×

ซิตี้แบงก์คาดจีดีพีโลกปีนี้โต 5% หลังสหรัฐฯ-จีนฟื้นจากโควิด แนะลงทุนในหุ้นหลากภูมิภาค ตราสารหนี้ไฮยีลด์และกองทุนรวม ESG

22.07.2021
  • LOADING...
ซิตี้แบงก์

ซาเมียร์ เดชพานดิ หัวหน้าที่ปรึกษาการลงทุนระดับภูมิภาค ซิตี้แบงก์ เอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง กล่าวว่า แม้สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดทั่วโลกยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ภาพรวมระบบเศรษฐกิจทั่วโลกในช่วงครึ่งหลังปี 2564 จะอยู่ในเทรนด์การฟื้นตัว ตามปัจจัยแรงหนุนจากภาคธุรกิจบางส่วนที่เริ่มกลับมาเปิดกิจการได้อีกครั้ง การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดที่มากขึ้นในหลายประเทศและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการคลังทั่วโลกที่มีประสิทธิภาพ

 

โดยซิตี้แบงก์คาดการณ์ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกปี 2564 จะขยายตัวที่ 5% และขยายตัวที่ 4.5% ในปี 2565 ด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ 6% จากสัญญาณเชิงบวกของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อัตราการว่างงานที่ลดลง ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น ในส่วนของประเทศจีน คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ 8% จากการ​ฟื้นตัวด้านการผลิต การบริโภค การเดินทางและการค้าภายในประเทศ ในขณะที่ธนาคารกลางทั่วโลกจะยังดำเนินนโยบายการเงินการคลังในระดับต่ำจนกว่าภาคธุรกิจจะกลับมาดำเนินการได้ใกล้เคียงปกติ

 

สำหรับการวางกลยุทธ์การลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง เดชพานดิกล่าวว่า มีธีมที่นักลงทุนควรพิจารณา ได้แก่ 

 

  1. Mean Reversion หรือการย้ายการลงทุนในธุรกิจที่อาจฟื้นตัวเลยจุดสูงสุดแล้วในตลาดกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วมายังตลาดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ หรือประเทศที่ยังมีโอกาสเติบโตเมื่อสถานการณ์โควิดในประเทศนั้นๆ ดีขึ้น

 

  1. Financial Repression โดยเชื่อว่าธนาคารกลางหลายแห่งจะยังใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำต่อไปเพื่อเอื้อต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี ในระยะยาวธนาคารกลางทั่วโลกจะไม่สามารถใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำได้ตลอดไป การส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยหรือดึงสภาพคล่องกลับของธนาคารกลางในหลายประเทศจึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม และ

 

  1. Unstoppable Trends เช่น การมุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียวของบริษัทขนาดใหญ่ การใช้พลังงานสะอาดและแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียที่ดีในระยะยาว

 

อย่างไรก็ตาม มองว่าในช่วงครึ่งปีหลังยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจกดดันตลาดได้ เช่น ความสัมพันธ์สหรัฐฯ กับจีนที่อาจเลวร้ายลง เนื่องจากการแข่งขันทางการค้าที่สำคัญระหว่างสองประเทศที่อาจมีนัยยะและส่งผลกระทบ ตลอดจนการโจมตีทางไซเบอร์บนโครงสร้างพื้นฐานของโลกยังคงเป็นความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการลงทุนที่เพิ่มขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงในโลกไซเบอร์ก็ตาม ดังนั้นนักลงทุนควรจับตาประเด็นสำคัญของสถานการณ์โลกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาผลประโยชน์พอร์ตลงทุนในระยะยาว

 

ด้าน ดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนยังคงเผชิญความท้าทายสูง แต่ซิตี้แบงก์ยังมีมุมมองบวกต่อหุ้น จึงอยากแนะนำนักลงทุนให้กระจายการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมหลากหลาย เช่น เทคโนโลยี การดูแลสุขภาพ เทคโนโลยีดิจิทัล และอสังหาริมทรัพย์

 

โดยให้น้ำหนักในกลุ่มภูมิภาคเอเชีย ยุโรป ลาตินอเมริกา และสหราชอาณาจักร ที่ยังมีโอกาสเติบโตสูงเมื่อเทียบกับตลาดภูมิภาคอื่นๆ รวมถึงแนะนำการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทโดยยังคงเน้นน้ำหนักการลงทุนในตราสารทุนหลากหลายภูมิภาค พร้อมกระจายการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ เช่น ตราสารหนี้ในตลาดเกิดใหม่เอเชีย ตราสารหนี้ไฮยีลด์ พันธบัตรสหรัฐอเมริกา เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวเป็นสินทรัพย์หนึ่งที่มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น

 

ขณะเดียวกัน ยังแนะนำการลงทุนในกองทุนรวมทั่วโลกที่เน้นการลงทุนแบบ ESG ที่มีอัตราการเติบโตของสินทรัพย์ที่ค่อนข้างมาก เนื่องด้วยผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาลเพื่อความยั่งยืนกันมากขึ้น ทั้งนี้ ESG เป็นหนึ่งในรูปแบบการลงทุนที่ซิตี้แบงก์ให้ความสำคัญในปี 2564 โดยซิตี้แบงก์คาดว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกจะส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานต่างๆ ในอนาคต ตลอดจนนวัตกรรมเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าและประสิทธิภาพของพลังงานทางเลือกมีแนวโน้มเติบโตเป็นอย่างมากในไม่กี่ปีข้างหน้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising