×

อนาคตของพื้นที่ Co-working Space จะเป็นอย่างไร? ในวันที่ชีวิตไม่จำเป็นต้องมี Office Hour [Advertorial]

23.11.2018
  • LOADING...

คุณยังต้องโหนรถไฟฟ้าเพื่อรีบไปทำงานให้ทันตอน 9 โมงอยู่หรือเปล่า?

 

แล้วคุณยังต้องรีบหุนหันออกจากออฟฟิศตอน 5 โมงเย็นเพื่อรีบกลับบ้านก่อนรถจะติดหนึบอยู่หรือเปล่า?

 

แน่นอนว่าไอเดียเช่นนี้เป็นวัฒนธรรมการทำงานของคนกรุงกว่าค่อนเมือง ที่จะต้องรับมือในทุกๆ วัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ปรับเปลี่ยนได้ยากโดยหลายๆ ปัจจัย เช่น ตัวขององค์กรเองก็ดี หรือว่าปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อย่างการจราจรในกรุงเทพฯ ก็ตาม ซึ่งในปัญหาเหล่านั้น เราพบว่าในโลกของการทำงานปัจจุบัน มีหลายๆ องค์กร หรือบริษัท หรือธุรกิจสตาร์ทอัพมากมายที่เลือกทำงานในรูปแบบที่ไม่มีกรอบกำหนด ไม่มี Office Hour เพื่อกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และสร้างความยืดหยุ่นให้แก่พนักงาน ซึ่งนับเป็นไอเดียที่ดีที่จะทำให้การทำงานแบบเดิมๆ ที่เราคุ้นเคยได้ทะลุกรอบของตัวเองออกไป

 

โดยล่าสุดไอเดียของโคเวิร์กกิ้งสเปซก็ต่างเกิดขึ้นมากมายในกรุงเทพฯ เพื่อยกระดับการทำงานนอกออฟฟิศที่ไม่ควรเกิดขึ้นแค่ในร้านกาแฟ แต่ยังสามารถช่วยกันสานต่อธุรกิจหรือสร้างพาร์ตเนอร์ใหม่ๆ ในการทำงานได้ และล่าสุดทางกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN เอง ก็ได้เริ่มต้นเปิดตัวธุรกิจใหม่ล่าสุดของพวกเขาที่ชื่อว่า ‘Common Ground’ เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ และต่อยอดวิสัยทัศน์การสร้าง Center of Life ศูนย์กลางการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ด้วยการร่วมทุนกับ Common Ground Group แบรนด์โคเวิร์กกิ้งสเปซที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสร้างพื้นที่รูปแบบใหม่ให้เกิดขึ้นในช่วงต้นปีหน้าที่จะถึงนี้

 

 

พื้นที่ใหม่ที่ตอบรับทุกความต้องการของการทำงาน

พื้นที่ที่เรียกว่า Common Ground นี้ คือพื้นที่ที่ CPN ตั้งใจให้ไอเดียของการสร้างโคเวิร์กกิ้งสเปซได้พัฒนาและต่อยอดไปมากกว่าเดิม โดยมุ่งหวังให้เป็น ‘The New Generation of Innovative Coworking Community’ เป็นคอมมูนิตี้ที่เชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการหัวคิดใหม่ที่ดีที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย

 

 

โดยยึดถือจากหลักของเมกะเทรนด์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องของไลฟ์สไตล์ในการทำงานของคนทำงานรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีและความยืดหยุ่นของการทำงาน ฉะนั้นพวกเขาย่อมต้องการพื้นที่ที่มีการทำงานร่วมกันได้และเข้าถึงง่าย เพื่อลดต้นทุนในการเช่าออฟฟิศเกรดสูง ฉะนั้น Common Ground จึงเข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกของบริษัทรายย่อยที่ต้องการสถานที่ทำงานที่เพียบพร้อมและสามารถต่อยอดธุรกิจของพวกเขาได้

 

 

ไม่ใช่แค่ทำงาน แต่ยังต่อยอดและทำธุรกิจได้จริง

ความโดดเด่นของโปรเจกต์ Common Ground ของ CPN นอกจากจะเป็นโคเวิร์กกิ้งสเปซเต็มรูปแบบแล้ว รูปแบบใหม่ที่สร้างความแตกต่างจากโคเวิร์กกิ้งสเปซอื่นๆ คือ จะตั้งอยู่ในไพรม์โลเคชัน ทำให้ติดต่องานและหมุนเวียนเปลี่ยนโลเคชันได้สะดวก อีกทั้งพร้อมมอบไลฟ์สไตล์ที่ครบครันและสมบูรณ์แบบ (Enrich Lifestyle) ด้วยโลเคชันที่ใกล้กับศูนย์การค้า พร้อมสิทธิประโยชน์มากมายจากพันธมิตรทางธุรกิจและแบรนด์ต่างๆ ทั้งแฟชั่น ร้านอาหาร ธนาคาร ฟิตเนส ที่จอดรถ ร่วมด้วยกิจกรรมอีเวนต์และไลฟ์สไตล์เวิร์กช็อปมากมาย พร้อมต่อยอดการเติบโตทางธุรกิจ (Expand Business Through Our Deep Partnerships) ด้วยการได้ทดลองทำตลาด ทำจริง ขายจริง ในศูนย์การค้าของ CPN และธุรกิจอื่นๆ ของกลุ่มเซ็นทรัล นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังสามารถใช้บริการ Common Ground ได้ในทุกสาขาทั่วโลก และเพิ่มคอนเน็กชันทางธุรกิจที่เปิดกว้างและหลากหลายกว่า

 

 

ทิศทางของโคเวิร์กกิ้งสเปซปีหน้า

การมาถึงของ Common Ground นับเป็นการต่อยอดของไอเดียการสร้างโคเวิร์กกิ้งสเปซอย่างแท้จริง แต่ไอเดียใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปีต่อไปข้างหน้า โคเวิร์กกิ้งจะทำหน้าที่หรือมีบทบาทอย่างไรแก่โลกของการทำงานบ้าง โดยตามความคิดเห็นของ จุน เตียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมมอน กราวด์ และอีกหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง เอง ก็ได้ให้ความคิดเห็นไว้ว่า ในปีหน้าสิ่งที่เรียกว่าโคเวิร์กกิ้งสเปซจะกลายเป็นหนึ่งธุรกิจที่โครงการมิกซ์ยูสจะลงทุนเพื่อความครบครันของโครงการ ทั้งยังต้องผสมผสานอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของผู้ประกอบการในท้องถิ่นเข้ากับความเชี่ยวชาญการจัดการในระดับนานาชาติจากโกลบอลแบรนด์ในระดับผู้ประกอบการยุคใหม่

 

 

นอกจากนี้ยังต้องตอบรับไอเดียเรื่อง ‘Work Life Balance’ ของคนทำงานยุคใหม่ได้ และต้องเกิดความยืดหยุ่นพร้อมทั้งก่อให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ในการทำงานได้เสมอ ที่สำคัญในปีหน้า องค์กรใหญ่ๆ อาจเกิดความต้องการที่จะค้นหาพื้นที่การทำงานใหม่ๆ ให้กับพนักงานเพื่อกระตุ้นไอเดียและลดทอนความเครียดลงได้

 

แล้วคุณล่ะ ต้องการพื้นที่การทำงานแบบไหนที่จะเข้ามาตอบรับชีวิตยุคใหม่ของคุณได้

 

(จากซ้าย) อิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายขาย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน), ดาตุก์ ชอย วาย เชียว กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทมาสเตอรอน, ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน), มร.จุน เตียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมมอน กราวด์, มร.เออร์แมน อะคินซี หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งคอมมอน กราวด์ และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของคอมมอน กราวด์

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

FYI
  • Common Ground ก่อตั้งโดย เออร์แมน อะคินซี และ จุน เตียว และเป็นโคเวิร์กกิ้งสเปซสัญชาติมาเลเซียที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างชุมชนโคเวิร์กกิ้งสเปซแบบบูรณาการที่ยั่งยืน จากการต่อยอดจากสโลแกนที่ว่า ‘ความใฝ่ฝันมีอยู่ที่นี่’ (Ambition Lives Here)
  • โดย Common Ground เป็นโคเวิร์กกิ้งสเปซเชื่อมโยงชุมชนผ่านพอร์ทัลและแอปพลิเคชันของสมาชิกที่เรียกว่า Ambition Engine ซึ่งช่วยให้สมาชิกสามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในชุมชนได้ทั่วทุกสาขา
  • ก่อตั้งขึ้นในเดือนมีนาคม ปี 2017 มีสมาชิกกว่า 1,400 คน ใน 6 สาขา ซึ่งอยู่ในกัวลาลัมเปอร์และเมืองใกล้เคียง โดยมีแผนที่จะเปิดให้ครบ 15 สาขาทั่วมาเลเซียภายในปี 2018 และล่าสุดได้ขยายธุรกิจไปสู่ระดับภูมิภาค ประเทศไทยและฟิลิปปินส์
  • ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ตั้งเป้าทุ่มงบ 800 ล้านบาท เปิด 20 สาขา ใน 5 ปี หวังผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของธุรกิจโคเวิร์กกิ้งแห่งใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising