วันนี้ (11 กุมภาพันธ์) พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แถลงข่าวที่กองบัญชาการกองทัพบก กรณีกำลังพลก่อเหตุกราดยิงประชาชนที่ห้าง Terminal 21 สาขานครราชสีมา โดยกล่าวขอโทษและแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นกำลังพลของกองทัพบก พร้อมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวประชาชน ตลอดจนข้าราชการที่ต้องเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ และแสดงความเสียใจต่อประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
พล.อ. อภิรัชต์ ชี้แจงลำดับเหตุการณ์เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง หลังจากก่อเหตุฆ่า ในการปล้นปืนนั้น จ.ส.อ. จักรพันธ์ ถมมา ได้เข้ามาที่ป้อมในค่ายก่อนจี้เอาปืน ไม่ได้ยิงเพราะกลัวทหารรักษาการณ์ได้ยิน และบรรจุกระสุน จากนั้นจึงไปที่ป้อมรักษาการณ์ ยิงทหารเสียชีวิต ก่อนจะใช้ปืนลูกซองอานุภาพร้ายแรงยิงทำลายกุญแจคลังอาวุธ เอาปืนเอชเค 33 และปืนกลเอ็ม 60 ที่เก็บในคลัง เอาไปอย่างละกระบอก ยิงกราดใส่พลทหารบาดเจ็บ 2 นาย ก่อนจะขับรถส่วนตัวเข้าไปกองบังคับการกองพันเข้าไปด้านหลัง ตอนนั้นทหารภายในเริ่มทราบ เริ่มรู้ ได้ยินเสียงปืน
หลังจากนั้น จ.ส.อ. จักรพันธ์ ได้ไปขโมยรถ ซึ่งไม่ใช่รถฮัมวีแบบที่สื่อมวลชนเข้าใจ แต่เป็นรถจี๊ปดัดแปลง หรือเอ็ม 51 ก่อนออกไปจากค่ายทหาร
สำหรับสาเหตุที่ก่อเหตุ สรุปว่า เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเครือญาติ ซึ่งผู้ก่อเหตุและคู่กรณี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาและเครือญาติ ได้มีการซื้อขายที่ดิน เกิดการผิดสัญญากันในเรื่องผลตอบแทน โดยในรายละเอียดจะต้องไปสืบต่อว่ามีใครที่เกี่ยวข้อง ในระดับผู้บังคับบัญชาที่ยังเกี่ยวข้องอยู่บ้าง เมื่อผิดสัญญาจึงเกิดแรงจูงใจในการก่อเหตุ
“วินาทีที่ผู้ก่อเหตุลั่นไกสังหารคู่กรณีนั้น เขาคืออาชญากร ไม่ใช่ทหารอีกต่อไปแล้ว” พล.อ. อภิรัชต์ กล่าว
พล.อ. อภิรัชต์ ยังระบุด้วยว่า กองทัพบกพร้อมดูแลทหารที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้อย่างดีที่สุด และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อดูแลจิตใจญาติพี่น้องของทหารที่เสียชีวิต ส่วนประชาชนที่บาดเจ็บจนอาจสูญเสียอาชีพ กองทัพบกพร้อมอ้าแขนรับโดยไม่มีข้อแม้ตามคุณวุฒิของผู้นั้น
พล.อ. อภิรัชต์ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์กองทัพบกและทหารในเหตุการณ์ครั้งนี้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีการตำหนิด่าว่ากองทัพบกและทหาร ซึ่งไม่มีใครในโลกอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะฉะนั้นขออย่าด่ากองทัพบกและทหาร แต่ขอให้ด่า พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ โดยพร้อมรับคำวิจารณ์และความเห็นทุกอย่าง
ส่วนกระแสขอให้ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบนั้น พล.อ. อภิรัชต์ กล่าวว่า
“ถึงแม้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นกำลังพลของกองทัพบก ผู้ก่อเหตุนั้นไปก่อเหตุที่ไม่ใช่เป็นการปฏิบัติภารกิจของกองทัพบก เช่น มีทหารไปขนยาเสพติด ค้าอาวุธสงคราม แล้วถูกตำรวจวิสามัญ ผมก็อยากจะถามเหมือนกันว่า มันสมควรที่จะใช้คำถามนี้กับผมหรือเปล่า
“ผมมีความรับผิดชอบเพียงพอต่อภารกิจทุกอย่างที่ผมสั่ง ในทุกตำแหน่งที่ผ่านมา ทุกวิกฤตที่ผ่านมา และผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าทุกวิกฤตที่ผมได้ผ่านมา อะไรที่สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำ ผมรับผิดชอบ แต่ผมไม่สามารถที่จะรับผิดชอบต่อการกระทำที่เกิดจากเหตุการณ์ส่วนตัว การก่ออาชญากรรม การทำผิดกฎหมาย การฝ่าฝืนระเบียบวินัยที่ได้มีอยู่แล้ว” พล.อ. อภิรัชต์ ในที่สุด
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
