วันนี้ (10 กุมภาพันธ์) ช่างภาพ THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ บริเวณศาลพระสทาศิวะ (พระศิวะ 5 เศียร) สถานที่ที่หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นศาลพระตรีมูรติ หนึ่งในแลนด์มาร์กยอดนิยมของ ‘คนโสด’ ที่ส่วนใหญ่จะเดินทางมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอพรเรื่อง ‘ความรัก’ และจะคึกคักสุดๆ ในช่วงใกล้วันแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์แบบนี้
สำหรับภาพรวมหน้าศาลพระสทาศิวะตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมาพบว่า ผู้คนส่วนใหญ่ที่เดินทางเข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะสวมเสื้อผ้าในธีมสีแดงมาพร้อมของเซ่นไหว้สีแดง อาทิ ดอกกุหลาบสีแดง เพื่อขอพรและส่งเสริมสิริมงคล
และอีกสิ่งที่ทำให้บรรยากาศครึกครื้นต่างจากทุกปีคือ กิจกรรมที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์จัดมาเอาใจหนุ่ม-สาวโสด ด้วยการจัดโซนเช็กอินวันวาเลนไทน์ ที่จับมือกับ Dating Application ฮอตฮิตระดับโลกในแคมเปญ ‘Tinder X centralwOrld’ พร้อมการไหว้ขอพรพระตรีมูรติด้วย ‘Meta-Luck’ หรือการสักการะขอพรรูปแบบใหม่ด้วยเทคโนโลยี VR 360 องศา ผ่านร่างอวตารในโลกเสมือนจริงเหมือนยืนสักการะอยู่หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งกิจกรรมนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 10-24 กุมภาพันธ์นี้
ทั้งนี้ ศาลพระสทาศิวะที่ตั้งอยู่หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ไม่ใช่ ‘ศาลพระตรีมูรติ’ อย่างที่หลายคนเข้าใจแต่อย่างใด โดยศาลพระสทาศิวะเป็นที่สักการะของคนไทยที่มีความเชื่อว่า สามารถขอพรได้ทุกสิ่ง จะมีความสุขสมหวัง สมปรารถนา ส่วนศาลพระตรีมูรติที่หลายคนต้องการสักการะเพื่อขอพรเรื่องความรักโดยตรง สามารถเดินทางไปยังหน้าตึกเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งขอศาลพระตรีมูรติได้
ขณะที่ คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง อาจารย์ประจำภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ ระบุว่า พระสทาศิวะไม่เกี่ยวกับความเชื่อเรื่องความรัก คนฮินดูเขาเอาความรักไปผูกไว้กับ ‘กามเทพ’ แต่ก็เป็นในเชิงอุปมาอุปไมยในทางกวีเสียมาก แถมพระศิวะเป็น ‘ศัตรู’ กับกามเทพ เพราะกามเทพเคยพยายามทำให้พระองค์ตกหลุมรักพระแม่ปารวตี กามเทพจึงโดนไฟกรดจากเนตรที่สามของพระศิวะเผาจนเป็นจุณมหาจุณ พระศิวะจึงมีอีกพระนามว่า ‘ผู้เผากามเทพ’
ตำนานตอนนี้สะท้อนว่า ที่จริงแล้วพระศิวะในฐานะฤาษีกำลังเผา (ตปัสหรือตบะ) กามราคะให้มอดไหม้ไป เพราะพระองค์ต้องการบำเพ็ญพรตนั่นเอง แต่กระนั้นพระองค์ก็ยังมีคู่ครองเป็นกึ่งคฤหัสถ์กึ่งนักบวช (ตามเทวตำนาน)
อ้างอิง: