ชาติไทยพัฒนาประเดิมเวทีปราศรัยแรกที่เมืองหลวงสุพรรณบุรี ชูแก้รัฐธรรมนูญ

วันนี้ (10 กุมภาพันธ์) ที่อุทยานมังกรสวรรค์ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วย กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วย

สรชัด สุจิตต์ ส.ส. จังหวัดสุพรรณบุรี เขต 1

ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส. จังหวัดสุพรรณบุรี เขต 2

ประภัตร โพธสุธน ส.ส. จังหวัดสุพรรณบุรี เขต 3

เสมอกัน เที่ยงธรรม ส.ส. จังหวัดสุพรรณบุรี เขต 4

นพดล มาตรศรี ส.ส. บัญชีรายชื่อ (อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี)

พร้อมด้วยผู้ร่วมปราศรัย เข้ากราบสักการะขอพรองค์เจ้าพ่อหลักเมือง และวางพวงดอกไม้ กราบอนุสาวรีย์ บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ก่อนเดินทักทายประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัยใหญ่เวทีแรกของพรรคชาติไทยพัฒนา โดยได้จัดเก้าอี้ไว้รองรับมากกว่าหนึ่งหมื่นที่นั่ง ซึ่งการจัดงานในวันนี้มีคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา ภริยาบรรหาร และคุณแม่ของวราวุธ เดินทางมาให้กำลังใจด้วย

วราวุธกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ขอขอบคุณคุณแม่แจ่มใส มารดา และพี่สาว คุณกัญจนา ศิลปอาชา ที่เป็นแรงผลักดันมาโดยตลอด และตลอด 3 ปี ต้องขอโทษชาวจังหวัดสุพรรณบุรีที่ไม่ได้มาพบปะมากนัก เพราะตนต้องทำงานเพื่อคนทั้งประเทศ เพื่อให้เห็นว่า วราวุธ คนสุพรรณฯ คนนี้ทำงานไม่แพ้คนจังหวัดอื่น และจากนี้ไปถ้าพรรคชาติไทยพัฒนาแลนด์สไลด์ ได้เข้าไปเป็นรัฐมนตรีอีกรอบ ขอสัญญาว่าจะ “กินข้าวของจังหวัดสุพรรณบุรีตลอดไป”

วราวุธกล่าวต่อว่า นโยบายที่จะเป็นนโยบายสำคัญในการพัฒนาแผ่นดินไทยเราเคยทำมาแล้ว และทำสำเร็จมาแล้ว และเป็นมรดกของพ่อบรรหารที่ฝากไว้ให้แผ่นดินไทย คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญมายกร่างใหม่ทั้งฉบับ และเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด ฉบับ 2540 แต่ก็น่าเสียดายที่ถูกฉีกทิ้งไปในปี 2549 และเกิดรัฐธรรมนูญปี 2550 และมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเรื่อยมา ซึ่งยิ่งแก้ยิ่งมีปัญหา ยิ่งแก้ยิ่งเละ ดังนั้นพรรคชาติไทยพัฒนาจะขอเป็นรัฐบาลเพื่อที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประเทศชาติดีขึ้นกว่านี้ และนี่คือส่วนหนึ่งของนโยบายที่พวกเราพรรคชาติไทยพัฒนาจะเดินหน้าทำนโยบาย ว้าว ไทยแลนด์ ให้เกิดขึ้นดั่งที่แถลงการณ์ไว้

วราวุธกล่าวทิ้งท้ายว่า ในนามของพรรคชาติไทยพัฒนา ขอฝากทั้งพรรคเอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจชาวสุพรรณบุรี รวมถึงประชาชนทุกคนให้เลือกพรรคชาติไทยพัฒนาให้แลนด์สไลด์ พร้อมยืนยันว่าต่อให้ดินกลบหน้า พรรคชาติไทยพัฒนาก็ไม่ยุบรวมกับพรรคการเมืองใด แต่หากว่าใครอยากมารวมกับพรรคเราก็พร้อมต้อนรับ

บรรยากาศการปราศรัยตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา มี ประภัตร โพธสุธน ส.ส. จังหวัดสุพรรณบุรี เขต 3 ในฐานะเลขาธิการพรรค ขึ้นปราศรัยเป็นคนแรก โดยได้ชักชวนประชาชน อธิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดสุพรรณบุรี และดวงวิญญาณบรรหาร ก่อนให้ร่วมกันแสดงพลังขอให้ ‘พรรคชาติไทยพัฒนาต้องแลนด์สไลด์ในจังหวัดสุพรรณบุรี’ โดยเหตุผลที่ใช้คำว่าแลนด์สไลด์เป็นภาษาทางการเมือง แปลว่าถล่มทลาย ดังนั้นพรรคชาติไทยพัฒนาจะต้องแลนด์สไลด์ในจังหวัดสุพรรณบุรีให้ได้

ประภัตรยังกล่าวว่า คนรุ่นใหม่ เด็กรุ่นใหม่ ยังไม่เคยเห็นจังหวัดสุพรรณบุรีเมื่อ 40 ปีก่อน ตั้งแต่บรรหารเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้สุพรรณบุรีมีถนน มีเส้นทางคมนาคม เดินทางไปมากรุงเทพฯ ได้สะดวกสบาย ส่วนตัวเป็นขุนพลเคียงคู่บรรหารมาโดยตลอด เมื่อใดไม่มีไฟฟ้า ก็ทำให้มี ช่วงใดไม่มีน้ำก็ทำชลประทานให้มีน้ำทำนาได้ เป็นแบบอย่างให้พรรคการเมืองอื่นๆ ทำตาม เมื่อวันที่บรรหารถึงแก่อนิจกรรม ใครๆ ก็มองว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะเดินต่อไปไม่ได้ แต่ก็เดินต่อไปได้ด้วยคุณหญิงแจ่มใส รวมถึงวราวุธ ที่วันนี้สามารถแสดงความสามารถบนเวทีโลกจนได้รับความชื่นชม จึงต้องสนับสนุนให้วราวุธเป็นนายกฯ คนที่สองของจังหวัดสุพรรณบุรี ดังนั้นจะต้องแลนด์สไลด์ให้ได้

ขณะที่กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า วันนี้มาในฐานะพี่สาวหัวหน้าพรรค ลูกสาวบรรหารและคุณแม่แจ่มใส และขอพูดสั้นๆ ง่ายๆ ว่า การเลือกตั้งที่จะมาถึงครั้งนี้กาบัตร 2 ใบ เลือกคน เลือกพรรค และครั้งนี้ต้องใช้ถึง 3 แสนคะแนนจึงจะได้บัญชีรายชื่อ เมื่อวราวุธลงบัญชีรายชื่อ ถ้าพี่น้องประชาชนต้องการให้เป็น ส.ส. ก็ต้องเลือกทั้งคน ทั้งพรรค ให้แลนด์สไลด์ และไปชักชวนญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ให้ช่วยกันเลือกพรรคชาติไทยพัฒนาทั้งประเทศ ยืนยันว่าพรรคชาติไทยพัฒนา ถึงจะเป็นพรรคเล็ก แต่เราคิดใหญ่ และจะเป็นพรรคใหญ่ให้ได้ เพื่อสักวันหนึ่งจะส่งวราวุธเป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้

สำหรับเนื้อหาของการปราศรัย ส่วนใหญ่เป็นการนำเสนอเป้าหมายของพรรคชาติไทยพัฒนาที่จะสร้างประเทศที่ยั่งยืนเพื่อลูกหลานไทย (Sustainable Country for All GENs) ด้วยการใช้ ‘สิ่งแวดล้อม’ เป็นอาวุธในการสร้างความยั่งยืน เช่น การสร้างเศรษฐกิจสีเขียว พลังงานสะอาด เมืองสีเขียว ท่องเที่ยวยั่งยืน อาหารแห่งอนาคต สิ่งแวดล้อมสีเขียว สาธารณสุขเชิงป้องกัน เกษตรสีเขียว รวมถึงการเมืองสร้างสรรค์

ผ่านนโยบายหาเสียงเลือกตั้งในแคมเปญ ‘ว้าว ไทยแลนด์’ 10 นโยบาย ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย