×

อนุทิน ย้ำตนเองไม่ได้ผิดคำพูด ยืนยันคนไทยจะมีวัคซีนเต็มแขน ส่วน ATK ไม่มีล็อกสเปก อย.ไทย มาตรฐานระดับโลก

โดย THE STANDARD TEAM
31.08.2021
  • LOADING...

วันนี้ (31 สิงหาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลุกขึ้นชี้แจงในการอภิปรายและข้อกล่าวหาของ นพ.เรวัต วิศรุตเวช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย และ ส.ส. พรรคร่วมฝ่ายค้านที่ได้อภิปรายในประเด็นวัคซีน Sinovac ว่าที่จริงแล้วตนได้ตั้งใจไว้ว่าจะขอชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันสุดท้าย เพื่อต้องการรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกและรวบรวมคำตอบให้ได้มากที่สุด แต่ในการลุกขึ้นชี้แจงในครั้งนี้นั้น เกรงว่าการใส่ร้ายเกี่ยวกับวัคซีน Sinovac จากสมาชิกหลายท่านอาจจะทำความตื่นตระหนก ความสับสน และความวิตกกังวลให้กับพี่น้องประชาชน เพราะว่ามีพี่น้องประชาชนมากกว่า 3 ล้านคนที่ได้รับวัคซีน Sinovac ซึ่งต้องขอยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า Sinovac เป็นวัคซีนที่ดีมีมาตรฐาน ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เพียงแต่ว่าเมื่อมีการกลายพันธุ์ของโควิดเป็นสายพันธุ์เดลตาประสิทธิผลของการป้องกันติดเชื้อของวัคซีน Sinovac ก็อาจจะลดลงไปบ้าง ซึ่งไม่ใช่เพียง Sinovac วัคซีนทุกยี่ห้อที่มีอยู่ในโลกปัจจุบันก็มีประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อลดลงเช่นเดียวกัน

 

ขณะเดียวกันต้องชี้แจงว่าในขณะที่วัคซีนของ Sinovac เข้ามาในประเทศไทย ขณะนั้นโควิดที่ระบาดคือสายพันธุ์อัลฟา ไม่ใช่สายพันธุ์เดลตา ซึ่งในปีที่ผ่านมาประเทศไทยเราสามารถควบคุมสถานการณ์โควิดได้ดี เราไม่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมาเกือบครึ่งปี จนถึงปลายเดือนธันวาคม 2563 ที่เกิดการแพร่ระบาดคลัสเตอร์ที่จังหวัดสมุทรสาคร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงนั้นกระทรวงสาธารณสุขจึงมีความจำเป็นในการเร่งเจรจาไปยังบริษัทผู้ผลิตวัคซีน Sinovac เนื่องจากเป็นบริษัทที่สามารถจัดส่งวัคซีนมายังประเทศไทยได้เร็วที่สุด

 

อนุทินกล่าวว่า ในความสัมพันธ์ที่ดีบ้านพี่เมืองน้อง ไทยจีนใช่อื่นไกล ซึ่งการพูดถึงวัคซีน Sinovac ก็เหมือนกับพูดถึงประเทศจีน ดังนั้นจะมาบอกว่าของพี่ของน้องเราไม่ดีเป็นเซินเจิ้น ด้อยค่า ไม่ได้ หลายคนในที่นี้ที่อายุต่ำกว่า 60 ปีก็ล้วนแต่มีวัคซีน Sinovac อยู่ในร่างกายเราทั้งนั้น และตนเองเชื่อว่าในกลุ่มผู้ติดเชื้อที่ได้รับวัคซีนของ Sinovac ที่ไม่มีอาการรุนแรงล้วนแล้วแต่ได้รับอานิสงส์จาก Sinovac ทั้งนั้น

 

สำหรับที่หลายฝ่ายบอกว่าประเทศไทยจัดซื้อวัคซีน Sinovac ในราคาที่แพงนั้นต้องชี้แจงว่าเป็นเพียงล็อตแรกเท่านั้น ที่เราจำเป็นจะต้องเร่งนำเข้าวัคซีนในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งล็อตหลังจากนั้นประเทศไทยเราก็ได้รับราคาที่ถูกลงอย่างต่อเนื่อง

 

อนุทินกล่าวว่า ไม่ใช่วัคซีน Sinovac หรือที่ทำให้คนไทยหลายคนเริ่มผลิตภูมิคุ้มกันในร่างกาย ผู้ที่ได้รับวัคซีนติดเชื้อก็จะไม่มีอาการหนักเมื่อเข้ารับการรักษา หลังจากนั้นก็กลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ Sinovac ก็ทำให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สามารถประคองสถานการณ์โควิดได้ดีมาอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่วัคซีนของ AstraZeneca มาถึง 

 

ทั้งนี้อนุทินยังกล่าวถึงสูตรในการฉีดวัคซีนไขว้ เป็นเรื่องของวิชาการ ไม่ใช่สูตรที่ได้มาแบบฟลุกๆ ทางคณะกรรมการวิชาการทางการแพทย์ได้คิดมาตั้งนานแล้ว ทางกระทรวงสาธารณสุขต่างหากที่ขอให้ชะลอไว้ก่อน เพราะเราต้องการที่จะให้เกิดความมั่นใจ และทดสอบให้นานจนกว่าจะเกิดความมั่นใจ วัคซีนทุกชนิดจะฉีดแบบใด เรามีคณะกรรมการวิชาการร่วมประชุม ผ่านไปยังคณะกรรมการโรคติดต่อ และผ่านไปยังคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ และเราจะต้องนำเรื่องดังกล่าวรายงานไปยังศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ด้วย เพื่อให้มีความมั่นใจ

 

ทั้งนี้ที่หลายฝ่ายมองว่าการฉีดวัคซีนไขว้ได้รับมาตรฐานจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO แล้วหรือไม่นั้น ต้องชี้แจงว่าในประเทศไทยเรายึดคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในประเทศเป็นหลัก ถ้า อย. อนุมัติ แสดงว่าเวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ อาหาร หรืออะไรก็ตามที่ อย. อนุมัติถือว่านำมาใช้ได้

 

อนุทินกล่าวว่า สำหรับประเด็นเรื่องการจัดหาวัคซีนแบบ mRNA นั้นต้องชี้แจงว่า ขณะนี้รัฐบาลได้จัดหาวัคซีน mRNA ของ Pfizer แล้ว 30 ล้านโดส และสำหรับปี 2565 รัฐบาลได้จัดซื้ออีก 50 ล้านโดสสำหรับ Pfizer ขณะที่ mRNA อีกหนึ่งยี่ห้อคือวัคซีนของ Moderna เป็นวัคซีนทางเลือกนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้ให้องค์การเภสัชกรรมเป็นผู้แทนของภาคเอกชนร่วมกับสภากาชาดไทยในการจัดซื้อไปแล้ว 5 ล้านโดส และกำลังจะมีการสั่งซื้อเพิ่มอีก 

 

ดังนั้นในประเทศไทยขณะนี้เรามีทั้งวัคซีนเชื้อตายแล้ว วัคซีนแบบ mRNA แล้ว ครบทุกแซ่ ทุกตระกูล และยังมีโปรตีนซับยูนิตที่กำลังทดลองอยู่ ซึ่งเป็นการชี้ชัดให้เห็นว่าประเทศไทยเราไม่ได้ขาดแคลนวัคซีน และสิ้นปี 2564 นี้ ประเทศไทยเราจะมีวัคซีนทั้งหมด 140 ล้านโดส ฉีดประชาชนได้ 70 ล้านคน คิดเป็น 90% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ 

 

“การฉีดวัคซีนนั้น ถ้ามีวัคซีนไขว้ก็ยิ่งดีใหญ่ เพราะว่าเริ่มต้น Sinovac แล้วมาต่อด้วย AstraZeneca รอระยะห่างเพียง 2-3 สัปดาห์ ขณะที่การฉีดแบบ AstraZeneca สองเข็มต้องรอระยะห่างเกือบ 2 เดือน เกือบ 3 เดือน ช่วงนี้มีการระบาดของสายพันธ์ุเดลตาที่ดุพอสมควร และนี่คือการศึกษาค้นคว้าวิจัยทางการแพทย์ที่ศึกษาออกมา และผู้ที่ได้รับการฉีดสองเข็มก็จะได้รับบูสเตอร์โดสต่อไป”

 

อนุทินกล่าวว่า ปีหน้านายกรัฐมนตรีได้อนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุขคอนเฟิร์มวัคซีน AstraZeneca อีก 60 ล้านโดส ทำให้คนไทยไม่ต้องกังวลว่าปีหน้าจะไม่มีวัคซีน เขายังคงจะใช้เราเป็นฐานการผลิต และจะเป็นเข็ม 3 

 

“เราจะมีความมั่นคงทางวัคซีน คนไทยทุกคนจะมีวัคซีน ‘เต็มแขน’ ทุกวันนี้ก็ 30 กว่าล้านโดส จะไม่เต็มแขนได้อย่างไร ผมได้พูดมาแล้วว่าตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป วันนี้ 31 สิงหาคม ยังอยู่ไตรมาส 3 และไตรมาส 3 จนถึงสิ้นปี ถ้าคนไทยได้รับวัคซีนครบ 120 ล้านโดส ก็เต็มแขน ผมไม่ได้ผิดคำพูดตรงไหนเลย”

 

สำหรับประเด็นการจัดซื้อ ATK จำนวน 8.5 ล้านชิ้น จะมาช่วยลดการแพร่ระบาด จะเข้ามาช่วยในการตรวจผู้ป่วยได้มากขึ้น ซึ่งไม่ว่าชนิดไหนก็มีความแม่นยำในระดับที่รับได้ และ ATK หากผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของไทย ซึ่งเราถือว่าเป็นระดับโลก และถือว่าเป็นเครื่องมือแพทย์ ไม่ว่าชนิดใดหากผ่านการรับรองจาก อย. เขามีสิทธิเข้าประมูล ส่วนผ่านองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เป็นเรื่องรอง ซึ่งไม่ได้มีกติกานี้ และไม่ได้มีการล็อกสเปก เพราะมัการประมูลถึง 17 ราย และผู้ได้รับเลือกคือผู้ที่เสนอราคาต่ำสุด

 

ขณะที่ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า ATK ต้องผ่านเกณฑ์ WHO หรือองค์การอนามัยโลก ตนเองได้เขียนไปถามนายกฯ ว่าท่านพูดตอนไหน ตนไม่ได้ยิน และเมื่อไปตรวจสอบโดยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีก็บอกว่าไม่มี และมีการแก้ไขทันทีเมื่อมีความผิดพลาดในการพิมพ์ โดยหลักของนายกฯ คือขอให้จัดซื้อด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบคุณภาพได้ และยืนยันว่าเรื่องทุจริตในยุคที่ตนเองเป็นรัฐมนตรีไม่มีอย่างแน่นอน 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising