เราแอบคิดไปเองอยู่สักพักว่าดูเหมือน ‘อาหารอิตาเลียน’ จะเป็นตำรับที่กลับเข้ามาอยู่ในกระแสในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการกลับมาเยือนซอยสาทร 10-12 ก็ยิ่งคอนเฟิร์มความคิดนั้น เพราะรู้ตัวอีกที คุณสามารถหาอาหารอิตาเลียนหลากหลายสไตล์ได้ในที่นี่ที่เดียว
Cetara Bangkok คือสมาชิกล่าสุดของร้านอาหารอิตาเลียนในย่านนี้ ร้านหยิบเอาแรงบันดาลใจมาจากหมู่บ้านชาวประมงในเมือง Cerata (เซตารา) ในภูมิภาคคัมปาเนียบนชายฝั่งอมัลฟี ประเทศอิตาลี ทำให้อาคารแห่งนี้ที่เดิมทีเคยเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร Bunker (บังเกอร์) ถูกเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งหมด กลายเป็นร้านอาหารริมชายฝั่งที่เล่นกับสีอิฐของผนัง ไปถึงดีเทลโค้งที่ใช้เป็นการแบ่งส่วนต่างๆ ของร้าน ส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคืองานกระเบื้องดีไซน์ทราดิชันแนลของอิตาลี ยิ่งเมื่อตัดกับอินทีเรียสีขาวยิ่งช่วยสร้างบรรยากาศริมชายฝั่งให้ชัดเจน เหมาะสำหรับเต็มเต็มช่วงเวลาพักจากงานหรือเปลี่ยนบรรยากาศในช่วงสุดสัปดาห์ได้ง่ายๆ
เรื่องราวของชายฝั่งอมัลฟีถูกถ่ายทอดต่อเนื่องลงบนอาหาร ซึ่งผู้อยู่เบื้องหลังก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเชฟ Paolo Vitaletti (เปาโล วิตาเลตติ) ที่ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งเปิด Giglio Trattoria Fiorentina ร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์ทัสคานีในซอยเดียวกันมาก่อนหน้านี้ในช่วงต้นปี 2020 มาถึงที่นี่แน่นอนว่าวัตถุดิบหลักคือซีฟู้ดสารพัด ที่มีให้เลือกตั้งแต่แบบกินเล่นเรียกน้ำย่อย พาสต้า จานหลัก ที่สำคัญ โฮมเมดพิซซ่าก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่พลาดไม่ได้
ขอหมายเหตุไว้ก่อนเลยว่า ในวันที่เราเข้าไปรีวิวนั้น เมนูหอยต่างๆ หมดพอดี แต่จริงๆ แล้วเมนูหอยแมลงภู่อบไวน์ขาวหรือพาสต้าหอยตลับก็เป็นอีกเมนูที่เราว่าน่าสนใจมาก
เราเริ่มมื้อด้วยจานเรียกน้ำย่อยอย่าง Sea Salad (Calamari and Octopus Salad with Calabrian Oregano 390 บาท) หรือสลัดปลาหมึก จานนี้ใช้หมึก 2 ชนิด ทั้งหมึกสายและหมึกกล้วย มะเขือเทศ เซเลอรี และเติมความหอมด้วยออริกาโนจากคาลาเบรีย จานนี้เปิดมื้อได้ดี เพราะน้ำสลัดที่เบสน้ำมันมะกอกและเลมอนผสมเข้ากันสดชื่นมาก
จานกินเล่นอีกอย่างที่ประทับใจมากคือ ซูกินีทอด (Zucchine Alla Scapece 180 บาท) ที่ตอนแรกแค่กะว่าสั่งมากินเล่น แต่ซูกินีเมื่อทอดให้รสที่หวานแบบที่ไม่ได้นึกถึงมาก่อน ก็คือกลายเป็นกินเพลิน หมดไม่รู้ตัว
เราเลือกพาสต้า 2 ชนิด ได้แก่ Spaghetti Alla Colatura Di Alici (260 บาท) จานนี้เรียบง่ายด้วยเส้นสปาเกตตีผัดกับ ‘Colatura Di Alici’ หรือน้ำปลาที่หมักจากแอนโชวี เป็นน้ำปลาที่ผลิดจากเมืองเซตาราโดยเฉพาะ จานถัดมาเป็น Calamarata con Ragu Di Polipetti (360 บาท) หรือพาสต้าเส้นกลม Calamarata ผัดกับ Baby Octopus ในซอสขาว ใส่ใบบร็อกโคลี และริคอตต้าชีส
ตามด้วยพิซซ่าที่หากอยากลองหลายๆ แบบก็สามารถสั่ง Half/Half ได้ เราเลือก ‘Cetara’ ตามชื่อร้าน ถาดนี้เรียบง่ายด้วยการใช้มะเขือเทศ San Marzano เป็นเบส และไฮไลต์ความเป็นเซตาราด้วยแอนโชวี ท็อปด้วยเคเปอร์ ส่วนอีกหน้าเราเลือก Casertana ที่จับคู่แพนเชตต้าหมูกับชีส Provolone Del Monaco
ปิดท้ายด้วยของหวานที่เราว่ามันคืออมัลฟี in One Bite อย่างพุดดิ้งเลมอนจากอมัลฟี ชิ้นนี้หวานน้อย เน้นความหอมเปรี้ยวสดชื่นจากเลมอน เสิร์ฟมาข้างๆ กับสลัดผลไม้ เป็นการปิดมื้อได้สมบูรณ์
Cetara Bangkok
Open: เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11:30-22:00 น.
Address: สาทรซอย 12
Budget: 500-1,000 บาท
Contact: 06 1268 8634
WEB: https://www.facebook.com/cetarabangkok/ และ https://instagram.com/cetara.bangkok?utm_medium=copy_link
MAP: