เกิดอะไรขึ้น:
ยอดสินเชื่อกลุ่มธนาคารเดือนพฤศจิกายน 2563 เติบโต 0.60%MoM และเติบโต 5.6%YoY โดยยอดสินเชื่อที่ขยายตัว MoM มาจากการเพิ่มขึ้นในยอดสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ ขณะที่สินเชื่อรายย่อยและ SMEs เติบโตเล็กน้อย
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่มธนาคาร (SETBANK) ปรับตัวขึ้น 4.33%MoM เทียบกับ SET Index ที่ปรับตัวขึ้น 3.38%MoM สู่ระดับ 1,486.31 จุด ข้อมูล ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2563
มุมมองระยะสั้น:
SCBS ยังคงคาดว่ากำไร 4Q63 ของกลุ่มธนาคารจะลดลงเล็กน้อย QoQ โดยมีสาเหตุมาจากการตั้งสำรองจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง และสินเชื่อหดตัวลงจากการกลับมาชำระหนี้เพิ่มขึ้นหลังมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สิ้นสุดลง นอกจากนี้ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ก็มีแนวโน้มแคบลงจากการโอนกลับดอกเบี้ยค้างรับของสินเชื่อที่เปลี่ยนมาเป็น NPL หลังจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สิ้นสุดลง ทั้งนี้ใน 4Q63 จะเป็นช่วงที่กลุ่มธนาคารจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงขึ้น
มุมมองระยะยาว:
SCBS คาดว่ากำไรของกลุ่มธนาคารจะกลับมาฟื้นตัวระดับปานกลาง 15%YoY ในปี 2564 เนื่องจากยังมีการตั้งสำรองจำนวนมากเพื่อรองรับ NPL ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และทิศทางกำไรจะฟื้นตัวต่อเนื่อง 20%YoY ในปี 2565 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการตั้งสำรองที่ลดลง แม้ NIM จะแคบลงอย่างมากเนื่องจากอัตราการนำส่งเงินสมทบกองทุนฟื้นฟูฯ จะเพิ่มขึ้น 23 bps สู่ระดับปกติที่ 0.46%
ข้อมูลเพิ่มเติม:
ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin: NIM) คือส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยรับจากการปล่อยสินเชื่อกับดอกเบี้ยจ่ายจากเงินฝาก ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสะท้อนความสามารถในการหารายได้จากดอกเบี้ยของกลุ่มธนาคาร
หมายเหตุ:
%QoQ คือเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
%YoY คือเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง ณ ช่วงเวลาเดียวกันเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์