×

จีนไม่พอใจกรณีออสเตรเลีย-อังกฤษ-สหรัฐฯ ตั้งพันธมิตรความมั่นคง ชี้ไม่ควรพุ่งเป้าไปยังประเทศที่สาม พร้อมเตือนถึงการแข่งขันด้านอาวุธที่จะเข้มข้นขึ้น

17.09.2021
  • LOADING...
aukus

จีนแสดงความไม่พอใจต่อกรณีที่ผู้นำออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ประกาศจัดตั้งพันธมิตรไตรภาคีด้านความมั่นคง หรือที่เรียกว่า AUKUS โดยระบุว่าความเป็นหุ้นส่วนดังกล่าวไม่ควรมุ่งเป้าไปยังประเทศที่สาม และเตือนถึงการแข่งขันด้านอาวุธที่จะเข้มข้นขึ้นในภูมิภาค

 

การจัดตั้งพันธมิตรนี้รวมถึงความพยายามร่วมกันในการช่วยให้ออสเตรเลียได้ครอบครองเทคโนโลยีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นการตอบโต้และท้าทายการขยายอำนาจของจีนในภูมิภาค ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาว่าออสเตรเลียจะวางกำลังเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์เมื่อใด หรือจะสร้างกี่ลำ แต่ระบุเพียงว่า เนื่องจากออสเตรเลียไม่มีโครงสร้างพื้นฐานด้านนิวเคลียร์ ดังนั้นจึงต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี

 

ซึ่งแม้ในถ้อยแถลงร่วมระหว่างผู้นำของทั้ง 3 ชาติอย่างโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ, บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร และ สกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย จะไม่มีการเอ่ยถึงชื่อของประเทศจีนโดยตรง และเจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ระบุว่าความเป็นหุ้นส่วนนี้ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อตอบโต้จีนก็ตาม แต่ในการแถลงข่าวประจำวันวานนี้ (16 กันยายน) จ้าวลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนก็ระบุว่า ทั้งสามประเทศนี้กำลัง ‘ทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอย่างรุนแรง เพิ่มการแข่งขันด้านอาวุธ และทำลายความพยายามของนานาชาติในการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์’

 

“การส่งออกเทคโนโลยีเรือดำน้ำนิวเคลียร์ที่มีความอ่อนไหวสูงไปยังออสเตรเลียโดยสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าพวกเขากำลังใช้การส่งออกนิวเคลียร์เป็นเครื่องมือสำหรับเกมภูมิรัฐศาสตร์และนำสองมาตรฐานมาใช้ นี่เป็นสิ่งที่ขาดความรับผิดชอบอย่างยิ่ง” จ้าวระบุ พร้อมบอกว่าประชาคมระหว่างประเทศ รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านของออสเตรเลีย มีเหตุผลอย่างเต็มที่ที่จะตั้งคำถามว่าออสเตรเลียจริงจังกับการปฏิบัติตามพันธกรณีเรื่องการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ พร้อมย้ำว่าจีนจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด และกลไกระดับภูมิภาคใดๆ ไม่ควรมุ่งเป้าไปที่บุคคลที่สามหรือบ่อนทำลายผลประโยชน์ของบุคคลที่สาม

 

อย่างไรก็ตาม จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรระบุว่า สนธิสัญญานี้ไม่ได้ตั้งใจให้มีความเป็นปฏิปักษ์ และกล่าวว่าจะลดต้นทุนของเรือดำน้ำนิวเคลียร์รุ่นต่อไปของสหราชอาณาจักร ผู้นำของทั้งสามชาติในสนธิสัญญานี้เน้นย้ำว่าเรือดำน้ำจะถูกขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ แต่ไม่ใช่การบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์แต่อย่างใด ขณะที่มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวว่า ออสเตรเลียจะปฏิบัติตามพันธกรณีการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ของตนทั้งหมด และไบเดนย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกในระยะยาว และ Reuters ก็ระบุว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งก็กล่าวก่อนการประกาศร่วมจากผู้นำทั้งสามชาติว่าไบเดนนั้นไม่ได้กล่าวถึงแผนการนี้ในแง่ใดเป็นการเฉพาะกับ สีจิ้นผิง ผู้นำจีน ในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์กันเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ที่จะมีบทบาทสำคัญในอินโด-แปซิฟิก

 

ด้าน ดาหลี่หยาง ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของจีนจากมหาวิทยาลัยชิคาโก วิเคราะห์กับ The Guardian ว่าจากมุมมองของจีนแล้ว การริเริ่มแบบไตรภาคีนี้เป็นอีกหนึ่งในการสร้างพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ที่กำลังเกิดขึ้น และบอกว่าในช่วงไม่กี่ปีหลังมานี้มีความพยายามทางการทูตของจีนจำนวนมากเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งทำนองนี้เกิดขึ้น และพยายามที่จะกระชับความสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆ ด้วยความหวังว่าประเทศเหล่านั้นจะยังคงเป็นกลางมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เมื่อพูดถึงข้อตกลงเหล่านี้ บทวิเคราะห์ของ The Guardian ยังชี้ถึงการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญที่มองว่ากลยุทธ์ของสหรัฐฯ ต่อจีนเป็นกลยุทธ์แบบสองทาง ที่มีทั้งการแข่งขันและการร่วมมือระหว่างกัน

 

ขณะที่ปฏิกิริยาจากผู้นำรายอื่น นอกจากฝรั่งเศสที่แสดงความโกรธเคือง เนื่องจากสนธิสัญญานี้ทำให้ข้อตกลงผลิตเรือดำน้ำวงเงินราว 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ออสเตรเลียทำกับฝรั่งเศสเอาไว้เมื่อปี 2016 เป็นอันยุติแล้ว ยังมีปฏิกิริยาจากชาติอื่น อาทิ จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ที่ยินดีต่อการโฟกัสที่ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก แต่ระบุว่าเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของออสเตรเลียจะไม่ได้รับอนุญาตให้แล่นในน่านน้ำของนิวซีแลนด์ ส่วนสิงคโปร์ระบุว่ามีความสัมพันธ์กับออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกามาอย่างยาวนาน และหวังว่าการรวมกลุ่มของสามประเทศนี้จะนำไปสู่สันติภาพและความมั่นคง ส่วนญี่ปุ่นก็กล่าวว่าการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศของทั้งสามประเทศมีความสำคัญต่อสันติภาพและความมั่นคง

 

ภาพ: Kent Nishimura / Los Angeles Times via Getty Images 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising