วันนี้ (26 มีนาคม 2564) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความสำคัญของวัคซีนโควิด-19 ว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดสรรและกระจายวัคซีนโควิด-19 ไปยังพื้นที่เป้าหมาย เพื่อฉีดให้แก่กลุ่มเป้าหมายตามแผนที่วางไว้แล้ว ซึ่งจังหวัดต่างๆ ที่ได้รับวัคซีนสามารถดำเนินการฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมาย จังหวัดสมุทรสาครซึ่งได้รับวัคซีนจำนวนมากเป็นจังหวัดแรกๆ เนื่องจากเป็นต้นทางการระบาดในระลอกใหม่ก็ได้ฉีดครบในเข็มที่หนึ่ง ขอให้มารับวัคซีนเข็มที่สองตามนัดเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
ทั้งนี้ รัฐบาลมีความต้องการในการเปิดประเทศ ซึ่งการเปิดประเทศได้จำเป็นจะต้องมีความปลอดภัย โดยเฉพาะประชาชนภายในประเทศ ซึ่งการฉีดวัคซีนในระดับบุคคล นั้นจะมีความปลอดภัยอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้เกิดภูมิคุ้มกันในระดับประเทศหรือระดับจังหวัดต้องมีจำนวนผู้ได้รับวัคซีนประมาณร้อยละ 60 ของประชากรในพื้นที่
“เราจึงต้องขอความร่วมมือของประชาชนต่อในเรื่องของวัคซีนโควิด-19 ซึ่งการระบาดระลอกแรกใช้มาตรการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ครั้งนี้จึงขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันฉีดวัคซีนเพื่อชาติอีกครั้ง ถ้าเราฉีดวัคซีนได้ถึงร้อยละ 50-60 ของประชากร ก็จะสามารถเปิดประเทศได้อย่างปลอดภัย การทำธุรกิจ การท่องเที่ยวก็เดินหน้าได้ ประเทศไทยก็จะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว” นพ.เกียรติภูมิกล่าว
นพ.เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากวัคซีนโควิด-19 ที่พิจารณานำมาใช้กับคนไทย ต้องเป็นวัคซีนที่ดี มีคุณภาพ มีความปลอดภัย และเหมาะสมกับคนไทย ขณะนี้มีการจัดหาวัคซีนโควิด-19 แล้วรวมกว่า 73 ล้านโดส ประกอบด้วย ซิโนแวค 2 ล้านโดส อยู่ระหว่างเจรจาจัดซื้ออีก 5 ล้านโดส และแอสตร้าเซนเนก้า 61 ล้านโดส และจะได้รับจากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด อีก 5 ล้านโดส จึงมั่นใจว่ามีวัคซีนเพียงพอสำหรับทุกคนในประเทศที่จำเป็นต้องได้รับการฉีด
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์