สถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดทั่วโลก (30 ธ.ค. 2563)

วันนี้ (30 ธันวาคม) คามาลา (กมลา เทวี) แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกา และสามี ดัก เอ็มฮอฟฟ์ ว่าที่สุภาพบุรุษหมายเลขสอง เข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 จาก Moderna แล้วที่ United Medical Center ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐฯ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพลเมืองอเมริกันว่าวัคซีนที่ได้รับการรับรองให้ใช้ในวงกว้างเป็นกรณีฉุกเฉินเหล่านี้มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง

โดยก่อนหน้านี้ โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯ และจิล ไบเดน ว่าที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนใหม่ รวมถึง ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน พร้อมด้วยภริยา เข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้มีเพียงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเมลาเนีย ทรัมป์ ที่ยังไม่เข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งทรัมป์ให้เหตุผลว่าตัวเขายังมีภูมิจากการรักษาเมื่อครั้งตั้งแต่ที่เขาตรวจพบการติดเชื้อในช่วงแรกอยู่ และจะเข้ารับวัคซีนก็ต่อเมื่อทีมแพทย์ของทำเนียบขาวแนะนำ

ล่าสุด สหรัฐฯ พบผู้ติดโควิด-19 กลายพันธ์ุชนิดเดียวกันกับที่ตรวจพบในสหราชอาณาจักรเป็นรายแรกของประเทศแล้ว ทางตอนใต้ของเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด เป็นเพศชาย อายุประมาณ 20-30 ปี ไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ โดยทางการกำลังเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 กลายพันธ์ุนี้ แต่ยังเชื่อมั่นว่าวัคซีนต้านโควิด-19 จะยังคงมีประสิทธิภาพสูงในการต้านไวรัสกลายพันธ์ุนี้ได้

ยอดสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 81.9 ล้านราย (81,919,010 ราย) รักษาหายกว่า 58.3 ล้านราย (58,311,965 ราย) หรือคิดเป็นราว 71% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด เสียชีวิตแล้ว 1,787,033 ราย อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ราว 2.2%

ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรกคือ สหรัฐอเมริกา (19,526,228 ราย) ตามมาด้วยอินเดีย (10,224,303 ราย) บราซิล (7,563,551 ราย) รัสเซีย (3,073,923 ราย) และฝรั่งเศส (2,631,110 ราย) พบผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 185 จาก 193 ประเทศทั่วโลก

บทความที่เกี่ยวข้อง: