วันนี้ (1 ตุลาคม) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า วันนี้ คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เข้าหารือกับ กทม. ในเรื่องของภาระหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว
กทม. มีภาระหนี้ที่ต้องจ่ายอยู่ทั้งหมด 4 ส่วน ได้แก่
ส่วนที่ 1 ยอดหนี้ค่าเดินรถและซ่อมบำรุง หรือ O&M ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ที่ให้ กทม. และกรุงเทพธนาคม (เคที) ร่วมกันชำระให้กับบีทีเอสเป็นเงินจำนวนกว่า 11,755 ล้านบาท ภายใน 180 วัน (หรือในวันที่ 21 มกราคม 2568 พร้อมดอกเบี้ยประมาณ 14,549 บาท) ซึ่งได้นำเรื่องเข้าสู่สภา กทม. เพื่อขออนุมัติใช้เงินสะสมจ่ายขาดมาดำเนินการแล้ว พร้อมกับตั้งคณะกรรมการวิสามัญมาพิจารณาเรื่องดังกล่าว ยืนยันว่าจะสามารถชำระหนี้ได้ตามกรอบระยะเวลา 180 วัน หรือเร็วกว่านั้น ดังนั้นหนี้ในส่วนแรกไม่น่าจะมีปัญหา
ส่วนที่ 2 ยอดหนี้ O&M (ระหว่างเดือนมิถุนายน 2564 – ตุลาคม 2565) ที่อยู่ในขั้นต้องฟ้องร้องของศาลชั้นต้น ประมาณ 11,811 ล้านบาท
ส่วนที่ 3 ยอดหนี้ O&M (ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2565 – มิถุนายน 2567) ประมาณ 13,513 ล้านบาท
ซึ่งหนี้ส่วนที่ 2 และ 3 ทาง กทม. เคที และบีทีเอส ได้มีข้อตกลงว่าจะตั้งคณะกรรมการมาทำงานร่วมกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ทั้งเรื่องการดำเนินการ และวิธีการจ่ายหนี้ รวมถึงเรื่องที่ค้างอยู่ในศาลปกครองและยังไม่มีคำพิพากษาออกมา
ส่วนที่ 4 เป็นยอดหนี้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คือยอดหนี้ O&M ในเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอส ส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่ต้องจ่ายในวันที่ 20 ของทุกเดือน ประมาณ 800 ล้านบาท และมีการเก็บค่าโดยสารมาแล้วส่วนหนึ่ง แต่ปัจจุบันเรายังไม่ได้จ่ายต่อไปให้ทางบีทีเอส ดังนั้นหากเคทีจ่ายมาก่อนได้ก็จะช่วยบรรเทาภาระของทางบีทีเอส ซึ่งในเรื่องนี้ทางฝ่ายบริหารจะรีบไปดำเนินการและพิจารณา โดยเฉพาะเรื่องในอนาคตที่มีสัญญาต่อถึงปี 2585 ทั้งนี้เพื่อความถูกต้องให้การจ่ายหนี้มีความรอบคอบและรวดเร็วมากขึ้น ต้องนำเรื่องหนี้ก้อนนี้ให้คณะกรรมการของสภา กทม. พิจารณาด้วย
“ยอมรับว่าส่วนตัวเห็นใจทางบีทีเอส เพราะตนใช้บริการทุกวัน และเห็นพนักงานมีภาระค่าใช้จ่าย แต่ทาง กทม. ก็ต้องบริหารจัดการให้เป็นไปตามระเบียบ ดังนั้นต้องพยายามหาทางออกร่วมกัน และต้องขอบคุณบีทีเอสที่ยังเดินรถต่อเนื่อง” ชัชชาติกล่าว
ด้านคีรีกล่าวว่า จากการหารือวันนี้ ผู้ว่าฯ กทม. มีความเข้าใจถึงความเดือดร้อนของทางบริษัทที่เสียสละเดินรถทุกวันแม้ยังไม่ได้รับค่าจ้างเดินรถ และต้องขอบคุณผู้ว่าฯ กทม. และคณะทำงาน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทางบริษัทจะได้รับการชำระเงินก้อนนี้ได้เร็วที่สุด เพื่อเราจะได้นำมาพัฒนาการให้บริการต่อไป
