กลุ่มนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ เผยแพร่รายงานในวารสารการแพทย์ The Lancet เมื่อวานนี้ (13 กันยายน) ระบุว่า การวัคซีนต้านโควิดเข็ม 3 หรือ Booster Shot เพื่อกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันยังไม่มีความจำเป็นสำหรับประชาชนทั่วไป และไม่มีความเหมาะสมต่อสถานการณ์ระบาดของโควิดในตอนนี้ แม้จะมีภัยคุกคามจากไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่แพร่ระบาดได้ง่ายมากขึ้น
รายงานดังกล่าว ซึ่งเขียนโดยนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ 18 คน รวมถึงนักวิทยาศาสตร์ระดับหัวแถวจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯ และองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า การตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับความจำเป็นและเวลาที่เหมาะสมในการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นนั้น ควรอยู่บนพื้นฐานการวิเคราะห์ข้อมูลทางคลินิกภายใต้การควบคุมและข้อมูลทางระบาดวิทยา
ขณะที่ทีมนักวิทยาศาสตร์มองว่า จำเป็นต้องมีหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ถึงความเหมาะสมและประสิทธิภาพของวัคซีนเข็มกระตุ้น ในการป้องกันอาการป่วยรุนแรงจากการติดเชื้อโควิดทุกสายพันธุ์รวมถึงเดลตา ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลการศึกษาวิจัยใดๆ เกี่ยวกับวัคซีนโควิด แสดงหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นนั้นจะช่วยลดอาการป่วยรุนแรงจากการติดเชื้อ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักสำหรับการฉีดวัคซีนได้
“หลักฐานในปัจจุบันไม่ได้แสดงถึงความจำเป็นสำหรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ประชาชนทั่วไป ซึ่งประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันอาการป่วยรุนแรงจากการติดเชื้อยังคงสูงอยู่” รายงานระบุ แต่ยอมรับว่าท้ายที่สุดอาจจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ประชาชนทั่วไปหากภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีนลดลง หรือมีไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของวัคซีนได้
ด้าน เอนา มาเรีย เฮนาโย เรสเตรโป ผู้เขียนนำ และนักวิทยาศาสตร์จาก WHO ระบุว่าสิ่งที่จำเป็นในตอนนี้ คือการมุ่งเน้นความสำคัญไปที่การฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนทั่วโลกที่ยังไม่ได้รับการฉีดก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งจะเป็นหนทางในการยับยั้งการกลายพันธุ์ของไวรัสและเป็นจุดสิ้นสุดของการแพร่ระบาด
“หากมีการใช้วัคซีนในจุดที่ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด พวกเขาสามารถเร่งการสิ้นสุดของการแพร่ระบาดได้ โดยการยับยั้งการกลายพันธุ์เพิ่มเติมของไวรัสโควิดสายพันธุ์ต่างๆ” เรสเตรโปกล่าว
การเผยแพร่รายงานดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ผลการศึกษาวิจัยหลายฉบับแสดงให้เห็นว่าวัคซีนโควิดที่ได้รับการอนุมัติใช้งานในสหรัฐฯ ยังคงมีประสิทธิภาพต้านทานอาการป่วยรุนแรงและการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา
ขณะที่ข้อสรุปของรายงานยังสวนทางกับแผนของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ประกาศจะเริ่มต้นการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่ชาวอเมริกันที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ทีมนักวิทยาศาสตร์ผู้เขียนรายงานยังระบุถึงความกังวลต่อความเสี่ยงในการเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเร็วเกินไป ซึ่งรวมถึงผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน เช่น ภาวะหัวใจอักเสบหายากที่เรียกว่ากล้ามเนื้อหัวใจตาย ซึ่งพบได้มากขึ้นหลังการฉีดวัคซีน mRNA เข็มที่ 2
ภาพ: Photo Illustration by Pavlo Gonchar / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: