×

เลือกตั้ง 2566 : ชาติพัฒนากล้าเสนอชื่อ ‘สุวัจน์-กรณ์-เทวัญ’ เป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

โดย THE STANDARD TEAM
05.04.2023
  • LOADING...
พรรคชาติพัฒนากล้า

วานนี้ (4 เมษายน) สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า, กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และ เทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคหลังยื่นสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ระบบบัญชีรายชื่อ ทั้งหมด 39 คน และหัวหน้าพรรคจับได้เบอร์ 14 ที่ประชุมพรรควันนี้มีเรื่องที่สําคัญอยู่ 2 เรื่อง 

 

เรื่องแรกคือ การพิจารณาเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคชาติพัฒนากล้า 3 คนตามรัฐธรรมนูญกำหนด คือ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค, กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค และ เทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค แคนดิเดตนายกฯ ต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งก็ได้พิจารณาแล้วว่า 3 คนนี้เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมและมีตําแหน่งที่สําคัญอยู่ในพรรค ดังนั้นเมื่อที่ประชุมมีมติดังกล่าว ในวันพรุ่งนี้พรรคจะนํารายชื่อไปยื่นกับทาง กกต. ต่อไป

 

สุวัจน์กล่าวต่อไปว่า เรื่องที่ 2 คือ การจัดลำดับแบบบัญชีรายชื่อ เนื่องจากพรรคชาติพัฒนากล้าไม่ได้เป็นพรรคใหญ่มาก ฉะนั้นลําดับที่นั่งตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญจะได้ไม่เยอะ โดยเฉพาะเป็นบัตรสองใบ ขณะเดียวกันเราจะต้องสร้างคนรุ่นใหม่ สร้างอนาคตของประเทศที่จะมาช่วยบริหารพรรค ซึ่งเราจะมีการทํางานหลายระดับคือ ใครเป็น ส.ส. ในรัฐสภา ใครจะบริหารบ้านเมือง ก็หมายความว่าแคนดิเดตนายกฯ ต่างๆ เราพยายามที่จะดูจากประสบการณ์ของพวกเรา 

 

การเลือกตั้งของชาติพัฒนากล้าครั้งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนหนุ่ม-คนสาวเยอะ มีผู้อาวุโสอยู่คนเดียวคือ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ซึ่งอยู่ในระบบปาร์ตี้ลิสต์ เป็นผู้อาวุโสที่อย่างน้อยก็คอยบอกเด็กๆ ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ฉะนั้นเราจะมีคนหนุ่ม-คนสาวที่อยากจะผลักดันคนตรงนี้มาเป็นปากเป็นเสียงไปทํางานในสภา ตนและกรณ์ก็จะมาอยู่ที่แคนดิเดตนายกฯ ดูในเรื่องของการบริหารถ้าเราเข้าไปมีส่วนในการบริหารประเทศ ส่วนเลขาพรรคก็ดูเป็นแม่บ้าน ลงเขตเลือกตั้ง ดังนั้นรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์จะเห็นคนรุ่นใหม่อย่าง อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี, อรัญ พันธุมจินดา, วรวุฒิ อุ่นใจ, เยาวภา บุรพลชัย, อัครวรรณ เจริญผล, อดุลย์ เลาหพล, เอราวัณ ทับพลี, ยุทธนา วิริยะกิตติ และ บุษรา เสนะวีณิน 

 

“วันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ถ้าพี่น้องประชาชนตัดสินมาอย่างไรผ่านผลการเลือกตั้ง เราก็จะอยู่บนพื้นฐานว่าเรามีความจําเป็นต้องมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ รัฐบาลที่มีเสียงข้างมากจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานส่วนหนึ่งที่ทําให้การทํางานในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เรียบร้อย” สุวัจน์กล่าวในที่สุด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising