หลายคนอาจมองว่าการระบาดของโรคโควิด-19 จะทำให้ธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีรายได้ที่เติบโตสูงขึ้น อันเป็นผลมาจากการที่ผู้บริโภคไม่อยากเดินทางออกจากที่พักไกล จึงเลือกซื้อสินค้าที่อยู่ใกล้บ้าน แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่
เพราะบริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) หรือ CPALL เพิ่งได้รายงานผลการดําเนินงานไตรมาส 2/63 โดยพบว่าบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 128,027 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 10.6% โดยปัจจัยหลักมาจากการควบคุมการระบาดของโรคจากรัฐบาลเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ ซึ่งมีความรุนแรงมากที่สุดในเดือนเมษายน และลดระดับลงในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนตามลำดับ ทำให้ภาพรวมกำไรสุทธิลดลง 39.8% เหลือ 2,887 ล้านบาท
เมื่อเจาะเข้าไปยังธุรกิจร้านสะดวกซื้อภายใต้ชื่อ 7-Eleven พบว่ามีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 70,359 ล้านบาท ลดลง 17% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาสนี้มียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวันเท่ากับ 66,950 บาท และยอดขายเฉลี่ยของร้านเดิมลดลง 20.2% โดยมียอดซื้อต่อบิลโดยประมาณเท่ากับ 79 บาท ในขณะที่จำนวนลูกค้าต่อสาขาต่อวันเฉลี่ย 841 คน
CPALL ระบุว่าจำนวนลูกค้าลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากผลกระทบจากมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 จากรัฐบาล เช่น การจำกัดการเดินทางระหว่างจังหวัด การขอความร่วมมือให้อยู่แต่ในที่พักอาศัย การประกาศห้ามออกจากเคหสถาน (เคอร์ฟิว) และการห้ามจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการเลื่อนวันหยุดราชการในช่วงเทศกาลสงกรานต์
อย่างไรก็ตาม CPALL ได้ปรับกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปอันเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาด โดยนำเสนอช่องทางการขายสินค้าผ่านระบบ O2O เช่น 7-Eleven Delivery, All Online และ 24Shopping โดยมุ่งหวังให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ รวมถึงสินค้าภายในร้าน 7-Eleven ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วทั้งบริการส่งถึงปลายทางหรือรับสินค้าที่ร้าน ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับที่ดี แต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้
ทั้งหมดได้ทำให้กำไรสุทธิลดลง 25% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เหลือ 5,484 ล้านบาท โดยไตรมาสนี้ 7-Eleven มีการขยายสาขาใหม่ทั้งสิ้น 106 สาขาในทุกประเภท ณ สิ้นไตรมาส 2/63 มีจำนวนสาขาทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 12,089 สาขา แบ่งเป็นสาขาบริษัท 5,456 สาขา กับร้าน SBP และร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต 6,633 สาขา
CPALL ยังได้ระบุอีกว่า ด้วยปัจจุบันสถานการณ์ของการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ยังคงมีอยู่ ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในการประมาณการผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้น รวมถึงประมาณการรายได้จากการขายและบริการ อัตรากำไรขั้นต้น และงบลงทุนสำหรับปี 2563 ได้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
