วันนี้ (5 กรกฎาคม) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมแกนนำพรรค เช่น ธีระ วงศ์สมุทร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา, เสมอกัน เที่ยงธรรม ส.ส. สุพรรณบุรี, สรชัด สุจิตต์ ส.ส. สุพรรณบุรี, พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ ส.ส. นครปฐม, อุดม โปร่งฟ้า ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เชียงราย 2 คน ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในนามของพรรคชาติไทยพัฒนา คือ สุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ อดีต ส.ส. เชียงราย หลายสมัย และ วันชัย เจียมวิจักษณ์ บุตรชาย โดยเมื่อทั้งสองคนกรอกใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาเสร็จแล้ว วราวุธได้สวมเสื้อแจ็กเก็ตพรรคชาติไทยพัฒนาให้เพื่อเป็นการรับสมาชิกใหม่เข้าพรรค
อย่างไรก็ตาม สำหรับสุรสิทธิ์เคยเป็น ส.ส. มาหลายสมัย โดยเมื่อปี 2538 เป็น ส.ส. เขต 2 พรรคเอกภาพ, ปี 2548 สังกัดพรรคไทยรักไทย, ปี 2550 สังกัดพรรคพลังประชาชน, ปี 2554 สังกัดพรรคเพื่อไทย และล่าสุดเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเคยเปิดตัวในฐานะแกนนำของพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ในตำแหน่งประธานภาคเหนืออีกด้วย
วราวุธกล่าวว่า การเปิดตัวในวันนี้เป็นการย้ำอีกครั้งว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะค่อยๆ เติบโตในลักษณะการผสมผสานระหว่างคนรุ่นเก่าและวิสัยทัศน์ของคนรุ่นใหม่ และมั่นใจว่าทั้งสองคนจะปักธงในจังหวัดเชียงรายได้ ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยประกาศจะแลนด์สไลด์ ตนมองว่าเป็นความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย ยอมรับว่าพรรคชาติไทยพัฒนาเล็กกว่าพรรคเพื่อไทย แต่ก็เชื่อว่าการแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยคงจะเว้น 2 เขตที่เชียงราย ขณะภาพรวมการเลือกตั้ง ตนมองว่าการเมืองเหมือนฟุตบอลที่มีฤดูกาล และขณะนี้ทุกคนเห็นแล้วว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าในเดือนมีนาคม 2566 ดังนั้นการโยกย้ายสับเปลี่ยนจากนี้ก็จะเป็นเรื่องปกติ ซึ่งมีโอกาสที่สมาชิกพรรคที่เคยย้ายออกจะกลับเข้ามา โดยตั้งเป้าตัวเลข ส.ส. การเลือกตั้งครั้งหน้าไว้จากปัจจุบันที่มี 12 เสียง เป็น 25 เสียงบวก-ลบ โดยจะชูผลงานที่ได้ทำแล้วภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจสีเขียว และยังมั่นใจภาคกลางจะเป็นฐานสำคัญของพรรคชาติไทยพัฒนา เช่น สุพรรณบุรี ที่จะกวาดได้หมด และนครปฐม
ด้านสุรสิทธิ์กล่าวว่า ตนเองมีบุตรชายเพียงคนเดียว และวันนี้การตัดสินใจพาบุตรชายมาสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา เอาอนาคตมาฝากที่นี่ ก็เพราะมั่นใจและเชื่อมั่นในแนวทางของพรรคชาติไทยพัฒนา และผลงานของวราวุธ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตจะเป็นหนึ่งในนายกรัฐมนตรีซึ่งตนพร้อมให้การสนับสนุน และเชื่อมั่น 100% ว่าจะสามารถปักธงในจังหวัดเชียงรายได้ แม้ว่าจะมีว่าที่คู่แข่งคนสำคัญอย่าง วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ที่ถูกมองว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ก็เชื่อว่าไม่มีปัญหา เพราะผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่จังหวัดเชียงรายล่าสุดได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความเป็นคนรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่าไม่ได้มีปัญหา โดยเบื้องต้นตั้งใจจะลงสมัครพื้นที่อำเภอพาน เนื่องจากเป็นบ้านเกิดและเติบโตที่นั่น และเชื่อมั่นว่าจะสามารถปักธงให้กับพรรคชาติไทยพัฒนาได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการแยกตัวออกมาจากพรรคสร้างอนาคตไทย สุรสิทธิ์กล่าวว่า จากการทำงาน 2 เดือนที่ผ่านมาพบว่ามีประเด็นที่ยังจูนกันไม่ติด และการขับเคลื่อนเป็นไปได้ช้า จึงตัดสินใจออกจากการเป็นสมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทยผ่านการยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว โดยส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน และมองว่าการทำงานการเมืองในอนาคต หากพรรคชาติไทยพัฒนาที่มีโอกาสได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะสามารถทำงานให้กับประชาชนได้มากกว่า เพราะเห็นตัวอย่างจากพรรคเพื่อไทยที่เป็นฝ่ายค้านมานาน ซึ่งมีข้อจำกัดในการทำงานให้กับประชาชน อย่างไรก็ตามเรื่องแลนด์สไลด์นั้นมองได้ว่าอาจจะแลนด์สไลด์เข้าหรือแลนด์สไลด์ออกก็ได้
ส่วนวันชัยกล่าวว่า ตนเองเชื่อมั่นในคุณสมบัติความรู้ความสามารถ จึงอาสาลงรับเลือกตั้ง โดยจะชูนโยบายการช่วยประชาชนเรื่องแหล่งน้ำ ให้ประชาชนมีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ยึดอาชีพเกษตรกรเป็นหลัก ส่วนกรณีที่จะสู้กับ วิกรม เตชะธีราวัฒน์ ก็ไม่มีปัญหา ส่วนการจะได้รับการเลือกตั้งหรือไม่ให้รอดูการตัดสินใจของประชาชนชาวเชียงราย