×

“ไม่มีภารกิจอะไรจากรัฐบาลทรัมป์ให้สานต่อ” ทีมไบเดนเดินหน้าสู้โควิด-19 หวังพลิกวิกฤตใน 100 วัน

22.01.2021
  • LOADING...

วันนี้ (22 มกราคม) หลังจาก โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา เดินหน้าลงนามในแผนงานสำคัญตั้งแต่วันแรกของการทำงาน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าทีมทำงานของไบเดนเผยว่า “ไม่มีภารกิจอะไรจากรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ ให้สานต่อ เราต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่และสะสางสิ่งที่รัฐบาลก่อนทิ้งไว้” โดยเฉพาะแผนรับมือโควิด-19 ในช่วงรัฐบาลทรัมป์ที่ฉีดวัคซีนไม่เป็นไปตามเป้า รวมถึงยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ก็สะท้อนให้เห็นถึงมาตรการรับมือที่อาจมีช่องโหว่และไม่มีประสิทธิภาพ

 

ทีมไบเดนกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายในการบริหารจัดการวิกฤตตั้งแต่วันแรกของการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นความกังวลเรื่องสต๊อกวัคซีน การประสานงานระหว่างรัฐบาลกลางและรัฐบาลในแต่ละรัฐ รวมถึงการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ทีมไบเดนจึงจำเป็นต้องเซ็ตระบบใหม่ทั้งหมด ผลักดันแผนรับมือ แนะให้พลเมืองร่วมมือกับรัฐบาลช่วยกันสู้วิกฤตในครั้งนี้ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยในช่วง 100 วันนี้เพื่อลดโอกาสเสี่ยงติดและแพร่กระจายเชื้อ รวมถึงตั้งเป้าฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ได้ 100 ล้านโดสภายใน 100 วันแรกของการทำงาน

 

โดยพลเมืองสหรัฐฯ เข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 โดสแรกแล้วราว 16.53 ล้านราย หรือคิดเป็นราว 4% ของประชากรทั้งหมดทั่วประเทศ ตามมาด้วยจีน (15 ล้านราย) และสหราชอาณาจักร (5.44 ล้านราย) ขณะที่อิสราเอลยังคงเป็นประเทศที่มีสัดส่วนประชากรเข้ารับวัคซีนต้านโควิด-19 มากที่สุดในขณะนี้ มากถึง 37.07% หรือคิดเป็นกว่า 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดราว 9.3 ล้านคน

 

โควิด-19 แพร่ระบาดมานานกว่า 1 ปี มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 97,450,362 รายทั่วโลก รักษาหาย 70,448,377 ราย หรือคิดเป็นราว 72% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด เสียชีวิตแล้ว 2,088,237 ราย อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ราว 2.2% โดยสหรัฐอเมริกายังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดขณะนี้ (24,614,129 ราย) ตามมาด้วยอินเดีย (10,610,883 ราย) บราซิล (8,697,368 ราย) รัสเซีย (3,616,680 ราย) และสหราชอาณาจักร (3,553,763 ราย) พบผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 186 จาก 193 ประเทศทั่วโลก

 

บทความที่เกี่ยวข้อง:

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

 

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising