×

“อย่ากลั่นแกล้ง” ชาดาเตือน แจ้งข้อมูลผู้มีอิทธิพลต้องชัดเจน ขอเวลาไม่เกิน 3 เดือนกลั่นกรอง ก่อนเริ่มตัดรากถอนโคน

โดย THE STANDARD TEAM
07.10.2023
  • LOADING...
ชาดา ไทยเศรษฐ์

วันนี้ (7 ตุลาคม) ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าในการปราบปรามผู้มีอิทธิพลว่า ได้รายชื่อ 600-700 รายชื่อ โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานความมั่นคง และได้ข้อสรุปว่า ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีการเปิดเผยรายชื่อมานั้น เราได้นำข้อมูลมาทำใหม่ โดยไม่ได้เอาเพียงแค่ตัวบุคคล แต่รวมถึงยังพิจารณาจากพฤติกรรมด้วย 

 

ชาดากล่าวต่อว่า แม้ในอดีตจะเคยมีการเปิดเผยรายชื่อไปแล้วและผ่านการดำเนินการมาแล้วมากกว่า 2-3 ครั้ง แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ตนจึงให้นำข้อมูลที่เห็นว่าเป็นบุคคลที่มีความผิด ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อใหม่จากที่ประชาชนร้องเรียนมาทางหมายเลขโทรศัพท์ที่ตนเคยให้ไปก่อนหน้านี้ พร้อมย้ำว่า ขอให้เป็นการแจ้งข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้องโดยไม่มีการกลั่นแกล้ง จากนั้นจะนำข้อมูลมากลั่นกรองอีกครั้ง

 

ชาดายังอธิบายถึงการจำแนกกลุ่มผู้มีอิทธิพลสีเหลืองและสีแดงด้วยว่า สีแดงคือบุคคลที่กระทำความผิดอยู่ ณ ปัจจุบัน ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างการดำเนินการ อาจเป็นกลุ่มที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังจับกุมไม่ได้หรือแม้แต่หลักฐานที่มีไม่เพียงพอ แต่การดำเนินการครั้งนี้เราจะดำเนินการทั้งระบบ โดยมีหน่วยงานความมั่นคงเข้าไปตรวจสอบภาษี หรือกรณีที่มีการฮั้วประมูลจะมีการดำเนินการอย่างเต็มระบบและเข้มข้น 

 

“เราจะเข้าไปตรวจสอบ ดำเนินการ หรือเรียกว่าตัดตอน ถอนรากถอนโคน ใครที่คิดไม่ดี ไม่ถูกต้อง รังแกประชาชนอยู่ ขอให้เลิก ไม่เช่นนั้นต้องพบกับการตรวจสอบทั้งระบบอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน” ชาดากล่าว

 

ส่วนกรอบระยะเวลาในการดำเนินการนั้นชาดากล่าวว่า ระยะเวลาในการรวบรวมข้อมูลใช้เวลานานพอสมควร ขณะนี้รอข้อมูลจากส่วนต่างๆ หรือรอหน่วยงานต่างๆ ส่งข้อมูลเข้ามา คาดว่าใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน และจะมีการปฏิบัติการอย่างเข้มข้นต่อไปเรื่อยๆ

 

ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินส่วนตัวกรณีที่มีอาวุธปืนในครอบครอง 23 กระบอกนั้น ชาดากล่าวว่า กรมการปกครอง โดยกระทรวงมหาดไทย ออกมาตรการ หากใครครอบครองอาวุธปืนมากอาจเสียภาษีที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนคนที่ครอบครองปืนแต่ไม่ได้ใช้ไปทำร้ายใคร เป็นเพียงการสะสม แต่สุดท้ายจะต้องได้รับการตรวจสอบทั้งหมด 

 

ชาดากล่าวต่อว่า หากมีการเรียกร้องให้คืน ตนก็พร้อมคืน ส่วนการครอบครองพระเครื่อง ในฐานะที่ตนเป็นอิสลามนั้น ตนอยู่ในจังหวัดอุทัยธานี มีมุสลิมจำนวนไม่มาก ตนมีความผูกพันกับทั้งวัดและพระ รวมถึงเซียนพระในตลาด และตนมีความชอบในพระเครื่อง โดยชอบมาตั้งแต่สมัยที่ตนเป็นนายกเทศมนตรีแล้ว พระเครื่องที่ตนมีอยู่ในครอบครองไม่ได้มีไว้เพื่อเช่า และทาง ป.ป.ช. ได้มีการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอาจจะขัดกับศาสนาอิสลาม แต่ตนมองว่าเป็นคนละเรื่องกัน 

 

“เราไม่ได้กราบไหว้บูชา มองว่าเป็นของมงคล การกราบไหว้ทางศาสนาเป็นคนละประเด็นกัน ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี” ชาดากล่าวทิ้งท้าย

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X