วันนี้ (12 กรกฎาคม) ที่รัฐสภา ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล แถลงต่อจากกรณีที่พรรคได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ต่อกรณีที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าสมาชิกภาพ ส.ส. ของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ประกอบมาตรา 101 (6) หรือไม่ จากกรณีมีชื่อถือครองหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น
ชัยธวัชกล่าวตอนหนึ่งระหว่างการแถลงข่าวว่า ตนเองเชื่อว่า กกต. มีความผิดตามที่มีการยื่นคำร้องจริง เนื่องจากความรีบเร่งที่ผิดปกติ ซึ่งเห็นได้จากเมื่อเช้านี้ เมื่อมีมติตอนเช้าแล้วเสร็จ อิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ก็รีบเซ็นเอกสาร และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ กกต. ไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญทันทีในวันนี้ เพื่อให้ทันการประชุมประจำสัปดาห์ของศาลรัฐธรรมนูญในช่วงบ่าย
“รวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม ถ้าระบบราชการไทยทำงานเช่นนี้ทุกหน่วยงาน ประเทศชาติเจริญแน่นอน เช่นนี้แล้วมันอดไม่ได้ที่สังคมจะตั้งคำถามกับ กกต. ที่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตามกระบวนการสมบูรณ์ นำเรื่องเข้าที่ประชุมประจำสัปดาห์ทันทีในวันบ่ายวันนี้ เพื่อให้คุณพิธาถูกสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ให้ได้ในวันนี้ ก่อนที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ใช่หรือไม่” ชัยธวัชกล่าว
ชัยธวัชกล่าวต่อว่า ผมก็อยากจะเรียนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นหลายปีที่ผ่านมาการกระทำโดยใช้นิติสงคราม บทบาทขององค์กรอิสระต่างๆ รวมไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ ถูกตั้งข้อสงสัยมาโดยตลอด ว่าตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มการเมืองใดกลุ่มการเมืองหนึ่งหรือไม่ กรณีที่เกิดขึ้นในวันนี้ จะเป็นข้อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหาเหล่านั้นเป็นจริงหรือไม่ และเราในฐานะผู้แทนราษฎร ขอฝากเสียงเตือนจากพี่น้องประชาชนไปยัง กกต. และองค์กรอิสระทั้งหมด ว่าท่านที่หลงแก่อำนาจจนเกินขอบเขต วันใดวันหนึ่งเมื่อการเมืองกลับมาเป็นปกติ ประชาชนจะลงโทษพวกท่าน
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ผมและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในนามพรรคก้าวไกล รวมถึงเพื่อนสมาชิกอีก 7 พรรคการเมือง เรายืนยันว่าจะไม่กระทบกับการเสนอรายชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ในวันพรุ่งนี้แน่นอน” ชัยธวัชกล่าว
ชัยธวัชกล่าวอีกว่า แม้ว่าจะมีการรับส่งลูกกันอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ศาลสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ของพิธา แต่พิธายังมีสิทธิ 100% ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่งจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน ขอให้พี่น้องประชาชนที่อาจมีความกังวลใจ อย่าเพิ่งตื่นตระหนกตกใจ เรายังยืนกรานว่าความชอบธรรมที่สูงสุดคืออำนาจของประชาชน เราพรรคก้าวไกลมีหน้าที่รับผิดชอบ ต่อเสียงของพี่น้องประชาชน ที่มอบให้ผ่านการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดจนสุดความสามารถ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะมีผลต่อการตัดสินใจของ ส.ว. ชัยธวัชกล่าวว่า คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีคนหวังทางการเมืองจริงๆ บิดเบือนเจตนารมณ์ในการบังคับใช้กฎหมาย บิดเบือนระเบียบข้อบังคับเรื่องต่างๆ ย่อมต้องหวังผลทางการเมือง แต่เราก็เชื่อว่าจะมี ส.ว. ที่มากเพียงพอที่มีสติ มีความเป็นธรรม มีวิจารณญาณ ซึ่งจะเห็นว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้ยังไม่สามารถเป็นบทสรุปได้ว่า พิธามีความผิดตามกระบวนการยังไม่สิ้นสุด และไม่ใช่หน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสภา หรือของวุฒิสภาที่จะวินิจฉัยเรื่องนี้ เป็นคนละส่วนกันกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้งแล้ว ตนยังเชื่อมั่นว่ายังมีวุฒิสมาชิกที่อยู่ข้างความถูกต้อง ที่ต้องใช้เอกสิทธิ์ของตนเอง เป็นไปตามเสียงของพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ที่แสดงออกมาผ่านการเลือกตั้ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาต่อนั้น ยังคงต้องดูรายละเอียดของเอกสารหลายๆ อย่างด้วย ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเรายังเห็นว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อระเบียบของ กกต. เอง และเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากมติที่ กกต. ส่งไปในวันนี้ ไม่ทันพิจารณาในที่ประชุมของศาลรัฐธรรมนูญ ชัยธวัชกล่าวยืนยันว่า การตรวจสอบของ กกต. และของศาลรัฐธรรมนูญเป็นคนละส่วน ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แต่แน่นอนว่ามีบางส่วนบางฝ่ายพยายามที่จะใช้เรื่องนี้ หรือเรื่องอื่นเต็มไปหมดตลอดเวลา ในการอ้างเหตุผลว่าจะไม่เลือกพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี และใช้เป็นข้ออ้างเพื่อจะบอกว่าตนเองไม่จำเป็นต้องฟังเสียงของประชาชน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จากกรณีนี้ ส.ว. จะหยิบยกให้มีการเลื่อนวันโหวตนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหรือไม่ ชัยธวัชกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นเหตุที่จะให้เกิดการเลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรี ตนเชื่อมั่นในประธานรัฐสภาที่จะมีหลักที่ชัดเจน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะมีความเที่ยงธรรมหรือไม่ ชัยธวัชกล่าวว่า อย่างที่อธิบายไปแล้วว่า กกต. พยายามจะอ้างบรรทัดฐานจากคำวินิจฉัยคดีเงินกู้ยุบพรรคอนาคตใหม่ แต่ตนต้องการพยายามจะชี้ว่ามันไม่สามารถเทียบเคียงกันได้ เพราะโดยข้อเท็จจริงในทางข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริงในทางปฏิบัติในกระบวนการ ไม่เหมือนกันเลยครับ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส. และ ส.ว. จะให้โอกาสพิธาอีกครั้งหรือไม่ หากถูกสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ และพรรคก้าวไกลจะเดินหน้าต่ออย่างไร ชัยธวัชกล่าวว่า ไม่มีแผนสำรองอะไร ยังเดินตามเดิม ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งอย่างไร พิธายังมีสิทธิถูกต้องตรงตามกฎหมายในการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และจะสามารถเสนอชื่อ พิธาในรัฐสภาได้เหมือนเดิม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คนที่หวังมากที่สุดก็คือพี่น้องประชาชนที่อยู่ข้างนอก ทุกเสียงมีความหมาย เรายังหวังว่าสิ่งที่ผิดปกติจะไม่เกิดขึ้นอีก กระบวนการนิติสงครามที่ค้านสายตาประชาชนมากว่าสิบปี
“ผมเชื่อว่ามีบางฝ่ายต้องการให้พิธาไม่ได้เป็นนายกฯ โดยไม่เห็นแก่บ้านเมือง ไม่เห็นหัวประชาชน พวกเรา ส.ส. ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จะทำให้ดีที่สุดในการปกป้องเสียงของประชาชน วันพรุ่งนี้จะเป็นโอกาสและทางแยกของสังคมไทย ว่าเราจะวนกลับไปสู่การเมืองที่ไม่เห็นหัวประชาชนเหมือนเดิม หรือเราจะคืนความปกติให้กับระบอบประชาธิปไตยของไทย และพาประเทศไทยไปข้างหน้า ผู้มีอำนาจมีสิทธิที่จะเลือก และผมเชื่อว่าคราวนี้ประชาชนจะไม่ยอม” ชัยธวัชกล่าว