เมื่อไม่นานมานี้หลายๆ คนน่าจะได้ยินข่าวคราวที่ห้างเซ็นทรัล ผู้นำห้างสรรพสินค้าอันดับ 1 ของไทย ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท ปรับโฉมครั้งใหญ่รีแบรนด์ห้าง ZEN@CentralwOrld เปลี่ยนเป็น CENTRAL@CentralwOrld กันไปบ้างแล้ว นี่เป็นข่าวใหญ่ชวนติดตามสำหรับสาธารณะชน เพราะเซ็นทรัลเวิลด์นั้นอยู่ในเขตราชประสงค์ เป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ และบรรดานักช้อปหลายๆ คนต่างก็คุ้นเคยกับห้างสรรพสินค้า ZEN@CentralwOrld กันเป็นอย่างดี ทว่าในวันนี้เมื่อมีการปรับโฉมยกเครื่องใหม่ จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างที่น่าพูดถึง THE STANDARD ได้ข่าวและลองไปเซอร์เวย์ดูก็พบว่า การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ ได้สร้างมาตรฐานใหม่ของห้างสรรพสินค้าที่เป็นประโยชน์สำหรับขาช้อปทั้งนั้น 

 

CENTRAL@CentralwOrld 

ยกระดับสู่ที่สุดแห่งห้างไลฟ์สไตล์ของไทย

หากพูดถึงห้างเซ็นทรัล ย่อมเป็น 1 ในใจของนักช้อปหลายๆ ท่านแน่นอน เพราะด้วยแบรนด์เซ็นทรัล เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ด้านห้างสรรพสินค้าอันดับ 1 ของไทย ที่บรรดานักช้อปทั้งไทยและต่างชาติต่างไว้วางใจ เพราะไม่เคยที่จะหยุดนิ่งและพัฒนาล้ำหน้าอยู่เสมอ การันตีได้จากรางวัลล่าสุด อย่าง ‘Influential Brands 2019’ จากงาน ‘ASIA CEO Summit & Award Ceremony 2019’ และอื่นๆ อีกมากมาย อีกทั้งตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ บนทำเลทองใจกลางย่านราชประสงค์ ซึ่งถือเป็น Strategic Location ย่านเศรษฐกิจสำคัญของไทย สามารถเดินทางได้สะดวก เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญที่นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติจะต้องมา 

 

ณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ 

บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล

 

“การปรับโฉม (Reinvention) ในครั้งนี้ ได้มีการนำ Lifestyle Elements ผสมผสานสินค้าต่างๆ กว่า 3,000 แบรนด์ดัง ทั้งยังมีการยกระดับช่องทางต่างๆ เพื่อมุ่งเป็น ‘ออมนิแชนแนล’ (Omni-Channel Service) ที่ผสานช่องทาง Offline และ Online เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างไร้รอยต่อ พร้อมชูสาขา CENTRAL@CentralwOrld เป็นต้นแบบให้กับห้างเซ็นทรัลสาขาอื่นๆ ต่อไปในอนาคตอีกด้วย” ณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล กล่าว 

 

แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงยกระดับปรับโฉมที่ว่ามาจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง เราลองมาดูกันเลยดีกว่า Omni-Channel Service ผสานช่องทางให้ลูกค้าช้อปได้อย่างไร้สะดุด  

เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตคนยุคใหม่ จึงผสานหลากหลายช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า เชื่อมโยงช่องทางต่างๆ รวมให้เป็นหนึ่งเดียวทั้งออนไลน์ และการขายหน้าร้าน เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าโดยไร้รอยต่อ อันนับเป็นเรื่องสำคัญสำหรับห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ทั้งนี้ 3 บริการออมนิชาเนลได้แก่

1. Click and Collect บริการสั่งของออนไลน์ สามารถรับได้ที่หน้าร้าน

2. บริการพิเศษ Chat & Shop ที่เพียงแอดไลน์และพูดคุยกับผู้ช่วยส่วนตัวที่คอยให้บริการในการเลือกซื้อสินค้า พร้อมส่งถึงมือภายในเวลา 99 นาที สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ หรือจะมารับเองที่สาขาที่สะดวกก็ได้

3. บริการ e-Ordering บริการสำหรับลูกค้าที่มาเดินห้าง เช่น ลูกค้าเข้าไปที่ห้างเซ็นทรัล ต้องการซื้อสินค้าชิ้นหนึ่ง แต่พบว่าสาขานี้ไม่มีสินค้า ระบบ e-Ordering จะสามารถตรวจสอบได้ทันทีว่าสินค้าชิ้นนั้นมีที่สาขาไหนบ้าง พร้อมสั่งซื้อ-จัดส่งได้ตามความต้องการของลูกค้าทันที 

 

นอกจากนี้ทุกช่องทางโซเชียลมีเดียของ ZEN จะผสานสู่โซเชียลมีเดียของ CENTRAL รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อให้ลูกค้ารับข่าวสารต่างๆ ของเซ็นทรัลได้อย่างครบถ้วน ทำให้โซเชียลมีเดียของ CENTRAL กลายเป็นฐานข้อมูลที่แข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้น นับเป็นต้นแบบห้างออมนิแชนแนล อย่างแท้จริง

 

ทุ่มงบมหาศาลกว่า 1,000 ล้านบาท 

สำหรับงบประมาณในการปรับโฉมและรีแบรนดิ้งครั้งนี้ ทางเซ็นทรัลได้ทุ่มงบถึงกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าหลังปรับโฉมครั้งนี้ จะสามารถสร้างยอดขายโตขึ้นได้อีก 20% ในอนาคต โดยงบประมาณส่วนหนึ่งนั้นจะถูกนำมาใช้สำหรับการตกแต่ง CENTRAL@CentralwOrld ซึ่งไฮไลต์จะอยู่ที่การรวมผลงานสถาปัตยกรรมของนักออกแบบชั้นนำระดับโลก ทั้งจากประเทศอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี มารวมไว้ด้วยกัน ทั้งผู้ที่เคยออกแบบห้าง Rinascente (รีนาเซนเต) รวมถึงดีไซเนอร์ไทย ที่ร่วมมือกันภายใต้คอนเซปต์ ‘Contemporary’ จึงทำให้ห้างดูทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และรสนิยมของคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยมีคอนเซปต์ และใช้โทนสีที่แตกต่างกัน ตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของแต่ละชั้น มีการนำเข้าหุ่น Mannequins หรือหุ่นโชว์ดิสเพลย์ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท มาจากประเทศฝรั่งเศส เพื่อสร้างสีสันในแต่ละชั้น และเพิ่มมุมมองใหม่ของแฟชั่น 

 

Grand Opening พิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ในวันพุธที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา เสมือนการเปิดของขวัญกล่องใหม่ที่ยิ่งใหญ่สมการรอคอย

 

 

3,000 แบรนด์ 7 ชั้น…สวรรค์ของนักช้อป

ที่เด่นและน่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับบรรดาขาช้อป คือ CENTRAL@CentralwOrld ยังระดมสินค้าแบรนด์ชั้นนำมาให้เลือกช้อปถึงกว่า 3,000 แบรนด์ กระจายอยู่ทั้ง 7 ชั้น ดังนี้

• ชั้น 1 Beauty Galerie & Luxe Galerie: อาณาจักรความงาม Beauty Galerie สร้างประสบการณ์ที่แตกต่างในรูปแบบ Vertical Space ด้วยแนวคิดให้อิสระแต่ละแบรนด์ออกแบบดีไซน์เคาน์เตอร์ได้อย่างเต็มที่ อาทิ Dior Backstage Studio ดีไซน์ทันสมัยและมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย ครบครันทั้ง เมกอัพ สกินแคร์ และน้ำหอม, ตอกย้ำแบรนด์ระดับตำนาน โดยการดีไซน์เคาน์เตอร์ในคอนเซปต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องทะเล อย่าง La Mer, Giorgio Armani Beauty แบรนด์เครื่องสำอางระดับโลกที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความสง่างามแบบอิตาเลียน เปิดตัวที่เเรกในประเทศไทย, บริการปรนนิบัติผิว Clarins Skin Studio แห่งแรก และแห่งเดียวในประเทศไทย ด้าน Luxe Galerie พบสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมชั้นนำ และสินค้าพิเศษชิ้นเอ็กซ์คลูซีฟที่แตกไลน์มาจากซูเปอร์แบรนด์ทั่วโลก เช่น McQ, Kenzo, Vivienne Westwood, Theory, Chiara Ferragni, Alice and Olivia, Diane Von Furstenberg, Love Moschino, Blackbarrett

• และมีร้านสุดฮอตอย่าง Roast ร้านอาหาร All day dining สไตล์อเมริกันที่เปิดมานานแล้วกว่า 8 ปี โดยสาขานี้เป็นสาขาที่ 3 Roast เป็นร้านในใจสำหรับใครหลายๆ คนที่มองหาเมนูทานง่าย แต่อร่อยและใส่ใจในรายละเอียดในทุกขั้นตอนการทำ ตั้งแต่การทำพาสต้าเส้นสด ขนมปังอบใหม่จากเตาทุกวัน ไปจนถึงกาแฟไทยรสชาติกลมกล่อมที่ทางร้านคั่วเอง 
• และยังมีร้านกาแฟ høst x AMBER ที่บาริสต้าอย่าง Dawn Chan ได้คว้าแชมป์บาริสต้าที่ฮ่องกงถึง 2 สมัย (รางวัล Hong Kong Top Barista 2011-2018) แถมยังคว้าที่ 4 จากการแข่งขันระดับโลก ทำให้กาแฟของที่ร้านมีรสชาติเวิลด์คลาสพรีเมียม 

 

• • ชั้น 2 Women’s Elegance: เพิ่มช่องทางเชื่อมต่อ Skywalk เข้าห้างได้อย่างสะดวกสบาย พบกับสวรรค์ของคนรักรองเท้ากับหลากหลายแบรนด์ดัง กว่า 60,000 คู่ โซน Women’s Wear อัปลุคการแต่งตัวด้วยแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ อาทิ Nike Women ที่เปิดตัวคอนเซปต์สำหรับผู้หญิงเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โซน Activewear รวมแอ็กทีฟแวร์สายแฟชั่นชื่อดังมากมาย เช่น L’URV, Wakingbee, TA Active, Girlsnation ฯลฯ โซน THAITHAI แฟชั่นแบรนด์จากผลงานดีไซเนอร์ไทยระดับแนวหน้า และ KIS  Beauty Store มัลติแบรนด์ บิวตี้ สโตร์ แห่งใหม่ของเมืองไทย จุดหมายแห่งความงาม 
  • Komehyo (โคเมเฮียว) ศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมมือสองของญี่ปุ่น เปิดให้บริการสาขาแรกในไทยอย่างเป็นทางการที่นี่  
  • Restaurants & Cafes มีร้านกาแฟ Starbucks, Mango Tango ร้านน้ำมะม่วงปั่นยอดฮิต ไว้คอยให้บริการ มีมุม Chill & Charge ที่ให้ทุกท่านมานั่งผ่อนคลายพร้อมชาร์จโทรศัพท์มือถือได้ที่นี่ และยังมีบริการ Momoko Bag & Shoes Spa 
  • ชั้น 3 Women: แหล่งรวมชุดชั้นในและชุดว่ายน้ำสตรีที่ใหญ่ที่สุด มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ดัง เสื้อผ้าสำหรับเวิร์กกิ้งวูแมนที่ต้องการชุดลำลอง ชุดทำงานที่สามารถสะท้อนความมาดมั่น ปราดเปรียว กระเป๋าแบรนด์ดังสำหรับสุภาพสตรีก็มากันครบ West Island แบรนด์ดังจากเกาหลี เปิดตัวที่แรกและที่เดียวในประเทศไทย (ต้นปี 2020) นอกจากนี้ ยังมีบริการเสริมความงาม เช่น MOGA Hair Salon, Nail Bar, Lash Bar

 

• ชั้น 4 Unisex & Denim: เอาใจหนุ่มสาวแฟชั่นเลิฟเวอร์ ที่มีเทสต์และไลฟ์สไตล์เป็นตัวของตัวเอง โซน Sneaker รุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน รุ่นยอดฮิต เช่น Adidas, Nike, Converse, Onitsuka Tiger, Skechers โซนสตรีทแฟชั่นแบรนด์จัดเต็ม เช่น Fila, Puma, MLB โซน Denim ก็ขนแบรนด์เจ๋งๆ มาหมด เช่น Calvin Klein Jeans, EVISU, G-Star Raw, Levi’s, Lee, Wrangler ฯลฯ โซน Luggage ละลานตาด้วยแบรนด์ Samsonite, Delsey, Elements ฯลฯ Trend Shop นานาสินค้าสุดครีเอทีฟของขวัญสุดเก๋ MUJI แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นสัญชาติญี่ปุ่นสาขาที่ใหญ่ มีไอเท็มสินค้าและบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ อาทิ Found MUJI (ฟาวนด์ มูจิ) ผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณค่า สร้างสรรค์ จากนักออกแบบท้องถิ่น และปรับแต่งให้เป็นสินค้าของ MUJI ที่เหมาะกับวิถีชีวิตสมัยใหม่ ฯลฯ

 

• ชั้น 5 Men & Watch: รวบรวมแฟชั่นชายชั้นนำมากมาย สะท้อนลุคหนุ่มรุ่นใหม่ มีสไตล์ รักการแต่งตัวแบบมีกิมมิก ทั้งในวันทำงานและวันหยุดพักผ่อน ด้านโซน Men’s Underwear ก็ถือได้ว่ามีวาไรตี้ของแบรนด์ชั้นนำที่มารวมตัวกันมากที่สุด Men’s Shoes แหล่งรวมรองเท้าหลากหลายแบรนด์ดัง ชั้นนำมากมาย Men’s Gadgets เพิ่มไลฟ์สไตล์ด้วยสีสันของสินค้าจากแบรนด์ เช่น Marshall, GoPro, Zace, Fitbit, Aftershokz มุมผ่อนคลายพักผ่อนไปกับกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟระดับพรีเมียมอย่างร้าน Alto Coffee หรือร้านกาแฟเพื่อชาวนกฮูก จากแนวคิดของเจ้าของร้านที่บอกว่า ‘นกฮูก’ นกที่เชื่อว่าไม่เคยหลับ เปรียบได้กับการดื่มกาแฟแล้วสดชื่น รวมถึงมีร้านจัดแต่งทรงผม Barbersmith และมีบริการ ThaiTicket Major อีกด้วย
• ชั้น 6 Kids: อาณาจักรแห่งจินตนาการ ตอบรับไลฟ์สไตล์ครอบครัวสุดชิคเพื่อพรีเซนต์ความเป็นเด็กรุ่นใหม่ กล้าคิด กล้าแสดงออก ช่างฝัน ทั้งโซน Kids Toys ของเล่นหลากหลาย หรือ Costume Zone อวดโฉมกับชุดแต่งกายในจินตนาการอย่างเจ้าหญิง Barbie และเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ โซน Luxe Kids เสื้อผ้าดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์จากแบรนด์ชั้นนำของไทยและแบรนด์คุณภาพแถวหน้าของโลก อย่าง Gucci Kids, Armani Junior, Kenzo Kids, Paul Smith Junior, Lacoste Kids ฯลฯ รวมถึง Smiggle แบรนด์นำเข้าจากประเทศออสเตรเลียที่มีขายเฉพาะห้างเซ็นทรัล 

 

• นอกจากนี้ยังมีบริการห้องรับรอง Platinum Lounge และจุดบริการพิเศษต่างๆ ได้แก่ VAT Refund, Downtown VAT Refund, Western Union,  The 1 Credit Card มี Click and Collect บริการที่สั่งของออนไลน์แล้วสามารถรับได้ที่หน้าร้าน

 

• ชั้น 7 Living House: โฮมคอนเซปต์ใหม่ใจกลางกรุงฯ พื้นที่กว้างขวางถึง 5,000 ตารางเมตร โซน Co-Living ครบครันสินค้าตกแต่งบ้านคุณภาพเยี่ยม และเครื่องใช้ไฟฟ้าจากแบรนด์ชั้นนำ Gifts of Thailand ที่คัดสรรสินค้าที่ระลึกสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย Thai Handicraft ศูนย์รวมสินค้าขึ้นชื่อของไทยที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ โซน Co-Eating บริการอาหารรสเลิศจากร้านอาหารชื่อดังมากถึง 22 ร้าน ด้วย 2 มุมบริการอาหาร คือ Michelin Guide Thai Street Food Deck ‘มุมอาหารไทยระดับมิชลินไกด์ ประกอบด้วยร้านดัง เช่น Ten Suns ไร้เทียมทาน, อองตอง ข้าวซอย, ลิ้มเหล่าโหงว, ไก่ทอดเจ๊กี ซอยโปโล และ Gastronomic & Café Destination ซึ่งเป็นโซนร้านอาหารและคาเฟ่ชื่อดังจากทั่วโลก เช่น บ้านเบญจรงค์ ปาย, เลิศทิพย์ร้านเด็ดระดับตำนาน, Peppina ร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์นโปเลียน, MONO+MONO ไก่ทอดสไตล์อเมริกัน, เพรา (Prow) ร้านข้าวกะเพราสุดเก๋, Louisa Coffee (หลุยซ่าคอฟฟี่) ร้านกาแฟพรีเมียมสัญชาติไต้หวัน, Cher Cheeva Café (เฌอชีวา คาเฟ่) ร้านคาเฟ่ขนมไทย, Wannjai Café ร้านขนมหวานและเครื่องดื่มสไตล์ไทยฟิวชัน

 

รับรองได้ว่าพื้นที่กว่า 50,000 ตารางเมตร ซึ่งถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็น ‘CENTRAL@centralwOrld’ นั้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ กิน ดื่ม ช้อป ได้อย่างครบครัน CENTRAL@centralwOrld โฉมใหม่ พร้อมแล้วที่จะเป็นแหล่งนัดพบที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของทุกท่าน และนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ให้สามารถมาใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข ค้นพบแรงบันดาลใจใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นได้ด้วยตนเอง ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์