×

CIMB THAI เชื่อวิกฤตน้ำมันจะสงบลงในราคา 40-50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

โดย efinanceThai
10.03.2020
  • LOADING...

จากกรณีซาอุดีอาระเบียขยายกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดกลับมาเป็นเบอร์ 1 ของการเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ก่อนหน้านี้ซาอุฯ ร่วมกับกลุ่มโอเปกและรัสเซียลดกำลังการผลิตลง หวังดึงราคาน้ำมันให้สูงขึ้น แต่กลายเป็นว่า สหรัฐฯ รวมถึงรัสเซีย ยังมีการผลิตน้ำมันในระดับสูง ทำให้ซาอุฯ ต้องกลับมาเร่งผลิตน้ำมัน หวังให้ปริมาณน้ำมันออกสู่ตลาดมาก ทำให้ราคาน้ำมันร่วงลงแรง จนผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นสุดทน จนต้องลดการผลิตลงเอง สถานการณ์ราคาน้ำมันที่ลดลงนี้ ใครได้ ใครเสีย? 

 

สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบี ไทยได้ใช้โมเดลจากอ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ คาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศสำคัญ (เทียบกับฐาน) กรณีราคาน้ำมันร่วงลง 50% พบว่า กลุ่มอาเซียนสำคัญ ประเทศที่ GDP จะได้รับอานิสงส์มากที่สุดคือ ประเทศฟิลิปปินส์ เพราะเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันสุทธิปริมาณมาก 

 

สำหรับประเทศไทย GDP จะได้รับผลที่ดีขึ้นราว 0.3% เทียบกรณีฐาน (เช่น ล่าสุดสำนักวิจัยฯ คาดการณ์ GDP ขยายตัวได้ 1.7% ก็อาจสูงขึ้นเป็น 2.0% แต่อาจปรับลดประมาณการจากปัญหาไวรัสโคโรนา 2019 แทน)

 

ส่วนประเทศที่เป็นผู้ส่งออกน้ำมันสุทธิอย่างมาเลเซีย จะได้รับผลลบจากราคาน้ำมันที่ลดลง ส่วนประเทศที่พึ่งพาการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ เช่น ถ่านหิน อย่างอินโดนีเซียและออสเตรเลียก็ได้รับผลกระทบด้านลบจากราคาน้ำมันที่ลดลงด้วยเช่นกัน เพราะราคาสินค้าเหล่านั้นเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมัน 

 

ขณะที่ซาอุฯ เองก็อาจเกิดวิกฤตเศรษฐกิจได้ หากปล่อยให้ราคาน้ำมันลดลงเช่นนี้ตลอดทั้งปี ถ้าซาอุฯ ก็ได้รับผลกระทบแรงจากราคาน้ำมันที่ลดลง ซาอุฯ คงไม่ปล่อยให้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำเช่นนี้นาน เพราะพึ่งพารายได้จากน้ำมัน 

 

ดังนั้น สำนักวิจัยฯ มองว่า วิกฤตราคาน้ำมันน่าจะสงบได้ในไม่ช้า สุดท้ายราคาน้ำมันน่าจะอยู่ในระดับต่ำราว 40-45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แทนที่จะอยู่ในระดับ 60-65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ดังเช่นกรณีก่อนที่ซาอุฯ จะเพิ่มกำลังการผลิตรอบนี้ ด้วยทั้งอุปทานน้ำมันที่มีมาก และจากอุปสงค์ที่อ่อนแอจากปัญหาโควิด-19 ที่กระทบการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก

 

เรียบเรียง: อรนุช ภัทรกุล  

ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่: www.efinancethai.com   

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising