สำหรับเซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN การเปิด ‘เซ็นทรัล เวสต์วิลล์’ อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ไม่ใช่เพียงการเปิดศูนย์การค้าแห่งที่ 40 เท่านั้น แต่นี่เป็นการสร้าง District หรือแถบเมืองใหม่ที่จะเข้ามายกระดับเศรษฐกิจ และที่สำคัญคือการดันราคาที่ดินขึ้น 50-60%
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา Chief Marketing Officer บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ย้ำว่า การเปิดโครงการใหม่ของเราเป็นมากกว่าการเปิดศูนย์การค้า แต่เทียบเท่ากับการสร้างย่านใหม่ ที่ดึง District Identity ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์และคาแรกเตอร์ของย่านและศักยภาพของโลเคชันให้โดดเด่นออกมา ไม่ใช่การตั้งชื่อตามถนนหรือพื้นที่เท่านั้น
ดังนั้นจึงเป็นการยกระดับย่านและช่วยสร้างกรอบของระบบผังเมืองให้ชัดเจนมากขึ้นเหมือนเมืองใหญ่ๆ ระดับโลก สำหรับการสร้าง Westville District ที่มีศูนย์การค้า ‘เซ็นทรัล เวสต์วิลล์’ เป็นแลนด์มาร์กยิ่งใหญ่ที่สุดของย่าน ซึ่งเมื่อศูนย์การค้าเซ็นทรัลไปเปิดบนพื้นที่ไหนมูลค่าที่ดินก็จะสูงขึ้น คาดว่าหลังเปิดเซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ราคาที่ดินจะสูงขึ้น 50-60%
โครงการดังกล่าวมีมูลค่ารวมกว่า 6.2 พันล้านบาท เจาะทำเลราชพฤกษ์บนที่ดิน 40 ไร่ พื้นที่อาคารรวม (Gross Floor Area: GFA) 93,000 ตารางเมตร
เหตุผลที่ CPN สนใจทำเลดังกล่าวเป็นเพราะบริเวณนี้มีที่อยู่อาศัยในโครงการระดับไฮเอนด์และโครงการต่างๆ ในย่านกว่า 115,000 ยูนิต ซึ่งมีหมู่บ้านระดับ 10-100 ล้านบาทจำนวนมาก จำนวนประชากร 415,000 คน ที่มีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงย่าน CBD และกำลังซื้อสูงเทียบเท่าย่านอีสต์วิลล์
ขณะเดียวกันในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นนทบุรีมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 ล้านคน โดยย่านราชพฤกษ์มีความเจริญเติบโตของเมืองสูง ทั้งจาก Infrastructure, Residential Projects และไลฟ์สไตล์ของคนในย่านเทียบเท่า CBD โดยเป็นโซนที่เชื่อมต่อเส้นทางเข้า-ออกกรุงเทพฯ ตั้งแต่สาทร เพชรเกษม บรมราชชนนี ยาวไปจนถึงนนทบุรีและปทุมธานี
“บริเวณนี้มีกำลังซื้อสูงเป็นอย่างมาก โดยเมื่อเทียบกับเซ็นทรัล เวสต์เกตจะมียอดใช้จ่ายต่อบิลอยู่ที่ราว 8,000 บาทเท่านั้น แต่เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ เราคาดว่าจะสูงถึง 12,000-15,000 บาทเลยด้วยซ้ำ” ดร.ณัฐกิตติ์กล่าว “เราตั้งเป้ารองรับทราฟฟิกกว่า 30,000 คนต่อวัน”
ดร.ณัฐกิตติ์ย้ำอีกว่า CPN มอง ‘กรุงเทพฯ ไม่ใช่แค่ CBD’ แต่ CPN กำลังขยายความเป็นเมืองออกไปโดยรอบด้วยกลยุทธ์ Strategic Ring ทั้งการสร้างย่านกรุงเทพฯ ตะวันออกด้วย ‘เซ็นทรัล อีสต์วิลล์’, ยกระดับศักยภาพนนทบุรีครบทุกทิศทั้ง ‘เซ็นทรัล เวสต์เกต, รัตนาธิเบศร์, แจ้งวัฒนะ และล่าสุดกับเวสต์วิลล์’ รวมถึง Outer Ring อย่างที่นครปฐมมี ‘เซ็นทรัล ศาลายา’ และเตรียมเปิด ‘เซ็นทรัล นครปฐม’ ในปีหน้า, สมุทรสาครมี ‘เซ็นทรัล มหาชัย’ และสมุทรปราการมีโครงการลักชูรีเอาต์เล็ต ‘เซ็นทรัล วิลเลจ’ เป็นต้น
ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2566 เซ็นทรัลพัฒนามีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารงานทั้งหมด 39 โครงการ (ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 37 แห่งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 โครงการ ต่างจังหวัด 21 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ, ศูนย์การค้าเอสพละนาด 1 แห่ง และศูนย์การค้าเมกา บางนา ภายใต้กิจการร่วมค้าอีก 1 แห่ง) คอมมูนิตี้มอลล์ 17 โครงการ มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 2.3 ล้านตารางเมตร นอกจากนี้ ยังบริหารศูนย์อาหาร 33 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 8 แห่ง โครงการที่พักอาศัย 30 โครงการ
ในปี 2567 ทาง CPN มีแผนเปิดเซ็นทรัล นครสวรรค์ (1Q67) เซ็นทรัล นครปฐม (1H67) เซ็นทรัล กระบี่ (2568) และโครงการอื่นๆ ที่เตรียมเปิด ได้แก่ โรงแรม Centara Ayutthaya (4Q66) โรงแรม Centara One Rayong (2567) และโครงการที่อยู่อาศัย 5 โครงการ (บ้านนิรดา 3 โครงการ และคอนโดมิเนียม Escent 2 โครงการ)
นอกจากนี้ยังมีโครงการเมกะมิกซ์ยูส ‘ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค’ บิ๊กโปรเจกต์ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) โดยจะทยอยเปิดให้บริการในปี 2567 เป็นต้นไป
