วานนี้ (20 พฤศจิกายน) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเปิดเผยว่า หนึ่งในกรรมการบริหารพรรคไทยภักดีถูกร้องเรียนผ่านกองบังคับการปราบปราม ให้ตรวจสอบว่ากระทำความผิดเข้าข่ายประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่ หลังการไปยื่นหนังสือคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษของทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2566
“พรรคไทยภักดีส่งคนไปยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ แสดงความไม่เห็นด้วย กรณีกรมราชทัณฑ์จะดำเนินการเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษนักโทษชายเป็นกรณีพิเศษ
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พรรคไทยภักดีเรียกร้องกรมราชทัณฑ์ก่อนที่กรมจะทำเรื่อง และก่อนจะมีพระบรมราชโองการ แต่แปลกที่ทนายส้มไปร้องกองปราบว่าเข้าข่ายผิด มาตรา 112 หรือไม่ และยิ่งแปลกมากที่กองปราบก็รับเรื่องเพื่อสอบปากคำ”
นพ.วรงค์ระบุว่า พรรคไทยภักดียืนยันถึงอุดมการณ์ในการปกป้องสถาบันเบื้องสูง ไม่มีความคิดที่จะหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรืออาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันเบื้องสูงเหมือนบางฝ่าย ที่สำคัญคือเรื่องนี้เป็นเรื่องที่พรรคเรียกร้องแค่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็มีหนังสือตอบมาที่พรรคว่าดำเนินการตามกฎหมาย และปฏิบัติให้กับนักโทษทุกคน
“วันนี้สังคมไทยคงแปลกมาก ปล่อยให้ฝ่ายล้มล้างมาร้องฝ่ายปกป้องว่าล้มล้าง ปล่อยให้ฝ่ายโดนคดี 112 มาร้องฝ่าย #save112 ว่าผิดมาตรา 112 ที่ยิ่งแปลกมากๆ คือเจ้าหน้าที่รัฐก็รับลูกด้วย” นพ.วรงค์ระบุ
ย้อนที่มาไทยภักดีคัดค้านทักษิณยื่นขออภัยโทษ
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม หลังการเดินทางกลับของทักษิณเข้าสู่ประเทศไทยในวันที่ 22 สิงหาคม อนันต์ สาครเจริญ เหรัญญิกพรรคไทยภักดี ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ขอคัดค้านการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษของทักษิณ เนื่องจากในขณะนั้นมีกระแสข่าวว่าทักษิณจะทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษแบบเฉพาะรายบุคคล พรรคไทยภักดีจึงขอคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษ ด้วยเหตุผล 3 ประการ คือ
- ทักษิณต้องคำพิพากษาให้จำคุกในคดีทุจริตคอร์รัปชัน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศ และยังมีพฤติกรรมหลบหนีคดีไปต่างประเทศ ไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม
- จะเป็นการทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรมของประเทศอย่างร้ายแรง เป็นการสร้างความอยุติธรรมขึ้นมาในประเทศ สร้างความเหลื่อมล้ำ ไม่เสมอภาคเท่าเทียมกันทางกฎหมายของประชาชน
- ในสมัยที่ พล.อ. ไพบูลย์ คุ้มฉายา อยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ยึดนโยบายที่จะไม่ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้กับผู้ต้องขังในคดีทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อที่จะธำรงรักษาหลักธรรมาภิบาลแห่งรัฐไว้อย่างหนักแน่นมั่นคง ซึ่งควรเป็นนโยบายที่หน่วยงานในกระทรวงยุติธรรมจะต้องสืบทอดเอาไว้
ก่อนที่วันที่ 1 กันยายน จะมีพระราชหัตถเลขาพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร เหลือโทษจำคุกต่อไปอีก 1 ปี
อ้างอิง:
- https://web.facebook.com/therealwarong/posts/pfbid0sfmt3q6sJwXEyt8nxUntWAkeDKER8JmVFwntbXvDBWrs6SvfzEJEdVfuxSTDXn29l?__cft__%5B0%5D=AZU7K1eZh69H5aHIsfHC3UVZpLkoyzZdpJlcdLkST4DFwhyvibuN4tc4IaF8CKXeKMLOnPE1YQ6-GuFn5hLEZfp_di6m5KY35WN8uV_S-wr0UQGPvUAP8eQ13S5vZEoLIYw6T3U-iF8nCXa9zdl7gaHca0-u5p5E5VaO6L3WcwVmo1iM7HRVU3iEbrKZ8jHgvko&__tn__=%2CO%2CP-R
- https://thestandard.co/thai-pakdee-thaksin-royal-pardon/