วันนี้ (10 กรกฎาคม) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ประชุมผู้ว่าฯ สัญจร ครั้งที่ 4 เขตบางบอน โดยช่วงเช้าเริ่มกิจกรรมปลูกต้นไม้กับสื่อมวลชนและประชาชนในเขตบางบอน ที่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ เขตบางบอน (สวน 9 เนิน เดินตามรอยพ่อ)
จากนั้นจึงเดินทางมาประชุมร่วมกับสำนักงานเขตบางบอน เพื่อรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่และวางแนวทางการแก้ไข โดยเฉพาะปัญหาการจราจร และปัญหาน้ำท่วม โดยในที่ประชุม ชัชชาติกล่าวช่วงหนึ่งว่า บริเวณสวน 9 เนิน มีความน่าสนใจเพราะมีสิ่งปลูกสร้างที่ใหญ่หลายแห่ง ซึ่งน่าจะทำมาใช้ประโยชน์ได้ พร้อมสั่งการให้รองผู้ว่าฯ ไปสั่งให้ทุกเขตสำรวจสิ่งปลูกสร้างในแต่ละเขตว่าจะสามารถนำสิ่งปลูกสร้างมาใช้ประโยชน์สูงสุดอย่างไรได้บ้าง
ชัชชาติยังกล่าวในที่ประชุมด้วยว่า ต่อไปการจัดงานอย่าไปใช้ออร์แกไนเซอร์เยอะ เพราะเสียงบประมาณโดยใช่เหตุ เพราะสุดท้ายก็ไม่ได้เป็นผลอะไรกับประชาชนมาก และต่อไปให้ใช้ทีมประชาสัมพันธ์ของ กทม. ในการดำเนินการจัดงานภายในของเขต โดยให้เชิญสื่อมวลชนเข้ามาร่วม และไม่ต้องไปเสียเงินจัดงานปีๆ หนึ่งหลายสิบล้านบาท โดยให้เอางบประมาณนี้มาทำอะไรให้เกิดประโยชน์กับประชาชนดีกว่า
ทั้งนี้ให้ถือว่าให้เป็นนโยบายเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ เพราะถือว่างบประมาณหากใช้ก็ไม่ได้เกิดผลกับประชาชน และเสียไปภายใน 1-2 วัน โดยหลังจากนี้อยากให้เชิญสื่อมวลชน เพราะสื่อมวลชนเองพร้อมให้ความร่วมมือ และจะเน้นสร้างหน่วยงานภายในให้เข้มแข็งในการใช้พีอาร์ของแต่ละเขต เพื่อสื่อสารให้ประชาชน และ กทม. ก็มีช่องทางในการสื่อสารหลากหลายช่องทาง
ภายหลังจากประชุมร่วมกับสำนักงานเขตบางบอนเสร็จสิ้น ชัชชาติได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับพนักงานดีเด่นของสำนักงานเขตบางบอน 4 คน คือ นิภาภรณ์ เล็กสมทรง พนักงานฝ่ายรักษาฯ (กวาดขยะ), สานนท์ ฤกษ์ใหม่ พนักงานเก็บขนมูลฝอย, สัญชัย จรุงกลิ่น พนักงานประจำรถสูบสิ่งปฏิกูล และ ประยงค์ ศักดิ์บริบูรณ์ พนักงานระบายน้ำ
สำหรับอาหารวันนี้เป็นข้าวขาหมูจากร้านบางหว้าขาหมู ร้านดังของบางบอน กับข้าวหมกไก่ มีขนมหวานคือกล้วยบวชชีมะพร้าวอ่อน และผลไม้จากสวนในพื้นที่เขตบางบอน
การรับประทานอาหารร่วมกับลูกจ้างเป็นหนึ่งในนโยบายของผู้ว่าฯ ชัชชาติ ซึ่งเริ่มครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมาที่สำนักงานเขตจตุจักร เพื่อพบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งผู้ว่าฯ กทม. รับฟังปัญหาและสอบถามสารทุกข์สุขดิบ โดยให้ความสำคัญกับคนงานของเขต เปรียบเสมือนโซ่ข้อสุดท้ายที่เชื่อมต่อ กทม. กับประชาชน อยู่ใกล้ชิดพื้นที่และปัญหามากที่สุด
