ความสำเร็จของการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสินค้าใหม่ ‘ไส้กรอกนมฮอกไกโด’ ในรูปแบบ Global Live ของซีพี ที่ทำให้ ‘ไส้กรอกไทย’ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 2 ของโลกได้ กำลังเป็นกรณีศึกษาที่นักการตลาด นักโฆษณา และเจ้าของแบรนด์สนใจ ในเมื่อทุกคนสามารถเข้าถึงเครื่องมือทางการตลาดได้เหมือนกัน แต่ทำไมผลลัพธ์กลับต่างกัน 

หากจะบอกว่านี่ไม่ใช่แผนการตลาดแรก แต่ถูกถอด ปรับ และจับมาเขย่ากลยุทธ์ใหม่แบบวันต่อวัน จริงอยู่ที่การเลือกพรีเซนเตอร์อย่าง วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร นักแสดงวัยรุ่นชื่อดังที่มีแฟนคลับทั้งในไทยและต่างประเทศ จะเป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนการตลาดได้อย่างดี แต่แผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมพรีเซนเตอร์คนใหม่ในรูปแบบอีเวนต์ออฟไลน์ต้องถูกพับไปเมื่อโควิด-19 ระลอกใหม่ทำพิษ และ Virtual Event คือทางออก

แค่ย้ายแพลตฟอร์มออฟไลน์ไปออนไลน์คงไม่ได้ เพราะซีพียังต้องการสร้างประสบการณ์ร่วมให้คนอีกฝั่งได้สัมผัสถึง ‘ความอร่อย’ ของ ‘ไส้กรอกนมฮอกไกโด’ และแค่รับรู้ไม่ได้ รู้แล้วต้องอยากลองด้วยตัวเอง  

นักการตลาดรู้ แบรนด์รู้ ว่าโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางที่สร้างการสื่อสารได้อย่างมีคุณภาพ หากสามารถเข้าใจพฤติกรรมหรือความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ในเมื่อกลุ่มเป้าหมายคือคนรุ่นใหม่และแฟนคลับของ วิน เมธวิน มีพฤติกรรมการใช้สื่อโซเชียลมีเดียในการเข้าถึงข้อมูลเป็นหลัก ซีพีจึงเลือกจัดงานแถลงข่าวผ่าน Facebook Live ยิ่งไปกว่านั้นซีพียังรู้มาว่าแฟนคลับของ วิน เมธวิน ไม่ได้มีเฉพาะคนไทย จึงปรับกลยุทธ์จัดกิจกรรมในรูปแบบ Global Live เปิดโอกาสให้แฟนคลับทั่วโลกร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานแถลงข่าวเปิดตัวสินค้าใหม่ครั้งแรกของไทย

ซีพีอินไซต์ไปถึงความรู้สึกของแฟนดอมที่ต้องการใกล้ชิดศิลปิน เมื่อ Meet & Greet แบบเอ็กซ์คลูซีฟยังเกิดขึ้นไม่ได้ในช่วงนี้ จึงยกระดับกระชับความใกล้ชิดให้แฟนคลับทั่วประเทศด้วยกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ผสมผสานเทคโนโลยี Zoom เพื่ออัปเกรด Meet Call แบบเดิมๆ ให้กลายเป็น Private Meet & Greet และ Private Call พร้อมเซอร์ไพรส์สุดประทับใจจาก ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี ที่มาร่วมกิจกรรม ถึงจะเป็นคนสนิทแต่ก็ไม่ลืมที่จะเว้นระยะ ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อรักษาความปลอดภัยอีกด้วย 

ผสานเครื่องมือทรงพลังกับสรรพกำลังของแฟนด้อม
ถ้าจะให้บอกว่าอะไรคือไม้ตายที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ยอดทวีต 1 ล้านทวีตภายใน 2 ชั่วโมง หรือครั้งแรกของซีพีที่ติดเทรนด์ทวีตอันดับ 2 ของโลก และเป็นครั้งแรกเช่นกันที่ผู้บริโภคใน 8 ประเทศ พร้อมใจสนับสนุนจนขึ้นเทรนด์ทวีตอันดับ 1 ในแต่ละประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์, เมียนมา, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, เม็กซิโก, ไต้หวัน, สิงคโปร์ และประเทศไทย คงจะเป็นความชาญฉลาดของซีพีที่ตั้งต้นด้วยการนำอินไซต์ของผู้บริโภคและแฟนด้อมมาวิเคราะห์ว่าอะไรคือความต้องการที่แท้จริง และมองเห็นถึงสรรพกำลังอันยิ่งใหญ่ของคนกลุ่มนี้ ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้กระจายข่าวและสร้างคอนเทนต์ให้ศิลปินที่ชื่นชอบ ได้ Free Media มูลค่ามหาศาลบนพื้นที่โซเชียลของแฟนคลับ เหนือสิ่งอื่นใดคือการให้ในสิ่งที่แฟนด้อมต้องการ นั่นคือความเอ็กซ์คลูซีฟอย่าง Private Meet & Greet และ Private Call นั่นเอง  

ทั้งฟินและอิ่มบุญเมื่อแฟนคลับได้ร่วมประมูลของที่ระลึกก่อนนำไปบริจาคให้ 3 มูลนิธิ
งานในครั้งนี้ซีพีใช้กลยุทธ์สร้างความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างผู้บริโภค แฟนคลับ และแบรนด์ ผ่านการประมูลของที่ระลึกของวิน เมธวิน โดยรายได้ทั้งหมดจะนำไปซื้อไส้กรอกนมฮอกไกโด และบริจาคให้กับมูลนิธิต่างๆ 3 แห่ง ได้แก่ สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี และมูลนิธิบ้านนกขมิ้น ได้ทำบุญร่วมกับคนที่ตนชื่นชอบ แถมได้ครอบครองของที่ระลึก ใครเลยจะเมินเฉยได้ นั่นทำให้ยอดการประมูลในวันนั้นสูงถึง 200,000 บาท 

ล่าสุด CPF ผู้ร่วมประมูลและแฟนคลับกาตุ่ยวินก็ได้ส่งมอบไส้กรอกนมฮอกไกโด พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพอื่นๆ ให้แก่มูลนิธิทั้ง 3 แห่ง เพื่อเติมความสุขและความอิ่มอร่อยให้กับน้องๆ ผู้ด้อยโอกาสเป็นที่เรียบร้อย 

ปรากฏการณ์ ‘ไส้กรอกนมฮอกไกโด’ ติดเทรนด์ทวีตโลกภายใน 2 ชั่วโมง! พิสูจน์ได้ว่า แม้แบรนด์จะงานแถลงข่าวในรูปแบบ Virtual Event และไม่จำเป็นต้องเน้นกิจกรรมใกล้ชิดศิลปินแบบถึงตัว หรือทุ่มงบไปกับเวที บูธกิจกรรมใดๆ ก็สร้างกระแสและเสียงตอบรับที่ดีเกินคาดได้เช่นกัน แค่รู้เท่าทันอินไซต์ผู้บริโภค และหาวิธีใช้โซเชียลมีเดียที่มีให้ดีที่สุด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าแคมเปญนี้ตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้อย่างงดงาม และผลพวงที่ได้จากแคมเปญนี้ยังนำไปสู่การเติบโตของตลาดไส้กรอก แม้ว่าที่ผ่านมาซีพีจะวางกลยุทธ์การตลาดโดยอิงเทรนด์การบริโภคไส้กรอกให้เหมือนเป็นสแน็ก คือกินได้ทุกช่วงเวลา แต่ก็ต้องสู้กับคู่แข่งอื่นๆ บวกกับช่วงเปิดตัวรสชาติใหม่ตรงกับการระบาดครั้งใหม่ของโควิด-19 ไม่มากก็น้อยที่ยอดขายในช่วงนั้นคงไม่น่าพอใจนัก แต่ก็อย่างที่เห็น แค่รู้เท่าทันอินไซต์ผู้บริโภค และหาวิธีใช้โซเชียลมีเดียที่มีให้ดีที่สุด ก็พลิกเกมสร้างการเติบโตให้ตลาดไส้กรอกสวนกระแสทุกวิกฤตได้แบบสบายๆ

คงต้องรอดูว่าเกมการตลาดบทต่อไปของซีพีจะมีไม้เด็ดอะไร เพราะดูทีท่ารูปแบบอีเวนต์ออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จใครๆ ก็อยากทำตาม แล้วซีพีจะปรับกลยุทธ์เพื่อกระโดดขึ้นมายืนแถวหน้าจนสามารถสร้างปรากฏการณ์ในรูปแบบไหน…ต้องติดตาม