×

เฌอปราง BNK48 ทบทวนความทรงจำแสนพิเศษตลอด 6 ปี ผ่านหนังสือรุ่น “Jiwaru Days” ของขวัญส่งท้ายจาก ‘รุ่น 1’

02.12.2022
  • LOADING...
เฌอปราง BNK48

หลังสิ้นสุดโชว์งานเปิดตัว BNK48 1st Generation Special Single “Jiwaru DAYS” First Performance จัดขึ้นที่ เทอร์มินอล 21 พระราม 3 ท่ามกลางแฟนคลับที่ตามมาให้กำลังใจอย่างล้มหลามในวันนั้น

 

THE STANDARD POP มีโอกาสได้ทักทาย ‘แคปเฌอ’ หรือ เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันวงคนเก่งแห่ง BNK48 และชวนย้อนพูดคุยถึงช่วงเวลาในการทำเพลง Special Single อย่าง Jiwaru DAYS พร้อมทบทวนการเดินทางของเหล่า BNK48 รุ่น 1 ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา และความในใจที่ ‘เฌอ’ ขอพื้นที่นี้ในการสื่อสารถึงแฟนคลับทุกคน

 


 

บทความที่เกี่ยวข้อง:

 


 

ทำไมเพลงส่งท้าย BNK48 รุ่น 1 ต้องเป็น Jiwaru DAYS

เฌอปราง: เพลงนี้มาจากการที่ ‘มิโอริ’ สงสัยว่าทำไม BNK48 รุ่นอื่นถึงมีเพลงเป็นของตัวเองได้ แต่ในขณะที่รุ่น 1 ของเรานั้นไม่มี อย่าง Aitakatta (อยากจะได้พบเธอ) ถึงจะเป็นเพลงแรกของเรา แต่เรามองว่านั่นคือเพลงของวง

 

มิโอริเลยเกิดไอเดียที่อยากจะหาเพลงที่มีจำนวนเซ็มบัตสึเท่ากับจำนวนสมาชิกรุ่น 1 ของ BNK48 ที่ยังเหลืออยู่ก็คือ 22 คน ซึ่งก็ไปค้นหามาเยอะมาก สุดท้ายเจอเพลง Jiwaru DAYS ก็มีจำนวนสมาชิกในเพลงเท่ากันกับจำนวนที่รุ่น 1 เรามีอยู่พอดีเป๊ะเลย แล้วความหมายก็สื่อถึงการจากลาเพื่อแยกย้ายออกไปเติบโต เราก็เลยเลือกเพลงนี้มาเป็น Special Single ของ BNK48 1st Generation 

 

ที่มาและความหมายของ Jiwaru DAYS

เฌอปราง: Jiwaru Days เป็นเพลงจบการศึกษาของ ‘ซัชชี่’ หรือ ริโนะ ซาชิฮาระ อดีตสมาชิกวง HKT48 และ AKB48 เพลงมีความหมายว่า เมมเบอร์กำลังจะจากลากับเมมเบอร์ด้วยกัน รวมถึงแฟนคลับ เฌอชอบความหมายของเพลงนี้นะ มันมีความหมายประมาณว่า ถึงเราจะไม่อยู่แล้ว แต่เราก็จะเป็นความทรงจำของกันและกันตลอดไป ก็จะตรงกับเนื้อเพลงท่อนหนึ่งที่ร้องว่า “Thank you ขอบคุณที่เราได้พบเจอกัน” และ “Love you, I say, good bye my dearest!” มันเป็นเพลงที่มีความหมายเหมาะกับพวกเรา BNK48 1st Generation มากๆ

 

เล่าถึงการมาของ Pioneer และ Sakura no Ki ni Narou

เฌอปราง: ตอนนั้นพวกเราคาดหวังให้ Special Single ของเราเป็นเพียงเพลงรองของเพลงหลักใน BNK48 เท่านั้นเอง แต่ผู้ใหญ่ในวงมองเห็นว่า พวกเราในฐานะสมาชิกรุ่น 1 ได้สร้างอะไรไว้ให้วงมากมาย ปูพื้นฐานทำให้เกิด BNK48 หลายๆ รุ่นตามมา ก็เลยอยากให้มีความพิเศษเกิดขึ้นในเพลงประจำรุ่น 1 และไม่ได้มีแค่ 3 เพลง แต่มีถึง 3 เพลงด้วยกันในเซ็ตนี้

 

ด้วยความที่เราได้ Jiwaru DAYS มาเป็น Special Single เลยเกิดไอเดียว่า อยากได้อีก 2 เพลงมาเป็นเพลงรองของซิงเกิลชุดนี้ โดยหนึ่งในนั้นจะต้องมีเพลงช้า เพราะ BNK48 เราไม่ค่อยมีเพลงช้า ก็เลยได้มาเป็นเพลง Sakura no Ki ni Narou – ดั่งซากุระ ตลอดไป เพลงนี้เป็นเพลงที่ไพเพราะ มีความหมายที่ดีด้วย สื่อถึงเรื่องราวของพวกเราสมาชิกรุ่น 1 แบบชัดเจน และมีชื่อเสียงมากๆ ในเวอร์ชันออริจินัลที่ญี่ปุ่น 

 

ส่วน Pioneer เป็นเพลงที่ผ่านการโหวตมาจากแฟนคลับ เพราะเราตั้งใจจะให้แฟนคลับมีส่วนร่วมในการร่วมเลือกเพลงให้กับรุ่น 1 อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้มีชอยส์เพลงที่เมมเบอร์เลือกกันเองเยอะมาก แต่สุดท้ายเพลงที่ส่งไปให้แฟนคลับโหวตเลือก 3 เพลงคือ GAGAGA (SDN48), Kaze wa Fuiteiru (AKB48) และ Pioneer (AKB48) โดยเพลงที่ได้รับคะแนนเยอะสุด ก็คือ Pioneer ซึ่งพวกเราก็ดีใจกัน เพราะมันเป็นเพลงที่แปลกและใหม่สำหรับเรา และพอมาอยู่ในลิสต์ 3 เพลงพิเศษมันเป็นอะไรที่ดูเข้ากันไปหมดเลย โดยเฉพาะเรื่องชุด ที่ 3 เพลงนี้สามารถใช้ชุดเดียวกันนี้ได้ทั้งหมดเลย

 

เฌอปราง BNK48

ภาพ: Cherprang BNK48

 

เล่าความต่างในการทำงานเพลง Aitakatta ถึง Jiwaru DAYS

เฌอปราง: ตอนนั้น (Aitakatta) พวกเราเป็นศิลปินหน้าใหม่ทำได้เพียงแค่ฟังและเต้นตาม โดยที่ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง อะไรถูก-อะไรผิด ยืนเต้นตามบล็อกกิ้งที่เขามีให้ แต่พอวันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ถึงปัจจุบันประสบการณ์ตรงนี้มันทำให้เรา ‘อ๋อ’ ในหลายๆ เรื่อง จากที่คอยทำตามอย่างเดียว ก็เริ่มเสนอความคิดเห็นเป็น มีข้อแนะนำตามความเหมาะสม และความสามารถของเมมเบอร์ที่เติบโตขึ้นทุกวัน นั่นจึงทำให้ Jiwaru DAYS เพลงนี้เปรียบเหมือนชิ้นงานจากเด็กที่มีประสบการณ์ แน่นอนว่ามันต่างจากตอนเพลงแรกที่เราไม่รู้อะไรเลย และความพิเศษของเพลงนี้คือเป็นครั้งแรกที่เราได้มีส่วนในการเข้าไปแก้ปรับเนื้อหาเพลงบางช่วงบางตอน 

 

เสียน้ำตาไปหลายลิตรกับ Jiwaru DAYS 

เฌอปราง: เพลงนี้มันเป็นการทำงานด้วยอารมณ์ค่อนข้างสูง เพราะเราผ่านอะไรด้วยกันมานานกับเด็กกลุ่มนี้นาน 5-6 ปี หรือพูดอีกอย่างคือ เพลงนี้เป็นเพลงที่ทำงานกับ ‘น้ำตา’ จริงๆ ตอนถ่ายทำมิวสิกวิดีโอก็ร้องไห้กันระนาว ร้องกันทุกคน ตอนได้ฟังเพลงครั้งแรกก็ร้องไห้ รู้สึกเศร้า ปนเหงาในใจนิดๆ 

 

เฌอปรางชอบท่อนไหนของเพลง Jiwaru DAYS 

เฌอปราง: “จะเข้าใจในความหมายที่มี คำว่าเพื่อนดีๆ ที่เรามีให้กัน” 

 

เป็นท่อนที่เฌอได้ร้องเอง มันแบบว่าเข้ากับชีวิตของพวกเรามากๆ แบบก่อนหน้านี้ในบรรดาเรื่องเลวร้ายที่เราก้าวผ่านมา เราจะเข้าใจในความหมายที่มี จากความเป็นเพื่อนที่เราต่างมีให้กัน (ทำท่าฮึบกั้นน้ำตา) เพราะเราต่างเผชิญเรื่องต่างๆ มาด้วยกัน ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานแบบนี้มันทำให้เราเข้าใจความรู้สึกของกันและกันแบบถ่องแท้ แต่เอาจริงๆ ก็ชอบทั้งเพลงเลยสำหรับ Jiwaru DAYS เพราะมันเป็นเพลงที่เล่าความรู้สึกของเราผ่านเพลงได้ดีมากๆ 

 

ที่มาที่ไปและคอนเซปต์มิวสิกวิดีโอเพลง Jiwaru DAYS 

เฌอปราง: ธีมมิวสิกวิดีโอเพลงนี้เป็นธีมที่เราชาวรุ่น 1 ได้เลือกกันให้เป็นคอนเซปต์นักเรียนจบการศึกษา โดยที่แต่ละคนกำลังจะแยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเอง เพราะช่วงระยะเวลาที่เราใช้ด้วยกัน 6 ปี มันสามารถเทียบได้กับช่วงชั้น ม.1-6 ได้เลย 

 

พวกเราเลยเสนอกันว่าอยากให้มีกลิ่นอายความเป็น ‘ปัจฉิมนิเทศ’ เพราะมันมีความเป็นไทยและน่าจะทัชใจคนฟังไม่น้อย เพราะหลายๆ คนก็น่าจะเคยผ่านช่วงเวลาแบบนี้มาเหมือนกัน ก็เลยได้มาเป็นภาพของกลุ่มเด็กที่วันนี้เติบโตขึ้นมา แล้วมานั่งล้อมวงมาเปิดหนังสือรุ่นเพื่อย้อนความทรงจำ ก็จะมีภาพประมาณว่าครั้งหนึ่งพวกเราใช้เวลาร่วมกันยังไงบ้าง ก็จะมีทั้งสนุก เฮฮา เล่นด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน สร้างวีรกรรมแปลกๆ ร่วมกัน 

 

และถึงแม้วันนี้เราจะแยกจากกัน เพื่อไปเดินตามเส้นทางใหม่ๆ ก็อยากจะฝากให้แฟนคลับได้คอยเป็นกำลังใจให้กับพวกเราต่อไปด้วย เพราะพวกเราเองก็ยังคงผูกพันกันอยู่ ตามภาพที่เกิดขึ้นในมิวสิกวิดีโอเลย 

 

เฌอปราง BNK48

BNK48 1st Generation “Jiwaru DAYS” Music Video Behind The Scenes

ภาพ: BNK48

 

เฌอปรางร้องไห้หนักมาก ขณะถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลงนี้?

เฌอปราง: ใช่ค่ะ ตามที่ทุกคนเห็นในมิวสิกวิดีโอเลย ช็อตนั้นมันคือซีนของเด็กที่กำลังจะจบการศึกษากัน ถือใบปริญญานั่งล้อมวงพูดคุยกันเป็นครั้งสุดท้าย เขียนสมุดเฟรนด์ชิป เขียนเสื้อให้กัน มันทำให้หนูนึกถึงตัวเองตอน ม.6 ตอนที่เรากำลังจะแยกจากเพื่อน 

 

แม้ในช่วงชีวิตที่เราใช้ร่วมกันมันจะมีเรื่องราวทั้งดีและไม่ดี รู้ตัวอีกทีเราก็อยู่กับคนกลุ่มนี้มานานมากๆ จนถึงจุดหนึ่งไม่ว่าเรื่องนั้นมันจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดี หรือการที่เรามองเห็นข้อดี-ข้อเสียของแต่ละคน แต่มันทำให้เราเข้าใจในความเป็นตัวตนของเขา เราต่างเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกัน 

 

แล้วตอนมองหน้าทุกคนมันก็จะมีภาพที่พวกเราได้สร้างได้ทำสิ่งต่างๆ ร่วมกันมา ภาพที่พวกเราเหนื่อยกันมาก ถึงแม้ว่าหลายอย่างจะเป็นสิ่งที่น่าพอใจหรือไม่ก็ตาม ไปจนถึงภาพของการแข่งขันที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปีแรกๆ แต่ความมหัศจรรย์คือ ในขณะที่เราต้องแข่งกัน แต่เราไม่เคยปล่อยมือกันเลย ไม่ว่าเราจะแข่งขันหรือต่อสู้กันหนักหน่วงแค่ไหน สุดท้ายแล้วเราก็คือเพื่อน-พี่-น้องกัน ที่ต่อสู้ร่วมกันฝ่าฟันมาในฐานะสมาชิกรุ่น 1 แต่ ณ วันนี้มันถึงเวลาที่เราจะต้องแยกจากกันแล้ว มันจึงเกิดเป็นความเหงาในหัวใจ เราจะต้องออกไปเจอสิ่งใหม่ๆ อีกแล้ว สำหรับเฌอมันเหมือนการจบ ม.6 เป็นครั้งที่ 2 

 

ซึ่งเฌอเองถึงแม้วันนี้จะยังอยู่ แต่เฌอก็มีเส้นทางของตัวเองที่เตรียมเอาไว้แล้วเหมือนกัน ก็อยากจะฝากทุกคนรอติดตามเหมือนกัน ซึ่งเฌอก็คิดว่ามันก็น่าจะสนุกไปอีกแบบหนึ่ง ถึงจะยังไม่มีระยะเวลาตายตัวที่จะบอกได้ว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหน และส่วนตัวเฌอคิดมาเสมอว่า ถ้าเราจะต้องเห็นภาพแบบนี้จากน้องๆ ต่อไปเรื่อยๆ (สมาชิกประกาศจบการศึกษา) เฌอก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน (หัวเราะ)

 

เฌอปราง BNK48

BNK48 1st Generation “Jiwaru DAYS” Music Video Behind The Scenes

ภาพ: BNK48

 

ความรู้สึกวันที่ 22 สมาชิกรุ่น 1 รวมตัวกันอีกครั้ง

เฌอปราง: สิ่งที่เกิดขึ้นในภาพในมิวสิกวิดีโอที่ทุกคนเห็นมันคือโมเมนต์ที่ทุกคนสร้างกันเองแบบธรรมชาติ เพราะมันยากมากที่สมาชิกรุ่น 1 ที่เหลืออยู่ 22 คนจะมารวมตัวกัน เพราะแต่ละคนก็ต่างมีงานเป็นของตัวเอง มันเป็นภาพที่หายไปนานมาก นับตั้งแต่มีรุ่นที่ 2 เข้ามา จนทุกคนแยกย้ายกันไปอยู่ทีม BII, NV ของตัวเอง ซึ่งวันที่มารวมตัวเจอหน้ากัน เราก็คุยกันว่าบรรยากาศแบบนี้มันหายไปนานเหมือนกันนะ มันเป็นบรรยากาศที่ดูสีหน้าแต่ละคนแล้วจะรู้เลยว่าทุกคนคิดถึงบรรยากาศแบบนี้ ถึงแม้เราจะไม่ได้พูดมันออกมาก็ตาม เพลงนี้จึงเปลี่ยนเป็น ‘หนังสือรุ่น’ ของพวกเรา ซึ่งก็คิดว่าแฟนๆ อินไปกับพวกเราและชอบเพลงนี้เหมือนพวกเรา 

 

คอนเสิร์ตรุ่น 1 ครั้งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เฌอปราง: เอาง่ายๆ อะไรที่เมมเบอร์อยากจะทำก็จะได้ทำในงานนี้ และอะไรที่มันไม่ได้อยู่ในคอนเสิร์ตจะไปอยู่ในสเตจแกรดของเมมเบอร์แต่ละคน แต่ละกลุ่ม 

 

แต่ด้วยความที่คอนเสิร์ตนี้เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ เราก็มีการพูดคุยกันอยู่ตลอดว่าอยากให้แฟนคลับได้เห็นอะไรเพื่อเป็นการส่งท้ายกัน อยากเต้นเพลงไหนกับใคร อยากเรียงเรื่องราวแบบไหน และที่สำคัญคือเราไม่อยากจะจากกันแบบเศร้าเสียใจ เราอยากให้มันเป็นการจากลาที่สนุกเฮฮาปาร์ตี้ ภายใต้ธีมดอกแดนดิไลออนที่เป็นจุดเริ่มต้นพวกเราได้เติบโตมาจากเมล็ดที่ชื่อว่า BNK48 และวันนี้เราเติบใหญ่ และกำลังจะปลิวไปตามสายลมในแบบที่ดอกแดนดิไลออนเป็น คือปลิวกระจายไปยังทิศทางของตัวเอง เพื่อไปเติบโตในที่แห่งใหม่

 

ตอนนี้ทุกอย่างถูกแพลนไว้หมดแล้ว เหลือแค่ลงมือทำ เหลือแค่ซ้อมแล้วก็ลงรายละเอียดกัน ซึ่งก็คิดว่ายังเหลืออะไรให้ทำอีกเยอะเหมือนกัน 

 

กลับไปที่ไบเทคอีกครั้ง เป็นไงบ้าง?

เฌอปราง: ก็ดีใจค่ะ จริงๆ เราไปจัดงานมาหลายที่แล้ว ที่อิมแพ็ค อารีนา ก็เคยตอน BNK48 Space Mission Concert, ที่ราชมังฯ เราก็เคยขึ้นโชว์เพลง ‘Shonichi’ ด้วย ถึงจะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็ประทับใจมากๆ ก็เลยรู้สึกว่าถึงจุดหนึ่งที่ไบเทคก็ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ลงตัวกับพวกเราด้วยเหตุของช่วงเวลาและปัจจัยต่างๆ 

 

ย้อนกลับไปหลายปีก่อนทั้งเมมเบอร์และแฟนคลับน่าจะมีความทรงจำร่วมกันที่ไบเทคเยอะมากๆ ทั้งอีเวนต์จับมือ และ 2-Shot และเราก็เคยจัดคอนเสิร์ต BNK48 1st Concert “STARTO” ที่นั่นมาแล้วด้วย ดังนั้นมันเหมือนเรากลับมาจบเรื่องราวที่จุดเริ่มต้นเพื่อเป็นการส่งท้ายของพวกเรา ซึ่งเฌอก็ตั้งตารอให้ถึงวันนั้นเหมือนกัน

 

ฟังน้ำเสียงเหมือนเฌอรู้สึกคอมพลีตกับหน้าที่ตรงนี้แล้ว บอกเราหน่อยได้ไหม ว่า ‘เฌอ’ ยังอยากทำอะไรกับการยืนตรงนี้อีก?

เฌอปราง: จริงๆ ยังอยากกลับไปจัดคอนเสิร์ตที่ราชมังฯ อีกสักครั้ง แต่ด้วยความที่เราเคยไปโชว์เพลง ‘Shonichi’ ก็ถือว่าเราได้ไปเยือนมาแล้ว ก็ดีใจมากๆ แล้ว ส่วนสิ่งที่ยังอยากทำอาจจะยังนึกไม่ออกว่ายังเหลืออะไรอีก แต่ภาพที่คิดได้ทันทีคืออยากเห็นวง BNK48 ไปต่อได้เรื่อยๆ แต่ตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนจะไปต่อได้ แม้ไม่มีพวกเรา (รุ่น 1) ก็เชื่อว่าวงไปต่อได้แน่ๆ องค์ประกอบโดยรวมของวงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และผู้ใหญ่ของวงก็พร้อมที่จะปั้นเด็กรุ่นใหม่ขึ้นมาแทน

 

และเฌอก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ยังยืนอยู่ ณ ตรงนี้ เป็นช่วงส่งไม้ต่อให้น้องๆ และเฌอก็จะเข้าไปคุยกับน้องๆ เหมือนกันว่า หลังจากนี้วงกำลังจะเข้าสู่รุ่นใหม่เต็มตัว ตอนนี้รุ่น 2 และ 3 ก็พร้อมแล้วในระดับหนึ่ง หลังจากสั่งสมประสบการณ์มานานแล้ว และวงเราก็ค่อนข้างพร้อม มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบมากๆ ซึ่งเฌอก็ยังแอบตื่นเต้นนะว่า เส้นทางหลังจากนี้จะเป็นยังไง ก็ยังหวังว่าเราจะไปได้ไกลอีกมากๆ อาจจะไม่ได้ขอให้ดังแบบพลุแตก แต่ขอให้วงอยู่ได้นานๆ เป็นพื้นที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ เข้ามาทำตามความฝัน ยกตัวอย่างน้องรุ่น 4 ที่เพิ่งเข้ามา ก็จะเห็นได้ว่า หลายคนเคยพยายามออดิชันเข้ามาแล้วหลายครั้ง ก็แอบลุ้นและเอาใจช่วยว่าเด็กรุ่นใหม่จะเข้ามาทำให้ BNK48 ไปทิศทางไหน แต่ที่แน่ๆ New Era กำลังเริ่มขึ้นแล้ว

 

เฌอปราง BNK48

ภาพ:Cherprang BNK48

 

คุยเรื่อง เพลง-คอนเสิร์ต-เพื่อน มาสักพักแล้ว ขอย้อนกลับมาคุยเรื่อง ‘เฌอปราง’ กันบ้าง ช่วงนี้งานวง-งานส่วนตัวเยอะมากๆ เราจึงอยากรู้ว่าเฌอมีวิธีดูแลหรือจัดการชีวิตตัวเองอย่างไรบ้าง

เฌอปราง: โชคดีที่เรียนจบแล้วค่ะ ถ้ายังเรียนไม่จบคิดว่าน่าจะหนักกว่านี้มากๆ ก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ของวงที่เปิดโอกาสเส้นทางทำงานด้านอื่นๆ อย่าง ‘การแสดง’ ให้เฌอด้วย ส่วนงานวงเฌอก็ยังได้อยู่เบื้องหลังดูการเติบโตของน้อง รุ่น 3 รุ่น 4 ก็อยากเข้าไปดูให้เยอะกว่านี้ แต่อย่างที่เห็นคือติดงานหนักมาก แต่คิดว่าถ้าละครทยอยถ่ายจบน่าจะเริ่มกลับมาเต็มเหนี่ยวกับตรงนี้มากขึ้น

 

เฌอจัดการงานส่วนตัวด้วยการโน้ตแพลนตารางงานล่วงหน้าค่ะ ก็คือพวกปฏิทินในมือถือตามปกติ เฌอจะลิสต์ทุกงานไว้ทั้งหมด มันทำให้เฌอเห็นแพลนงานตัวเอง จะได้มีเวลาเตรียมตัวกับงานที่ต้องทำในแต่ละอีเวนต์ ในแต่ละวัน และมีวันหยุดให้พักผ่อนวันไหนบ้าง เฌอจะเปิดดูตัวปฏิทินทุกวัน มันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้แล้ว ซึ่งช่วงท้ายปีแบบนี้ตารางแน่นมาก (หัวเราะ)

 

เฌอจะทำแบบนี้ไว้เพื่อให้เห็นตารางงานล่วงหน้าเป็นเดือนๆ ถ้าช่วงไหนมีวันว่างก็จะใช้เวลาในการไปดูแลตัวเอง ใช้เวลาในการเข้าหอไปดูน้องๆ แต่โชคดีที่เฌอได้อยู่หอ BNK48 ด้วย มันทำให้เฌอได้ดูแลตัวเองอย่างเต็มที่แบบไม่ต้องไปรบกวนที่บ้าน เพราะช่วงหลังเฌอออกกองแทบทุกวัน และการอยู่หอมันมีข้อดีอย่างหนึ่งคือมันมีน้องๆ อยู่ด้วย ถ้าเฌอกลับไปอยู่บ้านก็แทบจะไม่ได้เจอใครเลย แต่การอยู่ตรงนี้มันทำให้เฌอได้เข้าไปเห็นน้องซ้อมร้องซ้อมเต้น ได้อัปเดตชีวิต ได้พูดคุยกัน บางทีก็ลากยาวไปตี 2 ตี 3 ไปดูน้องซ้อมก็ได้เห็นพัฒนาการของพวกเขา อย่างน้องรุ่น 4 ก็เริ่มเห็นบ้างแล้วถึงจะไม่ได้เข้าไปดูแบบจริงจัง แต่ก็ยังได้อยู่ในสายตาตลอดเวลา 

 

ผลงานละครจะออนแอร์ให้แฟนๆ รับชมช่วงไหน

เฌอปราง: คาดว่า ละครทั้ง 2 เรื่อง ‘บุษบาลุยไฟ’ กับ ‘Thank You Teacher’ จะได้ออนแอร์ช่วงต้นปีหน้า แต่ที่อยากให้ทุกคนติดตามคือ ทั้ง 2 เรื่อง เฌอได้แสดงเป็น 2 ตัวละครในลุคที่ต่างขั้วมากๆ ทุกคนน่าจะจำไม่ได้เลย (หัวเราะ) 

 

เฌอปราง BNK48

ภาพ: Cherprang BNK48

 

อะไรคือสิ่งที่ฮีลใจเฌอในยามเหนื่อยได้ดีที่สุด

เฌอปราง: นอนค่ะ คิดว่าการพักผ่อนที่ดีที่สุดคือการนอน และการได้กินของหวาน ซึ่งน้องๆ ที่หอจะซื้อมาให้บ่อยมาก บางทีก็บอกไปว่าพี่กินไม่ทันจริงๆ (หัวเราะ) และเอาจริงๆ การได้อยู่หอกับน้องๆ มันเหมือนเป็นการฮีลกำลังใจของเฌอด้วยนะ มันได้พูดคุยกัน นั่งเฮฮาหน้าทีวี ได้เล่นเกมกับน้องๆ มันก็เป็นการพักผ่อนไปในตัว 

 

ฝากผลงานเพลง Jiwaru DAYS 

เฌอปราง: ฝากเพลง Jiwaru DAYS ด้วยนะคะ รวมถึง 2 เพลงใน Special Single BNK48 1st Generation อย่าง Pioneer และ Sakura no Ki ni Narou – ดั่งซากุระ ตลอดไป ทั้ง 3 เพลงนี้เป็นงานที่พวกเราตั้งใจทำกันอย่างเต็มที่มากๆ เพราะเป็นงานส่งท้ายให้กับเมมเบอร์ 1st Generation หลายคน 

 

และหวังว่าจะสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ ทุกคน ที่ติดตามพวกเรามาตั้งแต่วันที่ทำอะไรก็ไม่เป็น แต่งหน้าไม่เป็น ดูแลตัวเองไม่เป็น เต้น-ร้องก็ไม่ได้ จนมาถึงงานเปิดตัวครั้งนี้ หนูพูดได้เลยว่ามันเป็นงานที่เราซ้อมกันเพียง 2 วันแล้วขึ้นโชว์เลย ส่วนเพลงเก่าๆ ที่หยิบขึ้นมาร้องบนเวทีผ่านการซ้อมเมื่อวานนี้เอง จากเมื่อก่อนที่ใช้เวลาเป็นสัปดาห์ โดยเฉพาะเพลง Oogoe Diamond ที่พวกเราเข้ามาแรกๆ ใช้เวลาเดือน 2 เดือน เพื่อเต้นเพลงเดียว แต่การทำงานของพวกเราทุกวันนี้คือแค่มองตากันก็รู้ใจ มันเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากๆ ถึงกับตกใจตัวเองกันอยู่เหมือนกัน ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่พวกเราภูมิใจที่อยากจะบอกกับแฟนคลับว่า พวกเราเติบโตขึ้น พวกเราตั้งใจกับหน้าที่ตรงนี้มาโดยตลอด เราได้เรียนรู้การอยู่ตรงนี้ มันทำให้พวกเรามีสกิลที่หลากหลายมากขึ้น 

 

แล้วก็อยากจะถือโอกาสนี้ขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสพวกเรา สนับสนุนวงของพวกเรามาโดยตลอด ทำให้พวกเรามีพื้นที่ตรงนี้ ได้เห็นแฟนคลับมาชมโชว์พวกเราเต็มพื้นที่ เต็มเวที ได้มีคอนเสิร์ต ได้มีรุ่นน้องสมาชิกใหม่ๆ เข้ามา ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นของตัวเอง เพราะวันแรกพวกเราไม่มีอะไรอย่างนี้เลย (เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ) 

 

สิ่งที่เฌอมองเห็นคือ 6 ปีก่อน ช่วงแรกๆ ที่ประเทศไทยมี BNK48 พอมีแล้วก็ไม่รู้ว่าวงจะดังไหม มันจะเป็นยังไง แต่เรามีวันนี้ได้เพราะแฟนคลับที่สนับสนุนเราในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะสนับสนุนสมาชิกคนใดคนหนึ่ง หรือสนับสนุนวงแบบเป็นภาพรวม วงเราจะดำเนินต่อไปไม่ได้จริงๆ ถ้าไม่มีการซัพพอร์ตจากแฟนคลับทุกคน พวกเราอาจมาไม่ถึงวันนี้ก็ได้

 

เฌอปราง BNK48

ภาพ: Cherprang BNK48

 

ความในใจถึงแฟนคลับของเฌอ

เฌอปราง: ส่วนตัวเฌออยากจะขอบคุณพวกเขามากๆ ขอบคุณที่เข้าใจเฌอ ขอบคุณที่รู้ว่าเฌอเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้เพราะอะไร เข้าใจตัวตนของเฌอและยังเลือกที่จะสนับสนุนเฌอมาตลอด หลายคนยังตามถือป้ายไฟเชียร์เรามาเสมอตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ 

 

ช่วงหนึ่งของการใช้ชีวิตในวงนี้ สมาชิกทุกคนต่างเผชิญหน้ากับสิ่งที่เรียกว่า ‘การแข่งขัน’ และในหลายๆ พื้นที่แข่งขัน ถ้าพวกเขาไม่สนับสนุนเฌออย่างที่เป็นมา มันอาจจะทำให้เฌออาจจะไม่สามารถพูดอะไรได้เยอะกับผู้ใหญ่เหมือนกัน แต่ก็เพราะพวกเขา (แฟนคลับของเฌอปราง) ที่คอยส่งกำลังใจให้เฌอทำหน้าที่ตรงนี้อย่างเต็มที่ สิ่งที่เฌอได้รับจากพวกเขาในงาน General Election 1 มันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ตัวเฌออย่างดีที่สุดแล้ว เชื่อไหมว่าจนถึงวันนี้เฌอยังจำโมเมนต์ ณ วันนั้นได้ไม่ลืมเลย 

 

เฌอดีใจมาก จากวันที่เราร้องเพลงไม่เก่ง เต้นไม่เก่ง สมัครเข้าวงเพราะความชอบล้วนๆ ถ้าไม่มีแรงสนับสนุนจากตรงนี้ ไม่มีแรงซัพพอร์ตจากพวกเขาเข้ามา ที่เลือกจะซัพพอร์ตเฌอโดยตรง เลือกเราเป็นคามิโอชิของพวกเขา รวมถึงคนอื่นๆ ที่ซัพพอร์ตเราอยู่ข้างๆ เฌอก็รับรู้ได้ แล้วก็อยากจะขอบคุณน้องๆ ในวงด้วยที่เชื่อฟังเฌอมาโดยตลอด นั่นแหละพวกเขามีส่วนสำคัญกับชีวิตเฌอมากๆ 

 

สถานที่แห่งนี้มอบโอกาสให้เฌอเยอะมาก ได้เฌอเดินตามความฝันของตัวเอง จากเด็กที่ชอบ 48Groups ได้สร้าง BNK48 ร่วมกับเพื่อนๆ และยังได้รับโอกาสให้เป็นกัปตันวงด้วย แม้มันจะเป็นงานที่เหนื่อย แต่เฌอก็ภูมิใจและพร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่ที่สุดเสมอมา เพราะเราอยากให้วงได้ยืนในวงการต่อไปเรื่อยๆ ได้มีสมาชิกหน้าใหม่เข้ามาเติมเต็มอยู่ตลอด ให้เด็กๆ ได้รับโอกาสในแบบที่เฌอเคยได้ 

 

ท้ายที่สุดก็อยากจะขอบคุณแฟนคลับทุกคน ทุกคนจริงๆ ที่ร่วมสร้างและผลักดันวง BNK48 มาเสมอ ณ วันนี้ก็ถึงเวลาเติบโตของสมาชิกรุ่น 1 แต่ละคนกำลังจะได้ออกไปเดินตามความฝันและใช้ชีวิตของตัวเอง ก็ยังอยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้ทั้งเหล่ารุ่น 1 และน้องๆ ที่ยังอยู่ในวง สำหรับ Chapter ต่อไปด้วย ก็อยากให้ทุกคนรอชมพวกเขาเหมือนกัน ก็หวังว่าเป็นแฟนคลับจะยังเอ็นดู คอยดูและคอยติดตาม BNK48 ต่อไป

 

“ฝากวง BNK48 ด้วยนะคะ”

 

ฟังเพลง Jiwaru DAYS – BNK48

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising