×

ค่าจ้างในภาคการเงินของจีนลดลง 40% อีกหนึ่งสัญญาณที่บั่นทอนความพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจจีน

13.09.2023
  • LOADING...

ถือเป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่ความเจริญรุ่งเรืองของบรรดาหัวเมืองใหญ่ในจีน กลายเป็นความสำเร็จทางเศรษฐกิจของทางการจีน จากการยกระดับมาตรฐานการครองชีพ ที่ทำให้ผู้คนนับล้านกลายเป็นชนชั้นกลาง แต่ความสำเร็จดังกล่าวอาจสั่นคลอน เมื่อค่าจ้างในภาคการเงิน เทคโนโลยี และเศรษฐกิจใหม่ ถูกหั่นลงจากเดิม ทำให้ความฝันในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของทางการจีนเริ่มจางหายทีละเล็กทีละน้อย

 

ข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg พบว่า ตัวเลขเงินเดือนเฉลี่ยในเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งลดลงจากปีก่อน 9% และ 6% ตามลำดับ ถือเป็นการตกต่ำครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2015 และตรงกันข้ามกับตัวเลขของรัฐบาลที่ระบุว่า ค่าจ้างเพิ่มขึ้นทั่วประเทศสำหรับพนักงานออฟฟิศจำนวนมาก ผลกระทบดังกล่าวยังเกิดจากการที่บริษัทเริ่มตัดผลประโยชน์ต่างๆ เช่น ค่าเดินทางและค่าอาหาร ขณะที่ภาคการเงิน นายธนาคารอาวุโสรายงานว่า มีการตัดเงินค่าจ้างมากถึง 40% นอกจากนี้แม้แต่พนักงานภาครัฐที่เต็มไปด้วยชนชั้นกลางจำนวนมากของจีนก็ยังไม่รอดพ้นเช่นกัน

 

ความเสี่ยงดังกล่าวส่งผลให้คนงานลดการใช้จ่ายลง ในเวลาที่ทางการจีนพยายามฟื้นฟูความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ เพื่อหลีกหนีกับดักผู้มีรายได้ปานกลางและปิดบังความไม่สงบในสังคม เจ้าหน้าที่จะต้องค้นหาวิธีการสร้างงานที่ดีขึ้นให้แก่ชาวเมือง ทว่าช่องทางที่จำกัดของจีนสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยหนี้ ทำให้ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน เลือกใช้มาตรการได้เพียงไม่กี่วิธีเท่านั้น

 

เอลิเซีย การ์เซีย เฮอร์เรโร หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของ Natixis SA กล่าวว่า การบริโภคของจีนน่าจะไม่ดีขึ้นในเร็วๆ นี้ เว้นเสียแต่ว่าจะได้เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องของรายได้หลังหักภาษี หลายคนอาจเชื่อว่าการที่ผู้บริโภคจีนไม่สามารถบริโภคได้เต็มที่ เป็นเพราะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แต่ความจริงแล้วผู้บริโภคชาวจีนบางรายไม่สามารถบริโภคได้เหมือนเดิมแล้ว

 

จากการสนทนากับบรรดาพนักงานทั้งภาคเอกชนและรัฐบาล ต่างแสดงให้เห็นถึงความไม่สบายใจด้านความมั่นคงในการทำงานและการใช้จ่ายส่วนบุคคล ปัญหาในตลาดแรงงานของจีนถือเป็นปัญหาที่รุนแรงกว่าอัตราการว่างงานของเยาวชนที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ แม้หลายฝ่ายจะเริ่มแสดงความไม่พอใจ แต่คนทำงานในเมืองทุกวัยก็เต็มใจที่จะยอมรับกับการลดค่าจ้าง พร้อมกับลดรายจ่าย และเพิ่มชั่วโมงการทำงาน เพื่อที่จะได้ทำงานต่อไป

 

ภายใต้แรงกดดันนานหลายปี ในที่สุดระดับค่าจ้างในจีนก็ถูกปรับลง

 

หลังจาก 3 ปีของมาตรการการแพร่ระบาดที่กินค่าใช้จ่ายจำนวนมาก บรรดานายจ้างกำลังดิ้นรนเพื่อรับมือกับการชะลอตัวของงบประมาณที่มีจำกัดอยู่แล้ว สำหรับธุรกิจที่ร่ำรวยความท้าทายที่มากกว่านั้นคือ การกวาดล้างทุนใหญ่ที่ไม่เป็นระเบียบ ซึ่งเป็นนโยบายของสีจิ้นผิง 

 

CITIC Securities หนึ่งในวาณิชธนกิจชั้นนำของประเทศ ได้ปรับลดเงินเดือนพื้นฐานของนายธนาคารบางรายลงสูงสุดถึง 15% บริษัทคู่แข่งอย่าง China International Capital ก็ปรับลดค่าตอบแทนนายธนาคารอาวุโสรวมถึงโบนัสลงมากกว่า 40% 

 

ผลกระทบที่ตามมาอาจไปไกลกว่าการใช้จ่ายส่วนบุคคล นายธนาคารชาวฮ่องกงรายหนึ่งซึ่งมีลูกค้าในจีนแผ่นดินใหญ่กล่าวว่า ด้วยแรงจูงใจทางการเงินที่น้อยลงและการเน้นไปที่การลดความเสี่ยง ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่เริ่มไม่แยแส และอุตสาหกรรมการเงินเริ่มซบเซา นอกจากนี้สวัสดิการอื่นๆ ยังลดลง ตามปกติบริษัทในจีนมักเพิ่มค่าตอบแทนด้วยการจ่ายเงินสด แต่ในปีนี้ธนาคาร Eason ได้เปลี่ยนเงินอุดหนุนในฤดูร้อนเป็นการแจกโค้กกระป๋องและที่กันแดดแทน

 

ที่ปรึกษาของบริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้กล่าวว่า ค่าอาหารประจำวันของเขาลดลงเกือบ 80% เหลือ 27 ดอลลาร์ ด้าน หวง ผู้จัดการของบริษัทสื่อแห่งหนึ่งในหางโจว เปิดเผยว่า บริษัทของเขาประกาศหยุดจ่ายค่าแท็กซี่ช่วงดึก ยกเลิกการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อทำกิจกรรมในองค์กร และปิดโรงอาหารในบริษัทไปสองแห่ง

 

หวงยังระบุเพิ่มเติมว่า เดิมทีบริษัทตั้งเป้าที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก่อนเกิดโรคระบาด แต่ปัจจุบันบริษัทต้องพยายามคว้าโอกาสที่เป็นไปได้เพื่อความอยู่รอดเท่านั้น โดยบริษัทได้ลดจำนวนพนักงานลงถึง 1 ใน 3 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และอาจปลดพนักงานมากขึ้นในอนาคต

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising