‘Taste of Memory’ ชวนค้นหากลิ่นและรสชาติกาแฟที่เชื่อมโยงกับโมเมนต์ดีๆ ผ่านเมนูกาแฟแก้วโปรดของ 4 เจ้าของร้านกาแฟชื่อดัง [ADVERTORIAL]

คอกาแฟตัวจริงรู้ดีว่า กลิ่นและรสชาติของกาแฟ สามารถพาคุณกลับไปยังความทรงจำดีๆ หรือช่วงเวลาที่มีความสุขได้ สำหรับบางคนกลิ่นของกาแฟพาคุณย้อนกลับไปยังวันวานของความสุข ขณะเดียวกันกลิ่นและรสชาติอาจเป็นตัวแทนของความรักและความคิดถึง และหลายครั้งที่กลิ่นกาแฟดึงความอบอุ่นที่คุณคุ้นเคยกลับมา

 

ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางค้นหา เพราะความทรงจำดีๆ ไม่ว่าใครก็สร้างได้เองที่บ้าน ด้วยเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติที่สามารถสกัดกลิ่นและรสชาติของเมล็ดกาแฟโปรดให้กลายเป็นเมนูเรียกคืนความทรงจำได้ THE STANDARD ได้ 4 เจ้าของร้านกาแฟชื่อดังมาร่วมแบ่งปัน ‘Taste of Memory’ รสชาติกาแฟที่เชื่อมโยงกับช่วงเวลาแห่งความสุขของพวกเขา พร้อมสูตรกาแฟที่ใครก็ทำตามได้ง่ายๆ ที่บ้าน 

 

เคนนี่-เขม อินทรรักษ์ เจ้าของร้าน Beaker and Bitter

 

Beaker and Bitter 

ภายในพื้นที่โรงงานยาอายุกว่า 50 ปี ถูกเนรมิตให้กลายเป็นคาเฟ่ธีมวิทยาศาสตร์ในชื่อ Beaker and Bitter โดยมี เคนนี่-เขม อินทรรักษ์ เจ้าของร้าน Beaker and Bitter ที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟเป็นทุนเดิม ช่วยกันออกแบบคอนเซปต์และพื้นที่ร้านกับหุ้นส่วน โดยมีโจทย์ว่า ต้องการให้ลูกค้าเข้ามาสัมผัสประสบการณ์สนุกๆ ผ่านการตกแต่งร้านที่เหมือนหลุดเข้าไปในโรงงานยา  

 

“ผมเป็นคนชอบดื่มกาแฟมากๆ และจะดื่มเวลาที่รู้สึกอยากพักผ่อน อยากใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ด้วยความที่เป็นคนทำกิจกรรมเยอะ ทั้งวันและทุกวัน การดื่มกาแฟเหมือนเตือนตัวเองว่าให้หยุดพักบ้างนะ ดังนั้นเวลาที่ดื่มกาแฟผมจะให้ความสำคัญกับบรรยากาศมากๆ อาจจะเปิดดนตรีที่ไม่มีเนื้อร้องในพื้นที่ส่วนตัวเพื่อใช้เวลาอยู่กับตัวเอง”  

 

 

Black & White: Taste of Love 

‘เมนูที่ทำให้คิดถึงคุณแม่’ เคนนี่เล่าว่า แม้จะมีเมนูแก้วโปรดที่ดื่มเพื่อพาตัวเองเข้าสู่โหมดพักผ่อน แต่จะมีเมนูหนึ่งที่เวลาได้กลิ่นหรือได้ดื่มจะนึกถึงคุณแม่ 

 

“ตอนเปิดร้านใหม่ๆ ผมทำเมนูหนึ่งให้คุณแม่ดื่มชื่อว่า Black & White ใช้เมล็ดกาแฟปางขอนของเชียงราย สกัดเป็นเอสเพรสโซ ตีกับน้ำแข็งจนเป็นฟองฟู ท็อปด้วยวิปครีม เป็นเมนูที่คุณแม่ดื่มแล้วชอบมากๆ หลังจากนั้นทุกครั้งที่มาที่ร้านก็จะสั่งแต่เมนูนี้ตลอด”

 

 

“ทุกครั้งที่ผมทำเมนูนี้หรือดื่มเมนูนี้จะนึกถึงคุณแม่ อารมณ์เหมือนเวลาเรานึกถึงรสมือแม่ แต่อันนี้สลับกันเป็นคุณแม่ชอบรสมือลูก จริงๆ แล้วเป็นเมนูที่ทำได้ง่ายมากๆ สามารถใช้เครื่องชงกาแฟ Philips LatteGo ทำได้เลย เพราะตัวเครื่องสามารถสกัดเอสเพรสโซได้ดีมากๆ สกัดกลิ่นและรสชาติของเมล็ดกาแฟเหมือนชงที่ร้าน และสามารถปรับแต่งออกแบบกาแฟเมนู Personalize ได้ง่ายมากๆ ส่วนตัว ผมจะใส่ไซรัปลงไปหน่อย เติมน้ำแข็งแล้วไปปั่นจนเกิดฟอง เทลงแก้ว เติมน้ำแข็ง แล้วค่อยท็อปด้วยวิปครีม รสชาติจะติดเปรี้ยวนิดๆ เพราะใช้กาแฟคั่วกลาง ได้ความหวานของไซรัปเพิ่มเข้ามา ถ้าคนไม่ชอบหวานไม่ใส่ไซรัปก็ได้ ตัวฟองนมเครื่องนี้จะตีจนละเอียด เวลาดูดจะให้เท็กซ์เจอร์ที่นุ่มละมุนมากๆ”

 

 

“เครื่องชงกาแฟ Philips LatteGo เป็นอะไรที่ตอบโจทย์มากสำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟสด ทั้งในแง่ของความสะดวกและให้คุณภาพกาแฟที่สมบูรณ์แบบ สามารถทำเมนูได้หลากหลาย บ้านไหนมีสมาชิกเยอะ สามารถตั้งโปรไฟล์ให้จำสูตรกาแฟของแต่ละคนได้ด้วย ใครกำลังมองหาประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับการไปดื่มกาแฟที่คาเฟ่ที่สุด ผมแนะนำครับ” 

 

ป็อป-มานพ ปฐมวรกุล เจ้าของร้าน figureground.cafe

 

Figure Ground

คาเฟ่คอนเซปต์เก๋ coffee / space / relationship ที่ ป็อป-มานพ ปฐมวรกุล เจ้าของร้าน figureground.cafe ถ่ายทอดออกมาเพราะต้องการสร้างพื้นที่เล็กๆ ให้กลายเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขสำหรับทุกคน  

 

 

การจัดวางสเปซ โทนสี ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่ในอาร์ตแกลเลอรีที่รายล้อมไปด้วยงานศิลปะ “โจทย์คือร้านจะต้องมีความยูนีคแต่ต้องสร้างความรู้สึกสนุกและอบอุ่นให้กับลูกค้าที่เข้ามาในร้าน เชื่อมโยงไปกับชื่อร้าน ‘Figure’ คือภาพจำ ‘Ground’ คือสถานที่ เราอยากให้ทุกคนที่มาจดจำสถานที่แห่งนี้ จะจดจำพื้นที่หรือจดจำช่วงเวลาดีๆ ที่เกิดขึ้นที่นี่ก็ได้” 

 

 

Cold Cold Heart: Taste of Relationship 

เมื่อถามว่าความทรงจำแรกที่เข้ามาทุกครั้งเมื่อได้กลิ่นกาแฟหรือดื่มด่ำกับกาแฟแก้วโปรดคืออะไร เขาตอบทันทีว่า ‘ไร่กาแฟ’ 

 

“สำหรับผมกาแฟเป็นตัวแทนของความสดชื่น ภาพของไร่กาแฟที่มีภูเขา ต้นกาแฟ เคล้าสายหมอกยามเช้า จึงเป็นความทรงจำที่ดี และมันยังเชื่อมโยงไปถึงการได้ใช้เวลาอยู่กับคนพิเศษ อย่าง ‘Cold Cold Heart’ ซึ่งเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่ดื่มเมื่อไรก็สดชื่น เหมาะกับการดื่มระหว่างนั่งคุยกับคนในครอบครัวหรือเพื่อนรู้ใจ และด้วยความเข้มหอมของกาแฟ บางครั้งได้พลังจากรสชาติและกลิ่นของมันเหมือนเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นใหม่”  

 

 

“เครื่องชงกาแฟ Philips LatteGo ก็สามารถทำเมนูนี้ได้ ผมเลือกใช้เมล็ดกาแฟบราซิลเบลนด์กับเมล็ดกาแฟไทยซึ่งเป็น House Blend ของทางร้านชื่อ ‘figure’ เลือกเป็นเอสเพรสโซ 1 ช็อต ผสมกับสิงห์เลมอนโซดาประมาณ 2 ออนซ์ ท็อปด้วยฟองนมที่มีส่วนผสมของเฮเซลนัท รสชาติกาแฟหอมเข้มตัดกับฟองนมที่มีความหอมมันอย่างลงตัว ผมประทับใจ LatteGo ตัวทำฟองนมของเครื่องนี้มาก ฟองเนียนนุ่ม และยังไม่มีท่อ ซึ่งใช้งานและทำความสะอาดง่ายมาก ใช้กับนมทางเลือกอย่างนมโอ๊ตก็เนียนได้ที่ ถือว่าดีเลย”  

 

 

“ผมว่าเครื่องชงกาแฟ Philips LatteGo สามารถดึงกลิ่นและรสชาติของกาแฟออกมาได้ครบถ้วนไม่ต่างกับไปดื่มที่ร้าน แต่มันง่ายขึ้นมาก แค่กดปุ่ม เครื่องก็ชงออกมาอัตโนมัติ สำหรับผมแม้จะเป็นเมนูเดียวกันรสชาติเดียวกันกับที่ร้านมันก็มีความต่างอยู่บ้าง การดื่มกาแฟที่บ้านในบรรยากาศที่เราคุ้นเคยถึงแม้กลิ่นและรสชาติจะพาเรากลับไปยังความทรงจำใดๆ ก็ตาม แต่มันจะมีบรรยากาศของความอบอุ่นเข้ามาด้วย ซึ่งเมนูเดียวกันพอมาดื่มที่ร้านบรรยากาศรอบๆ มันเปลี่ยน ก็ให้อีกความรู้สึกหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการอารมณ์และสร้างความรู้สึกแบบไหนในวันนั้นๆ แต่ส่วนตัวคิดว่าการมีเครื่องชงกาแฟดีๆ สกัดเพอร์เฟกต์ที่สามารถครีเอตเมนูได้หลากหลายก็ช่วยสร้างโมเมนต์ดีๆ ได้หลากหลายเช่นกัน อย่าง Philips LatteGo สามารถบันทึกเมนูโปรดที่เราชอบได้ถึง 4 โปรไฟล์ จึงทดลองเมนูใหม่ๆ ได้สนุกและง่ายมากๆ” 

 

โน้ต-ชุติมา อนันรยา เจ้าของร้าน The Summer Coffee

The Summer Coffee 

“กลิ่นและรสชาติกาแฟที่ใช่สำหรับเราเหมือนเป็นสัญญาณเตือนว่า ถึงเวลาพักเบรกแล้ว” นี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ โน้ต-ชุติมา อนันรยา เจ้าของร้าน The Summer Coffee ดีไซน์พื้นที่ให้มีบรรยากาศของการพักเบรก  

 

 

“นิยามการพักเบรกของแต่ละคนต่างกัน บางคนมีกาแฟหนึ่งแก้วระหว่างทำงานก็ถือว่าได้พักเบรกแล้ว บางคนการเบรกคือช่วงเวลาที่ได้นั่งคุยกับเพื่อนแล้วมีกาแฟมาเติมเต็ม ในขณะที่บางคนการเบรกคือการพักจากทุกสิ่งอย่างและจิบกาแฟไปเรื่อยๆ แต่ไม่ว่าการพักเบรกจะเป็นแบบไหน ต้องเบรกแบบมีความสุข เราจึงออกแบบพื้นที่ให้หลากหลาย อบอุ่น สบายตา และสบายใจที่จะนั่ง สามารถเติมเต็มโมเมนต์ที่ต้องการได้จริงๆ”  

นอกจากบรรยากาศร้าน การพักเบรกที่มีคุณภาพจะต้องเชื่อมโยงไปกับรสชาติกาแฟที่ใช่ ทางร้านจึงมีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลายระดับ ทั้งคั่วกลาง คั่วอ่อน คั่วเข้ม รวมถึงมิติของกาแฟที่สามารถสร้างเมนูกาแฟที่ใช่สำหรับทุกคน  

 

 

Bitter Orange Coffee: Taste of Relax 

“เราชอบดื่มกาแฟเอธิโอเปีย เพราะมีกลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ มีความละเอียดอ่อน เป็นกลิ่นที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้กลับมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย สบายใจ และบางครั้งมันมีความทรงจำสนุกๆ ผ่านเข้ามาด้วย เป็นช่วงเวลาที่เราได้เดินทางไปทดลองดื่มกาแฟตามร้านต่างๆ”

 

 

“ปกติจะดื่มกาแฟเวลาต้องการเบรก เวลาได้กลิ่นหรือได้จิบกาแฟเหมือนเป็นโมเมนต์ฮีลใจ พักจากงาน หรือเบรกจากเรื่องวุ่นวายและต้องการเข้าสู่โมเมนต์ของการพักผ่อน อย่างช่วงบ่ายๆ หลังจากทำงานมาครึ่งวัน หรืออาจจะช่วงสายๆ หลังกินข้าว ข้อดีของเครื่องชงกาแฟ Philips LatteGo คือแค่มีเมล็ดกาแฟที่ชอบก็สามารถครีเอตเมนูกาแฟได้เยอะมากๆ ถ้าวันไหนรู้สึกอยากได้โมเมนต์พิเศษๆ ก็จะใช้เครื่องชงกาแฟ Philips LatteGo ทำเมนูเดอร์ตี้เพื่อให้ได้รสชาติกาแฟหอมเข้มและมีความกลมกล่อมนมตามมา” 

 

 

 

“แต่ถ้าเป็นเมนูที่ดื่มแล้วรู้สึกว่านี่คือ ‘Relax Time’ จริงๆ จะเลือกเป็น ‘Bitter Orange Coffee’ เพราะเครื่องชงกาแฟ Philips LatteGo สามารถคั่วบดเมล็ดกาแฟได้ ข้อดีคือช่วยเก็บกักความละเอียดอ่อนของรสชาติและกลิ่นได้อย่างครบถ้วน และยังสามารถเลือกเบอร์บดเพื่อปรับระดับความเข้มอ่อนได้ตามต้องการ ฟังก์ชันการใช้งานก็ง่าย มีตัวปรับอโรมา ความเข้มของกาแฟ อยากจะเพิ่มช็อต เพิ่มน้ำ หรือเพิ่มนมในแก้วก็เพิ่มได้หมด อย่างเมนูนี้เลือกกดปุ่ม Espresso ลงในเบสของส้มซ่าที่เรานำไปเคี่ยวเป็นไซรัปผสมกับชาหอมหมื้นลี้ได้เลย เข้ากันได้ดีกับรสชาติที่มีความฟรุตตี้ของเมล็ดกาแฟเอธิโอเปีย ต้องบอกว่าทั้งกลิ่นและรสชาติไม่ต่างอะไรกับเครื่องชงกาแฟที่ร้าน คำว่ายกคาเฟ่มาไว้ที่บ้านไม่เกินจริงเลยค่ะ” 

 

แก้ม-ดาลี ฮุนตระกูล เจ้าของร้าน Bonci

 

Bonci 

อาจเพราะ แก้ม-ดาลี ฮุนตระกูล เจ้าของร้าน Bonci เรียนด้าน Urban Design และชื่นชอบเรื่องของสเปซอย่างมาก จึงเลือกดีไซน์สเปซทั้งสองชั้นให้มีกลิ่นอายของคาเฟ่กึ่งคอมมูนิตี้ สอดแทรกบรรยากาศความอบอุ่นเหมือนมานั่งเล่นบ้านเพื่อน หยอดความเก๋ลงไปหน่อยด้วยการแต่งร้านให้มีกลิ่นอายจากยุค Mid Century 

 

“ถ้าร้านมีไวบ์ที่อบอุ่นคนจะอยากกลับมาอีกบ่อยๆ เลยไม่อยากเอาธีมใดๆ มาครอบ อยากให้สเปซได้ทำหน้าที่ของมัน บางมุมของร้านจึงได้ฟีลเหมือนนั่งอยู่บ้านเพื่อน ถึงจะมีดีเทลแต่ดีเทลต้องไม่แย่งความเด่นของพื้นที่”  

 

 

“ที่ร้านใช้เมล็ดกาแฟจากโรงคั่วที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เป็นกาแฟสไตล์ House Blend เลือกใช้เมล็ดกาแฟเบลนด์จากเอธิโอเปียและบราซิลที่ให้ความสดชื่นฟรุตตี้ของรสชาติบลูเบอร์รี ส่วนตัวเป็นคนชอบกลิ่นและรสชาติของกาแฟที่ดื่มแล้วให้ความสดชื่น ซึ่งมองว่าการปลุกความสดชื่นก็เป็นหน้าที่หนึ่งของกาแฟ” 

 

 

Bimbom Sour: Taste of Refresh  

“ทุกเช้า สิ่งแรกที่ทำคือ ดื่มกาแฟ ชอบความรู้สึกเวลาได้กลิ่นกาแฟ และบ่อยครั้งไอเดียสนุกๆ มันเกิดขึ้นมาตอนนั้น อาจเพราะกลิ่นกาแฟสำหรับเรามันเชื่อมโยงไปถึงตอนที่เริ่มทำร้านใหม่ๆ เป็นช่วงที่ได้เดินทางไปลองดื่มและเสาะหาเมล็ดกาแฟดีๆ รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ค้นพบรสชาติแปลกใหม่  

 

   

“พอถามว่าเมนูไหนที่ทำให้รู้สึกแบบนั้นได้ เรานึกถึง Bimbom Sour เมนูที่เรียกความสดชื่นตั้งแต่ได้กลิ่น แนะนำสำหรับคนที่ตื่นเช้ามารู้สึกไม่เฟรชตัวนี้ช่วยได้ เหมือนเป็น Energy Booster เบาๆ ถ้าปรับรสชาติให้เปรี้ยวขึ้นมาหน่อยมันให้ฟีลเหมือนนั่งอยู่ริมหาดได้เลย”  

 

 

“ส่วนผสมเหมือนจะเยอะแต่เป็นเมนูที่ทำง่ายไม่ซับซ้อน ยิ่งทำกับเครื่องชงกาแฟ Philips LatteGo ยิ่งง่าย เพราะตัวเครื่องเหมาะกับเมล็ดกาแฟคั่วกลางไปจนถึงคั่วเข้มอยู่แล้ว เมนูนี้เราเลือกใช้ House Blend เมล็ดกาแฟบราซิลเพราะเป็นคั่วกลางถึงเข้ม ผสมยูซุและโซดาจะไปลดความเข้มของกาแฟลง เพื่อให้ยังมีรสชาติของกาแฟอยู่ พอไปเชกก่อนดื่มจะทำให้รสชาติมันนุ่มขึ้น สามารถกด Espresso Double Shot จากเครื่องได้เลย เพราะมีฟังก์ชันเพิ่มช็อตกาแฟมาให้ในตัว ค่อนข้างง่ายสำหรับคนที่อยากทำเมนูที่มีเบสเป็น Espresso Double Shot พอมันเร็วและง่าย เลยครีเอตเมนูอื่นๆ ได้ตามความชอบความรู้สึกในช่วงเวลานั้นๆ เหมือนมาดื่มที่ร้าน แต่สามารถทำเองได้ที่บ้านง่ายๆ”

 

คุณเองก็สามารถพาตัวเองกลับสู่ความทรงจำดีๆ ผ่านกลิ่นและรสชาติของกาแฟแก้วโปรดได้ที่บ้าน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.philips.co.th/c-e/ho/coffee/lattego.html