×

ต่อให้ใครไม่รัก, ความลับ, ในวันที่เธอดูแปลก – เมื่อสามสาววง H รวมตัวครั้งสำคัญ เพื่อเรียกความทรงจำจากยุคคาสเซตต์เทป

20.03.2019
  • LOADING...
Cassette Festival Concert

HIGHLIGHTS

7 Mins. Read
  • ลานน้ำพุ Center Point ในยุคก่อน คือภาพความทรงจำร่วมที่พลอย, แอนนี่ และกิ๊ฟท์นึกถึงเป็นอย่างแรกเมื่อพูดถึงวง H
  • ทุกคนคิดคล้ายกันว่า การเรียงเพลงแบบหน้า A และหน้า B คือเสน่ห์สำคัญในยุคเทปที่ไม่มีอีกแล้วในยุคนี้ รวมทั้งหน้าปกเทปของศิลปินหลายๆ คน (โดยเฉพาะของเบเกอรี่ มิวสิค!) ที่ออกแบบได้มีเสน่ห์มาก
  • พลอยบอกว่า สาเหตุที่เราเห็นวง H กลับมารวมตัวกันน้อยมากตามคอนเสิร์ตต่างๆ เป็นเพราะความไม่มั่นใจของเธอเอง ที่ทำให้ต้องปฏิเสธคำเชิญของหลายๆ คอนเสิร์ตไป
  • คอนเสิร์ต Cassette Festival จะเป็นเวทีล่าสุดที่พวกเธอกลับมารวมตัวกันแบบครบวงอีกครั้ง ร่วมกับศิลปินที่เคยโด่งดังในยุคเทปคาสเซตต์อีก 20 กว่าชีวิต

ต่อให้ใครไม่รัก, ความลับ, วันที่เธอดูแปลก, สุดสัปดาห์, โอม, จับมือฉันเอาไว้ ฯลฯ คือหนึ่งในเพลงฮิตของวง H ที่มีสมาชิกสามสาว พลอย หอวัง, แอนนี่-มณฑิราภา รัตตะกุญชร และ กิ๊ฟท์-กุศลิน โควหกุล วงไอคอนจากยุค 90 ที่ถึงวันนี้ ใครหลายคนยังอยากได้ยินพวกเธอร้องเพลงให้ฟังกันแบบสดๆ อีกครั้ง เพื่อย้อนภาพความทรงจำในยุคเทปคาสเซตต์ที่กำลังเฟื่องฟูให้กลับคืนมา

 

แต่อย่างที่รู้กันดีว่า วง H เป็นหนึ่งในวงที่กลับมารวมตัวกันน้อยครั้งที่สุด ถ้าเทียบกับคอนเสิร์ต ‘รียูเนียน’ ในยุคหลัง ที่เปิดโอกาสให้ศิลปินในยุค 90 กลับมารวมตัวกัน เพื่อสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับแฟนเพลงบนเวที

 

ล่าสุด วง H จะกลับมารวมตัวกันแบบเต็มวงอีกครั้งในคอนเสิร์ต Cassette Festival ร่วมกับศิลปินที่เคยโด่งดังในยุคเทปคาสเซตต์อีก 20 กว่าชีวิต ที่ตัวพลอยเองบอกว่า ต้องเป็นคอนเสิร์ตที่ ‘พิเศษ’ จริงๆ เท่านั้น เธอถึงจะยอมเอาชนะความไม่มั่นใจในตัวเอง เพื่อขึ้นไปยืนร้องเพลงบนเวที

 

วันนี้ THE STANDARD POP ชวนพวกเธอย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน เพื่อปะติดปะต่อความทรงจำบางอย่าง รวมถึง ‘เสน่ห์’ แห่งยุคสมัยของ ‘เทปคาสเซตต์’ ที่ยังคงคลาสสิกมาจนถึงทุกวันนี้

 

Cassette Festival Concert

Cassette Festival Concert

 

สิ่งที่จะคิดถึงขึ้นมาเป็นอันดับแรกเวลาถึงนึกวง H คืออะไร

ตอบพร้อมกัน: Center Point!

กิ๊ฟท์: Center Point เป็นที่รวมตัวของวัยรุ่นในยุคนั้น สมัยที่ยังไม่มีโทรศัพท์มือถือให้ใช้กันเหมือนตอนนี้ มีแค่เพจเจอร์ที่ใช้ฝากข้อความหากัน นัดเจอกันยาก ก็จะใช้ลานน้ำพุตรง Center Point นี่แหละเป็นแลนด์มาร์กรวมตัวกัน เพราะเจอกันได้ง่ายที่สุด

แอนนี่: พวกคนที่แต่งตัวแนวๆ ก็จะไปรวมกันตรงนั้นหมด เป็นที่ที่ทำให้เราได้ดูการแต่งตัวชิคๆ ในยุคนั้น

พลอย: แล้วออฟฟิศของค่ายเบเกอรี่ดันอยู่ตรงนั้นด้วย ก็ยิ่งทำให้พวกเราเชิดได้ (หัวเราะ) คนอื่นนัดกันตรงนั้นเพื่อเจอเพื่อนๆ แต่ของเราทั้งนัดเจอเพื่อน แล้วก็ไปทำงานด้วยนะคะ เก๋สุดแล้ว

 

Cassette Festival Concert

 

พอจะจำได้ไหมว่าเทปม้วนแรกที่แต่ละคนซื้อคืออะไร เป็นของศิลปินคนไหน

กิ๊ฟท์: น่าจะเป็นของพี่เบิร์ด พี่มอส อะไรแบบนี้ แต่ไม่ได้ซื้อเองนะ น่าจะเป็นคุณแม่ซื้อ แล้วเราก็ได้ฟังตอนอยู่บนรถ

แอนนี่: ของแอนนี่ที่ซื้อเองจริงๆ น่าจะเป็นพี่ทาทา  

พลอย: เออใช่ๆ ตอนนั้นต้องพี่ทาทาเลย แล้วก็พวกแก๊ง 6.2.12 กับวง Teen 8 Grade A อะไรแบบนี้

แอนนี่: การฟังเพลงยุคนั้นกับยุคนี้ก็ต่างกันเยอะ ตอนนั้นเราจะซื้อเทปมา แล้วก็ฟังทุกเพลง ทั้งหน้า A หน้า B มันต้องชอบจริงๆ นะถึงจะซื้อ พอซื้อมาแล้วก็ฟังทุกเพลงแบบไม่กดข้ามเลย

กิ๊ฟท์: เพราะเทปมันกรอยาก แต่ถ้าเพลงไหนที่ชอบจริงๆ ก็ต้องหมุนนะ หมุนซ้ำๆ บางทีหมุนจนเทปยานไปเลย

พลอย: เวลาคุยกันเรื่องเทปที่เพิ่งซื้อมา ต้องบอกถึงขั้นว่า เพลงนี้อยู่หน้า A เพลงนั้นอยู่หน้า B อะไรแบบนั้นเลยนะ มันจะมีการเรียงเพลงที่ไม่เหมือนตอนนี้ที่เพลงหน้า A คือเซตเพลงฮิต ส่วนหน้า B อาจจะเป็นเพลงที่อาจจะไม่ได้ฮิตมาก แต่ศิลปินได้ทดลองอะไรแปลกๆ เดี๋ยวนี้น่าจะไม่มีใครพูดคำว่าหน้า A หน้า B กันแล้วมั้ง (หัวเราะ)

 

เพลงไหนในยุคเทปคาสเซตต์ที่ต้องกรอกลับไปฟังบ่อยที่สุด

กิ๊ฟท์: เพลง เลือกได้ไหม, นอนไม่หลับ กับพวกเพลงช้าๆ ของ Zaza ฟังซ้ำๆ ได้หมดเลย

พลอย: เพลง คืนนี้ขอหอม ของพี่โป้ Yokee Playboy ฟังแล้วฟังอีก ฟังไปเรื่อยๆ เลย ชอบมาก

แอนนี่: เพลง อยากกลับไปหา ของ Armchair อันนี้โชคดีหน่อย เป็นยุคที่การกรอเครื่องเล่นเทปบนรถเริ่มทำได้ง่ายแล้ว ก็จะกรอไปฟังไประหว่างขับรถได้สะดวกขึ้นมาหน่อย

 

เสน่ห์อย่างหนึ่งในยุคนั้นคือ การค่อยๆ แกะพลาสติกหุ้มเทปแต่ละม้วนช้าๆ แล้วค่อยๆ อ่านเนื้อเพลง อ่านเรื่องราวของแต่ละเพลงที่อยู่ข้างใน

กิ๊ฟท์: มีอ่านเนื้อเพลง แต่จะไม่ค่อยๆ แกะช้าๆ จะแกะแบบฉีกพลาสติกเลย (หัวเราะ) คือเราอยากรีบเปิดไปดูปกข้างในของเขา เพราะปกเทปในยุคนั้นน่าสนใจมากเลย

พลอย: ปกยุคนั้นดีมากทั้งหมดเลยนะ ไม่อยากอวยค่ายตัวเองเลย (หัวเราะ) แต่ค่ายเบเกอรี่ในตอนนั้นตั้งใจในการทำอาร์ตเวิร์กมากจริงๆ ทุกศิลปินคือเก๋หมด แล้วเขาไม่ได้คิดแค่ให้ปกออกมาสวย แต่คิดเป็นเรื่องราวของพวกเรา พอครีเอตออกมาแล้วน่ารักน่าเก็บมากกว่าสมัยนี้ ในความรู้สึกพลอยนะ

 

พอจะจำความรู้สึกในวันที่เปลี่ยนจากคนที่ชื่นชมปกเทปศิลปินคนอื่น มาเป็นคนที่ต้องไปโพสท่าถ่ายรูปอยู่บนปกนั้นเองได้ไหม

แอนนี่: จำปกแรกไม่ได้เลย แต่ปก 2 อัลบั้ม H2oh! นี่จำได้แม่น เพราะมีช็อตที่ต้องกระโดดไปด้วย ถ่ายไปด้วย ถ่ายอยู่นานกว่าจะได้ออกมาเป็นรูปที่เห็นกัน

พลอย: จำได้ เพราะวันที่ถ่ายต้องยิ้มไปไม่รู้กี่ล้านรอบ แต่เขาเอารูปแรกแบบที่เรายิ้มอ่อนๆ (หัวเราะ) แต่กลายเป็นว่ารูปนั้นเป็นรูปที่ฮิตที่สุดไปเลย

กิ๊ฟท์: จำตอนปกแรกได้ เพราะเป็นวันที่ต้องตัดผมหน้าม้าด้วย (หัวเราะ) แล้วกว่าจะได้รูปที่เห็นนั่นคือ ต้องเอี้ยวตัวแล้วเอี้ยวตัวอีก โพสิชันมันไม่ได้สักที เหนื่อยแต่ก็สนุกมากเหมือนกัน

 

มิวสิกวิดีโอเพลง ต่อให้ใครไม่รัก

 

หลังจากนั้นวง H ก็กลายเป็นหนึ่งในไอคอนของวัยรุ่นยุคนั้นไปเลย

แอนนี่: ตอนนั้นไม่ได้คิดเรื่องการเป็นไอคอนหรืออะไรเลย รู้แค่ว่าเราเด็กมาก แล้วการได้มารวมตัวกัน ได้มาออกเทป ได้คุยกันว่า เฮ้ย เราเป็นนักร้องแล้วนะ มีคอนเสิร์ต ไปสัมภาษณ์คลื่นวิทยุ ไปเยี่ยมแผงเทปแล้วมีคนมารอเจอเรา ทุกอย่างมันตื่นเต้นและสนุกไปหมด เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ดีมากสำหรับช่วงเวลาที่เป็นเด็กในตอนนั้น

พลอย: นอกจากตื่นเต้น แล้วก็งงว่ามาตามเราทำไม (หัวเราะ) มีคนเขียนจดหมาย ได้ไปเล่นคอนเสิร์ตแคมปัสทัวร์ แล้วเบเกอรี่น่ารักตรงไหนรู้ไหมคะ โรงเรียนสหฯ หรือหญิงล้วน เขาไม่เอานะคะ ต้องพาไปโรงเรียนชายล้วนค่ะ (หัวเราะ) สรุปแฟนคลับเราเป็นใครกันแน่ ซึ่งมันงงจริงๆ นะเวลามีคนมากรี๊ด มีคนมาชื่นชมเรา เพราะพูดจริงๆ ว่าเรายังไม่มั่นใจในตัวเองเลยว่ามีคนรู้จักเราด้วยเหรอ

กิ๊ฟท์: มันไม่มั่นใจ (หัวเราะ) พอเข้ามหาวิทยาลัยก็ทำตัวธรรมดา ไม่กล้าบอกว่าเราเป็นนักร้องหรืออะไร แต่ก็จะมีคนมาบอกว่า เฮ้ย อยู่วง H เหรอ เราก็จะงง แล้วตอบกลับไปได้แค่ว่า อ้าว รู้จักด้วยเหรอ (หัวเราะ)

พลอย: อาจเป็นเพราะว่าตอนเด็กๆ เราไม่ได้ถูกเทรนมาให้เป็นศิลปิน ต้องเข้าใจว่าค่ายเบเกอรี่มีความเป็นเหมือนพี่น้องกันมากกว่า พอเป็นพี่น้อง ทุกคนก็ถูกเทรนให้รักกันเหมือนพี่น้อง ไม่ได้ถูกเทรนให้เป็นซูเปอร์สตาร์ที่จับต้องไม่ได้ เวลาไปร้องเพลงเราก็แค่สนุก เอ็นจอยกับมัน ไม่ได้ไปเพราะอยากเด่น หรืออยากชนะคนอื่น พอทุกอย่างมันเริ่มมาจากตัวเรา เริ่มมาจากคนในค่าย เวลาออกไปข้างนอกเลยมีความไม่มั่นใจ ไม่ค่อยเชื่อในบางสิ่งบางอย่างอยู่

แอนนี่: เป็นความรู้สึกงงๆ แบบแปลกๆ จะคิดกันตลอดเวลาไปแผงเทป ไปคอนเสิร์ตก็คิดว่าจะมีคนมาดูเราหรือเปล่า

กิ๊ฟท์: ทุกวันนี้ยังคิดอยู่เลย (หัวเราะ)

 

Cassette Festival Concert

 

ในช่วงหลังๆ ที่มีคอนเสิร์ตแนวรียูเนียน ศิลปินในยุคก่อนเกิดขึ้นเยอะมาก แต่ทำไมเรารู้สึกว่าไม่ค่อยได้เห็นวง H กลับมารวมตัวขึ้นเวทีกันแบบครบๆ บ้างเลย

กิ๊ฟท์: ครั้งสุดท้ายน่าจะเป็น The BoydKo Awards ประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว

พลอย: เพราะพลอยนิสัยไม่ดีเองค่ะ (หัวเราะ)

แอนนี่: ไม่หรอก บางทีก็เพราะเราด้วย ต่างคนอาจมีเหตุผลหรือติดภารกิจของตัวเอง แล้วเวลาไม่ตรงกัน ไหนจะเรื่องนัดคุย เรื่องซ้อมคิว การขึ้นคอนเสิร์ตแต่ละครั้งมันซับซ้อนนะ

พลอย: แอนนี่เขาตอบแบบน่ารัก (หัวเราะ) แต่สำหรับพลอย พลอยเป็นคนมีความมั่นใจในบางอย่างนะ แต่ถ้าเป็นเรื่องร้องเพลงหรือการขึ้นไปแสดงอะไรแบบนี้ มันเป็นบ้าอะไรไม่รู้ มันทั้งกลัว ทั้งอาย ไม่อยากขึ้น เหมือนเป็นโรคจิตเลย คือต้องเป็นคอนเสิร์ตที่รู้สึกว่ามีหลายคนที่ทำให้เรารู้สึกว่ามีความพิเศษได้จริงๆ ถึงจะขึ้น

 

อีกอย่างคือ พลอยอยากให้คนจดจำวง H แบบในยุคนั้นไปเลย เพราะคิดว่ามันพิเศษที่สุดแล้วที่คนจะจำเราในภาพที่น่ารักๆ แบบนั้น ตอนนี้ให้ไปเต้นอะไรแบบนั้นก็คงไม่ไหว ดูเก้ๆ กังๆ อันนี้คือความคิดของพลอยนะ แล้วพลอยก็จะปฏิเสธไปบ่อยมาก อย่างที่บอก นิสัยไม่ดี (หัวเราะ)  

 

Cassette Festival Concert

 

อย่างคอนเสิร์ต Cassette Festival ที่กำลังจะเกิดขึ้น มีความพิเศษอะไร ที่ทำให้ทุกคนยอมกลับมารวมตัวกันอีกครั้งได้

พลอย: อย่างแรกคือประชาธิปไตย 2 ต่อ 1 เสียง ปกติพลอยก็จะยังไม่ยอมนะ แต่ครั้งนี้ทีมงาน Atime Showbiz โทร.มาหา แล้วเป็นทีมที่พลอยมั่นใจว่าเขาต้องทำออกมาได้ดีอยู่แล้ว แล้วยิ่งดูชื่อศิลปินคนอื่นๆ ที่จะมาเล่นคอนเสิร์ตครั้งนี้ที่เป็นระดับตัวพ่อ ตัวแม่เยอะมาก มีคนที่เรารู้จัก และทำให้เชื่อได้ว่า คอนเสิร์ตนี้มันต้องสนุกจริงๆ

กิ๊ฟท์: อย่างกิ๊ฟท์จะชอบพี่แอนเดรีย (สวอเรซ) ชอบเพลง สบตา มาก เพราะจำได้ว่า เป็นเพลงที่เราใช้ประกวดร้องเพลงตั้งแต่เด็ก

พลอย: ของพลอยมีหลายคนมาก ทั้งพี่อ้อม พี่มอส พี่ทาทา หรือวง Zaza โอ๊ย ชอบทุกคน

แอนนี่: เราชอบพี่ตุ้ย (ธีรภัทร์ สัจจกุล) เพราะสมัยนั้นเขาหล่อมาก (หัวเราะ) ถือกีตาร์ออกมาเพลงเพราะๆ เท่ๆ นะ โห ในยุคนั้นถ้าจะให้นึกถึงคนอื่นที่เป็นแนวนี้แทบไม่มีเลย

 

Cassette Festival Concert

 

เคยได้ยินมาว่าพลอยถึงขนาดเคยร้องไห้เลย เวลามีคนเปิดเพลงของตัวเองขึ้นมาในห้องคาราโอเกะ

พลอย: ใช่ ไม่ชอบเลย เหมือนเป็นโรคจิตจริงๆ นะ อายมากทุกครั้งเลย คนอื่นเขาไม่เห็นมีใครเป็นแบบนี้กันเลย

กิ๊ฟท์: มีๆ แต่อาจจะไม่ถึงขนาดพลอย (หัวเราะ) มันเป็นเรื่องธรรมดาแหละ เวลาไปร้องคาราโอเกะแล้วเพื่อนก็จะเปิดเพลงให้เราร้องตลอดเหมือนกัน แต่เราจะปฏิเสธ ยังไงก็ไม่ร้องเหมือนกัน

พลอย: หรือเพราะตอนนั้นเราเด็กวะ พอมาตอนนี้ก็เลยเขิน

แอนนี่: บางทีเขาก็จะโดนลาก ดึงแขนเลยนะ ซึ่งเราก็จะสู้ด้วยการยืนยันอย่างเดียวว่า ไม่ก็คือไม่

พลอย: เออ กลายเป็นดุเฉยเลย (หัวเราะ)

กิ๊ฟท์: บางทีก็โกรธเลยนะ (หัวเราะ) แต่ในคอนเสิร์ตนี้แหละที่จะมาร้องให้ทุกคนฟังพร้อมกันอีกครั้งหนึ่ง

 

คลิปโปรโมตคอนเสิร์ต Cassette Festival

 

ภาพ: สุพัฒน์ ศิวะพรพันธ์

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

FYI
  • คอนเสิร์ต Cassette Festival จะขึ้น 3 รอบ ในวันที่ 24-26 พฤษภาคม ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ บัตรราคา 2,000-5,000 บาท ซื้อบัตรได้ Thaiticketmajor ทุกสาขา และ http://www.thaiticketmajor.com/concert/cassette-festival-2019-th.html
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising