CDGRE จุดนัดพบของการกินดื่มและสวมใส่ นี่ไม่ใช่การกล่าวเกินเลย เพราะที่นี่นอกจากจะอิ่มท้องแล้ว อาจจะได้ของใช้หรือเสื้อผ้าติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย เพราะนี่คือการรวมตัวที่น่าจับตามองของก๊วนเพื่อนแวดวง F&B และสายสตรีท 2 ร้านอาหารดัง กับอีก 1 มัลติแบรนด์และสตรีทแวร์ช็อปที่มาแรงที่สุดในตอนนี้
เชฟกากั้น อนันต์ (Gaggan Anand) จาก (อดีต)ร้าน Gaggan และร้านอาหาร Gaggan Anand Restaurant, เชฟโทมัส ซูห์ริง (Thomas Sühring) และเชฟมาเทียส ซูห์ริง (Mathias Sühring) จากร้านอาหาร Sühring และ CARNIVAL มัลติแบรนด์ช็อปและแบรนด์เสื้อผ้าสตรีทแวร์สัญชาติไทย โดยทั้ง 3 แบรนด์อาหารและแฟชั่นจะมาตีความรูปแบบการกินดื่มและไลฟ์สไตล์ผ่านพื้นที่แห่งนี้
ตัวร้านมาในโทนสีดำ สื่อถึงความมินิมัล เข้ม และดิบ ซึ่งเป็นการตีโจทย์ให้แตกของทั้ง 3 แบรนด์ โดยแบ่งออกเป็น 3 โซน
โซนแรกเป็นร้านกาแฟ โดยเชฟกากั้น อนันต์นำเสนอความหลงใหลในกาแฟ แรงบันดาลใจจากการเดินทางทั่วโลก
มีเมล็ดกาแฟหายากหลายชนิด รวมถึงเครื่องทำกาแฟสุดล้ำ หากเป็นคอกาแฟตัวยง เราแนะนำให้นั่งหน้าสโลว์บาร์
นอกจากกาแฟก็ยังมีขนมสไตล์เยอรมนีให้ลองสั่งรับประทานคู่กาแฟแก้วโปรด
โซนถัดมา ร้านอาหาร ดูแลและสร้างสรรค์โดยเชฟแฝดซูห์ริง การันตีด้วย 2 ดาวมิชลิน และรางวัล World’s 50 Best Restaurants ลำดับที่ 40 (ปี 2021) พื้นที่รับประทานอาหารมีทั้งชั้นล่างและชั้นบน
โซนสุดท้าย มุมจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ เสื้อผ้า และเครื่องแต่งกาย ภายใต้แบรนด์ CDGRE ออกแบบโดย CARNIVAL ซึ่งกินพื้นที่ระหว่างทางเดินขึ้นชั้น 2 มีสินค้าให้เลือกช้อปกลับบ้านมากมาย
สำหรับอาหาร เชฟโทมัสและเชฟมาเทียสตั้งใจนำเสนอรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม เพราะผู้คนมักจะมีภาพจำเชฟทั้งสองว่าต้องทำเฉพาะอาหารไฟน์ไดนิ่งเท่านั้น ซึ่งที่ CDGRE จะเป็นอาหารที่เสิร์ฟมาในหน้าตาธรรมดา มีกลิ่นอายเยอรมนีและยุโรป รวมถึงเมนูคลาสสิกจาก Sühring ที่เหมาะสำหรับแบ่งกันรับประทาน
รองท้องด้วยของกินเรียกน้ำย่อยที่มาขนาดพอดีคำ Salmon Roe (240 บาท) กระทงทองไข่ปลาแซลมอนกับครีมฮอร์สแรดิชรมควัน ที่ยิ่งกินก็ยิ่งยั่วน้ำลายมากกว่าเดิม
ต่อด้วย Foie Gras (460 บาท) ขนมปังอัดชิ้นกลมแบนท็อปด้วยฟัวกราส์แล้วบีบซอสยูซุวานิลลา รสชาติตัดระหว่างเค็มกับเปรี้ยวจนได้ความนวลที่กำลังพอดี
Caesar Salad (180 บาท) ลืมภาพจำสลัดชามโตไปก่อน เพราะเชฟทำมาให้กินคนละคำสองคำเท่านั้น จานนี้ถูกย่อส่วนมาให้เหลือเพียงก้านผักและเครื่องเคราต่างๆ ที่แม้จะดูมินิมัลแต่ก็ครบรสซีซาร์สลัดเหมือนชามใหญ่ทีเดียว
The Brotzeit Picnic (890 บาท) เชฟโทมัสและเชฟมาเทียสชวนทุกคนมาปิกนิกด้วยกันบนโต๊ะอาหาร หากคุณสั่งเมนูนี้ พนักงานจะยกตะกร้าสานมาเสิร์ฟตรงหน้า แล้วเปิดให้เห็นว่าด้านในมีขนมปัง โคลด์คัต ชีส เนยรมควัน ครีมสมุนไพร ริลเลต์หมู แตงกวาดอง รวมถึงถาดไม้เล็กๆ และอุปกรณ์ที่ใช้รับประทานอาหารแบบปิกนิกเตรียมพร้อม เมื่อถ่ายรูปเสร็จเรียบร้อย พนักงานจะปูผ้าบนโต๊ะแล้วจัดแจงเตรียมถาด มีด คีมคีบ และจัดเรียงอาหารต่างๆ จนเรียบร้อย จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะอิ่มอร่อยกันต่อ
มาถึงจานเส้นกันบ้าง Carbonara Explosion (550 บาท) พาสต้าเมนูแนะนำที่มีจำนวนจำกัดในแต่ละวัน เชฟเปลี่ยนจากคาร์โบนาราหน้าตาธรรมดาให้เป็นพาสต้าสอดไส้คาร์โบนาราต้นตำรับอิตาเลียนที่ไร้ครีม มีแค่ไข่ ชีส แฮมหมู และพริกไทยดำเท่านั้น ซึ่งด้านนอกของพาสต้าจะมีแฮมหมูสามชั้นสไลซ์บางเฉียบช่วยเพิ่มรสชาติเมื่อเคี้ยวให้ซอสด้านในพาสต้าแตกทะลักออกมา
Macaroni with Black Tiger Prawns & Smoked Eggplant (590 บาท) กลับสู่ความเรียบง่าย กับพาสต้าผัดกุ้งลายเสือคลุกเคล้าซอสมะเขือม่วงรมควัน เติมสีสันด้วยมะเขือเทศและใบโหระพาอิตาเลียน
ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มเย็น London Fog (180 บาท) ส่วนผสมลงตัวระหว่างชาเอิร์ลเกรย์กับโซดาน้ำผึ้งเลมอน แล้วราดฟองนมลาเวนเดอร์นุ่มๆ ปิดท้าย จิบให้ครบทั้งสามองค์ประกอบเพื่อความสดชื่น
What You Should Know:
- CDGRE ชื่อร้านมาจาก Celsius Degree สื่อถึงอุณหภูมิซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการทำอาหารและเครื่องดื่มให้ออกมาสมบูรณ์แบบ
CDGRE
Open: ทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
Address: ชั้น G สยามพารากอน
Budget: 300-500 บาท
Website: https://instagram.com/cdgre.bkk
Map: https://goo.gl/maps/pispkSrgzjHVh4876
ภาพ: ภควรรษ ประเสริฐศักดิ์