ทุกธุรกิจต่างต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีวิกฤตโควิด-19 เป็นต้นเหตุ โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารซึ่งมีมูลค่า 4.37-4.41 แสนล้านบาท และได้รับผลกระทบโดยตรง แม้ว่าร้านอาหารที่อยู่ในศูนย์การค้าจะกลับมาให้ลูกค้าทานในร้านได้อีกครั้ง ทว่า Social Distancing ทำให้ร้านต้องจัดระยะห่างระหว่างลูกค้า ที่นั่งหายไป 50% แม้เดลิเวอรีจะเติบโต แต่ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รายได้ไม่มีทางเท่าเดิม
ณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (Central Restaurants Group) หรือ CRG กล่าวว่า บริษัทเร่งเดินหน้าธุรกิจร้านอาหารในเครือ โดยสั่งรีเซตแผนงานทั้งหมด เน้นรูปแบบธุรกิจใหม่ สร้าง ‘Cloud Kitchen’ ครัวกลางที่รวบรวมร้านอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ เพื่อรุกขยายช่องทางเดลิเวอรีส่งตรงถึงกลุ่มลูกค้า
รูปแบบดังกล่าวจะเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่เข้ามาเติมเต็มสัดส่วนธุรกิจ ทดแทนช่องทางการเข้ามารับประทานในร้านอาหาร เบื้องต้นตั้งเป้าเปิด Cloud Kitchen เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3-4 แห่ง หลังจากนำร่องร่วมกับ Grab ภายใต้โครงการ Grab Kitchen ที่สามย่าน ในปี 2562 ที่ผ่านมา โดยจะเน้นทำเลใกล้จุดขนส่ง เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มแบรนด์ร้านอาหารต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า
ทั้งแบรนด์ในเครือซีอาร์จี และแบรนด์สตรีทฟู้ดชื่อดัง รวมถึงแบรนด์เอสเอ็มอีใหม่ๆ เข้ามาอยู่รวมกัน นอกจากนี้ จะมีการปรับใช้เทคโนโลยีต่างๆ ทั้งออนไลน์, Order & Collect และ Drive-Through
ในขณะที่บริการรับประทานอาหารในร้านในทุกสาขา ได้เพิ่มความสำคัญกับมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ลดจำนวนที่นั่งต่อสาขา เน้นย้ำสูงสุดในเรื่องความสะอาด สุขอนามัย และความปลอดภัย มีการใช้ระบบสั่งอาหารผ่านดิจิทัลเมนู และระบบการชำระเงินแบบไร้เงินสด (Cashless) ทั้งออนไลน์และคิวอาร์โค้ด
สำหรับรายการอาหารมีการปรับให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ เพิ่มเซตเมนูผูกปิ่นโตกับร้านดัง และเซตข้าวกล่องอิ่มสุข ซึ่งลูกค้าสามารถปรับเมนูและทยอยส่งตามวันที่นัดหมายได้ภายใน 3,5, หรือ 7 วัน รวมทั้งจัดรายการอาหารสุขภาพรองรับเทรนด์ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น
“เราเน้นเรื่องการรักษากระแสเงินสดให้เพียงพอต่อการจ้างพนักงาน และดูแลพนักงานทั้งหมดให้มีรายได้ตามสมควร โดยปรับเปลี่ยนพนักงานหน้าร้านบางส่วนเป็นพนักงานเดลิเวอรี ให้พนักงานออฟฟิศทำงานจากที่บ้านตามมาตรการ Work from Home ของภาครัฐ รวมทั้งทำประกันภัยโควิด-19 ให้พนักงานทุกคนด้วย”
ขณะเดียวกัน การลงทุนในช่วง 6 เดือนถึง 1 ปีจากนี้ จะหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่น ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนการพึ่งพากันในประเทศ และมองหาพาร์ตเนอร์ในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจเดลิเวอรี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ตั้งทีมเฉพาะกิจเร่งขยายความร่วมมือกับพันธมิตรผู้ให้บริการรับส่งอาหาร ทั้ง Grab Food, LINE MAN, Foodpanda เพื่อเสริมจุดแข็งบริการ CRG Delivery 1312 และ FOODHUNT ของเครือ CRG
นอกจากนี้ยังมีแผนเจรจาร่วมทุนซื้อกิจการแบรนด์ร้านอาหาร เพื่อรองรับลูกค้าเป้าหมายทุกกลุ่มและทุกไลฟ์สไตล์ โดยล่าสุดจับมือกับบริษัท โออาร์ จำกัด (มหาชน) ในเครือบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ตั้งบริษัทร่วมทุนดำเนินธุรกิจคาเฟ่อเมซอนในประเทศเวียดนาม รวมถึงนำแบรนด์ร้านอาหารของซีอาร์จีอย่างน้อย 2 แบรนด์ไปเจาะตลาดและเปิด Cloud Kitchen ในเวียดนามด้วย
ปัจจุบัน ซีอาร์จีมีเครือข่ายร้านอาหารรวม 16 แบรนด์ ได้แก่ Mister Donut, KFC, Auntie Anne’s, Pepper Lunch, Chabuton, Cold Stone Creamery, Thai Terrace, Yoshinoya, Ootoya, Tenya, Katsuya, Aroi Dee, Suki House, Soft Air, Kowlune และ Salad Factory จำนวนสาขารวมกัน 1,048 สาขา ด้านผลการดำเนินงานในปี 2563 ตั้งเป้าเติบโตได้กว่า 10,000 ล้านบาท
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum