บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP ALL ได้รายงานผลการดําเนินงานไตรมาส 3/62 โดยพบว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 141,072 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 8.2% โดยปัจจัยหลักที่ทําให้รายได้รวมเพิ่มขึ้น มาจากธุรกิจร้านสะดวกซื้อภายใต้ชื่อ 7-Eleven และธุรกิจศูนย์จําหน่ายสินค้าระบบสมาชิกแบบชําระเงินสดและบริการชื่อสยามแม็คโคร
ไตรมาสนี้มีต้นทุนในการจัดจําหน่าย และค่าใช้จ่ายในการบริหารรวม 28,052 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.2% โดยมีค่าใช้จ่ายกลุ่มต้นทุนในการจัดจําหน่าย 23,639 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.7% เนื่องจากได้ขยายสาขา และค่าใช้จ่ายที่ผันแปรตามยอดขาย เช่น ค่าโฆษณาและส่งเสริมการขาย ค่าบริหารงานร้านสะดวกซื้อ และรวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการลงทุนในต่างประเทศของธุรกิจสยามแม็คโคร
เมื่อรวมกันแล้วบริษัทและบริษัทย่อยมีกําไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ จํานวน 8,435 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่กําไรสุทธิ 5,612 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.3%
งวด 9 เดือน CP ALL มีรายได้รวมจํานวน 423,184 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากรายได้จากการขายสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น 9.3% ทั้งนี้รายได้หลัก 66% มาจาก 7-Eleven และ 34% มาจากสยามแม็คโคร ในขณะที่กําไรสุทธิมีจํานวน 16,176 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2%
สำหรับร้าน 7-Eleven ยังมุ่งเป้าเปิดให้ครบ 13,000 สาขาภายในปี 2564 ไตรมาสนี้เปิดใหม่ทั้งสิ้น 112 สาขา ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 3 มีจํานวนร้านสาขาทั่วประเทศทั้งสิ้น 11,640 สาขา แบ่งเป็นบริหารเอง 5,249 สาขา และแฟรนไชส์ 6,391 สาขา
ในภาพรวมมีรายได้จากยอดขาย 83,229 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,378 ล้านบาท หรือ 8.3% มียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวัน 80,714 บาท ยอดซื้อต่อบิล 70 บาท และจํานวนลูกค้าเฉลี่ยต่อสาขาต่อวัน 1,153 คน
ด้านงวด 9 เดือน มีรายได้รวมจํานวน 270,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% โดยการเติบโตเกิดจากรายได้จากการขายสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่กําไรสุทธิมีจํานวน 16,952 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
