนอขายหุ้น IPO ของ CPFGS รวมจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 500.01 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 30% ของหุ้นของหุ้นทั้งหมดใน CPFGS ภายหลังการขายหุ้น IPO โดยประกอบด้วยรายละเอียดดังนี้
- การเสนอขายหุ้น IPO ออกใหม่ของ CPFGS จำนวนไม่เกิน 66.70 ล้านหุ้น
- การเสนอขายหุ้นสามัญใน CPFGS บางส่วนที่ถือโดย CPF จำนวนไม่เกิน 316.66 ล้านหุ้น
- การเสนอขายหุ้นสามัญใน CPFGS บางส่วนที่ถือโดย CPM จำนวนไม่เกิน 116.66 ล้านหุ้น
ทั้งนี้ CPFGS จะยังคงมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ CPF และสัดส่วนการถือหุ้นรวมกันของ CPF และ CPM ใน CPFGS จะไม่น้อยกว่า 70% ของหุ้นทั้งหมดหลังการ IPO
สำหรับการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้จะเป็นการเสนอขายให้กับผู้ลงทุนประเภทต่างๆ ซึ่งอาจรวมถึงผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนหลักโดยเฉพาะเจาะจง (Cornerstone Investors) และผู้ถือหุ้นของ CPF เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้นใน CPF ณ วันกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้น (Record Date) (Pre-emptive Rights) ตามที่คณะกรรมการบริษัทของ CPFGS, CPF และ CPM เห็นสมควรหรือพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลง
โดยอาจสงวนสิทธิที่จะไม่เสนอขายหรือไม่จัดสรรหุ้น IPO ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ CPF รายใดในกรณีที่การเสนอขายหรือจัดสรรหุ้นสามัญดังกล่าวจะทำให้หรืออาจเป็นผลให้ CPFGS, CPF หรือ CPM มีความเสี่ยงต่อการกระทำการที่ขัดต่อกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับของต่างประเทศ
นอกจากนี้คณะกรรมการของ CPF จะพิจารณากำหนดวันกำหนดสิทธิ (Record Date) ของผู้ถือหุ้นของ CPF ที่จะมีสิทธิในการจองซื้อหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น ณ วันกำหนดสิทธิ และจะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบต่อไปการเสนอขายหุ้น IPO เข้าข่ายเป็นรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สำหรับ CPFGS และบริษัทย่อย เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการบริการด้านอาหารแบบครบวงจร (Food Solutions) โดย CPFGS ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปของ CPF ภายในประเทศไทยและจำหน่ายไปยังต่างประเทศแต่เพียงผู้เดียวจากฐานการผลิตของ CPF ในประเทศไทย (Exclusive Distributor and Exporter)
นอกจากนี้ CPFGS มีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ CPFGS จัดหาจากบุคคลภายนอก รวมทั้งเป็นบริษัทแฟลกชิปของ CPF สำหรับการดำเนินธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทย และธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
อนึ่ง การเสนอขายหุ้น IPO ดังกล่าวจะกระทำได้ต่อเมื่อ CPFGS ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. และแบบไฟลิ่งที่ยื่นโดย CPFGS, CPF และ CPM มีผลใช้บังคับแล้ว และขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่างๆ ที่ CPFGS จะต้องดำเนินการให้ครบถ้วนสมบูรณ์ โดย CPF จะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้น IPO ให้ทราบต่อไป
ขณะที่ CPFGS ระบุในแบบไฟลิ่งถึงแผนการใช้เงินจาก IPO จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และ/หรือชำระคืนเงินกู้ยืม รวมถึงการลงทุนที่สอดคล้องกับกลยุทธ์และ/หรือธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการเข้าซื้อและควบรวมกิจการ (M&A) เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกิจการของบริษัทฯ และบริษัทย่อย
CPFGS ตั้ง บล.บัวหลวง-บล.ภัทร เป็น FA ขาย IPO
ด้าน สุจริต มัยลาภ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น หรือ CPFGS เปิดเผยว่า CPFGS เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหาร รวมถึงกิจการร้านอาหารและธุรกิจขนมสัตว์เลี้ยง ภายใต้กลุ่มซีพีเอฟ โดย CPFGS จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปของ CPF ภายในประเทศไทยและจำหน่ายไปยังต่างประเทศแต่เพียงผู้เดียว (Exclusive Distributor and Exporter)
สำหรับผลิตภัณฑ์จากฐานการผลิตของ CPF ในประเทศไทย นอกจากนี้ CPFGS มีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ CPFGS จัดหาจากบุคคลภายนอก โดยได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านอาหารแก่ผู้บริโภคทั่วไป รวมถึงลูกค้าเชิงพาณิชย์ (Commercial Customer) เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง (HoReCa) ผ่านช่องทางที่หลากหลายทั้งในไทยและประเทศต่างๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ CPFGS ยังมีธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยภายใต้กิจการห้าดาวและกิจการร้านอาหารเชสเตอร์ รวมถึงธุรกิจขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงด้วย โดยธุรกิจหลักของ CPFGS รวมไปถึงธุรกิจดังต่อไปนี้
- การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปในประเทศไทยและในต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์โดยหลัก ได้แก่ เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อเป็ด ไข่ไก่ เนื้อกุ้ง และเนื้อปลา ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ ไส้กรอก ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุง ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน
- ธุรกิจร้านอาหารคือ กิจการห้าดาว (Five Star) ร้านเชสเตอร์ (Chester’s) ศูนย์อาหารฟู้ดเวิลด์ การให้บริการจัดเลี้ยง และร้านอาหารอื่นๆ ซึ่งมีจำนวน 5,101 แห่งทั่วประเทศไทย
- ผลิตภัณฑ์ขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงคือ ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มมูลค่า (Value-added Pet Snack Products) ภายใต้ตราสินค้า Jerhigh และ Jinny
CPFGS มีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารในประเทศไทยผ่านช่องทางการจำหน่ายแบบ B2B2C, B2B และ B2C ผ่านร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เช่น 7-Eleven, Makro, Lotus’s, Big C, Tops, Central Food Hall และร้านค้าปลีกในเครือ The Mall นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายและส่งออกไปยัง 53 ประเทศทั่วโลก ภายใต้ช่องทางการจำหน่าย B2B2C และ B2B ทั้งในทวีปเอเชีย ยุโรป อเมริกา โอเชียเนีย และแอฟริกา
สำหรับรายได้งวดสิ้นปี 2565 ที่ผ่านมา CPFGS มีรายได้รวมจากการขายสินค้าจำนวน 170,830 ล้านบาท และมีกำไรสำหรับปีจำนวน 6,173 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไร 3.6% โดยระหว่างปี 2563 และ 2565 รายได้และกำไรของ CPFGS มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 18.4% และ 120.3% ตามลำดับ
ทั้งนี้บริษัทได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง และ บล.เกียรตินาคินภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ในการขายหุ้น IPO