ความฝันที่ทับซ้อนอยู่ในภาพอดีต
คงบรรยายความรู้สึกไม่ถูก ถ้าจู่ๆ วันหนึ่งเราได้รับคัดเลือกให้สวมบทบาทเป็นไอดอลที่ชื่นชอบในภาพยนตร์โฆษณาสักเรื่อง

ชอบถึงขั้นนอนละเมอเรียกชื่อ
ชื่นชมในแบบที่วางเขาไว้เป็นแบบอย่าง
และคลั่งถึงขนาดแปะรูปไอดอลทั่วห้อง

ความกังวลใจว่าจะถ่ายทอดความรู้สึกของบุคคลนั้นให้คนดูสัมผัสได้คงไม่ยากเกินไปสำหรับนักแสดงมืออาชีพหรือคนที่ผ่านโลกมาสักระยะ แต่กับเด็ก 9 ขวบที่ชีวิตมีแค่โรงเรียน เพื่อน ครอบครัว และฟุตบอล ไม่ง่ายสำหรับเขาเลย 

เราอยากให้คุณดูโฆษณาตัวนี้ก่อน ใช้เวลาแค่ 1.40 นาที แล้วคุณจะเข้าใจสิ่งที่เรากำลังจะเล่ามากขึ้น

CLEAR รู้ดีว่าบางครั้งอุปสรรคในชีวิต ไม่ว่าใครก็ก้าวข้ามมันไปได้ แค่เคลียร์ทุกความกังวลออกไป CLEAR x MESSI JAY ภาพยนตร์โฆษณาที่ย่นย่อเส้นทางชีวิตวัยเด็กที่ต้องต่อสู้กับอุปสรรคและคำวิจารณ์ของคนรอบข้างของ เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักฟุตบอลทีมชาติไทย กว่าจะกลายมาเป็น เมสซี่ เจ นักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลไทย นี่จึงเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน โดยเลือกให้ น้องเก็ต-วิภูสิทธิ์ ศรีจันทร์ เด็กชายวัย 9 ขวบ ผู้ฝันว่าสักวันจะต้องเก่งเหมือน เจ ชนาธิป ให้ได้มารับบท เมสซี่ เจ  

หรือผู้กำกับเห็น เมสซี่ เจ คนต่อไป?
ตัวเล็กสุดในสนาม แต่ก็วิ่งไวสุดในสนามเช่นกัน บวกด้วยพลังความมุ่งมั่นที่จะเป็นนักฟุตบอลทีมชาติเหมือนเจ ชนาธิป อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่น้องเก็ตถูกเลือกให้สวมบทบาทเจ ชนาธิป วัยเด็ก เมื่อถามว่าดีใจไหม น้องเก็ตบอกว่า “นอนไม่หลับเลยครับ” ก็แน่ล่ะ ตั้งแต่อนุบาล 3 หลังจากได้ดูการแข่งขันฟุตบอลที่เมสซี่ เจ ลงสนาม ก็ไม่เคยละสายตาจากนักเตะตัวเล็กที่สุด แต่ไวที่สุดอีกเลย 

“เพราะตัวเล็ก เลยต้องวิ่งให้เร็วกว่าคนอื่น ต้องพยายามมากกว่าคนอื่น”
“บางทีก็ถามพ่อครับว่าทำไมพี่เขาเล่นแบบนี้ พ่อก็จะสอนว่าต้องทำยังไง” น้องเก็ตไม่ได้ดูด้วยสายตาของคนดูบอลทั่วไป แต่จะสังเกตท่วงท่า วิธีการเล่น และพยายามเลียนแบบให้ได้มากที่สุด หนึ่งในนั้นคือตัวเล็กไม่ใช่ปัญหา วิ่งให้ไวกว่าคนอื่นก็พอ “ชอบการเลี้ยงหลบของพี่เจครับ ก็พยายามฝึกอยู่ครับ” 

“ไอ้เตี้ย” “ตัวแถม” “ทีมแพ้เพราะแก” คำพูดที่สกัดกั้นความฝันของเจ ชนาธิป และน้องเก็ตไม่ได้

“ไม่สนใจครับ” น้องเก็ตตอบด้วยแววตาใสซื่อ แม้ว่าช่วงแรกจะไม่เคยถูกเลือกลงสนามเพราะตัวเล็ก น้อยใจไหม… ก็มีบ้างตามประสาเด็กที่อยากลงไปเล่นกับเพื่อน แต่หลังจากพ่อตัดสินใจพาน้องเก็ตไปฝึกพื้นฐานจริงจังแค่ 2 เดือนก็ติดทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อะคาเดมี ตั้งแต่ ป.1 

“อยากเป็นเหมือนพี่เจ อยากเป็นนักเตะทีมชาติไทยครับ” ทุกวันนี้หลังเลิกเรียนและวันหยุด เวลาวิ่งเล่นกลายเป็นเวลาซ้อมบอล วันไหนเหนื่อย พอดูคลิปการแข่งของเจ ชนาธิป ก็ฮึดสู้ใหม่ น้องเก็ตบอกว่าในโฆษณา ฉากที่ต้องวิ่งขึ้นลงสแตนด์ เข้าใจเลยว่าพี่เจเหนื่อยและสู้มากๆ กว่าจะเก่งแบบนี้ “จะซ้อมให้หนักเหมือนพี่เจครับ ถ้าพี่เจทำได้ เก็ตก็ทำได้ครับ”

ถ้าวันหนึ่งมีโอกาสท้าแข้งกับพี่เจ คิดว่าจะชนะพี่เจไหม น้องเก็ตตอบหน้านิ่งๆ แต่แววตามั่นใจว่า “ชนะครับ”

นี่ไม่ใช่คำพูดของเด็กวัย 9 ขวบที่เปลี่ยนความสนใจไปเรื่อยๆ แน่ๆ เพราะตอนนี้น้องเก็ตได้รับคัดเลือกให้เข้าโครงการเอคโคโน ภายใต้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งจะคัดเด็กที่มีความสามารถเข้าค่ายฝึก งานนี้ใครมีแววก็มีโอกาสเข้าใกล้ความฝันติดทีมชาติเยาวชนแบบไร้กังวล 

คุณเองก็ก้าวข้ามอุปสรรคและเดินตามความฝันเหมือนเมสซี่ เจ และน้องเก็ต ได้เช่นกัน เสียงวิจารณ์จากคนรอบข้างไม่สำคัญเท่ากับคุณ #เคลียร์ทุกความกังวล ได้หรือยัง ชีวิตที่ไร้ความกังวลใดๆ ย่อมเห็นทางออกได้เคลียร์กว่าแน่นอน 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์