วันนี้ (24 กุมภาพันธ์) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป พร้อมด้วย นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข, นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-2019 ว่าผู้ป่วยชายชาวจีนที่เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังและเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลแม่สอดด้วยอาการโรคระบบทางเดินหายใจนั้น ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 2 แห่งได้ผลเป็นลบ ไม่พบสารพันธุกรรมเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
แต่ยังรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล เนื่องจากผู้ป่วยอยู่ในภาวะวิกฤตจากโรคประจำตัวที่มีอยู่เดิม ขณะนี้ทุกด่านทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ ด่านธรรมชาติ ยังคงเข้มงวดการเฝ้าระวังคัดกรองผู้เดินทางอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศไทยมีผู้ป่วยยืนยันจำนวน 35 คน กลับบ้านได้แล้ว 21 คน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 14 คน โดยไทยได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับ 9 ของโลก
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้ขยายนิยามการเฝ้าระวัง ปรับเกณฑ์พื้นที่เสี่ยง อาชีพเสี่ยง กลุ่มอาการปอดอักเสบในบุคลากรทางการแพทย์ตามสถานการณ์มาโดยตลอดรวม 4 ครั้ง เพื่อให้ตรวจจับผู้อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้ครอบคลุมคนไทยที่กลับจากประเทศระบาดของโรค และเพิ่มพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง
ส่วนผู้ป่วยอาการหนักทั้งสองรายที่สถาบันบำราศนราดูร รายที่ 1 เป็นผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยพยุงปอด อาการทรงตัว ตอบสนองต่อการกระตุ้นได้ดี ส่วนรายที่ 2 ที่ติดเชื้อวัณโรคร่วมด้วย อาการทรงตัว ยังคงต้องดูแลโดยคณะแพทย์อย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง
ในส่วนการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ขณะนี้สามารถตรวจได้ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 13 แห่งทั่วประเทศ และห้องปฏิบัติการในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลประจำจังหวัดของรัฐ ส่วนกลางสามารถตรวจได้ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, โรงพยาบาลราชวิถี, สถาบันบำราศนราดูร, คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล, โรงพยาบาลรามาธิบดี, คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยขอให้ประชาชนที่มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง มีไข้ ไอ มีน้ำมูก มีอาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ และมีประวัติเดินทางไปพื้นที่ระบาดของโรค ให้รีบพบแพทย์ทันที หรือโทรปรึกษาสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับการติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เชื้อจะอยู่ในละอองฝอยขนาดใหญ่จากการไอ จาม ของผู้ป่วย โดยเชื้ออาจหล่นหรือติดอยู่ตามพื้นผิวสัมผัส เช่น ลูกบิดประตู ปุ่มกดลิฟต์ ราวบันได โต๊ะ ยังไม่ติดต่อจากการฟุ้งกระจายในอากาศ ประชาชนสามารถป้องกันได้ด้วยการยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยเมื่อไปในสถานที่แออัด
ทั้งนี้ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ร่วมรับผิดชอบสังคมด้วยการไม่แพร่เชื้อ ทั้งนี้คำแนะนำเมื่อประชาชนกลับมาจากพื้นที่ระบาดของโรคที่ขอให้เก็บตัวสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้เดินทาง ครอบครัว และสังคม ขอประชาชนอย่าเชื่อข่าวลือที่ไม่รู้ต้นทาง เพราะข่าวที่ไม่มีข้อมูลความจริงคือการเพิ่มภาระคนทำงานที่หนักอยู่แล้วให้หนักมากขึ้น ช่วยกันหยุดข่าวลือ หยุดส่งต่อข่าวเขาเล่าว่า รับฟังการแถลงข่าวของกระทรวงสาธารณสุขทุกวัน เวลา 11.00 น.
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์