‘คาลเท็กซ์’ ดึง ‘เพียวไทย’ เสริมทัพ บุกขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มทันทีอีก 78 แห่ง ส่งผลให้สิ้นปีนี้จะมีจำนวนสถานีบริการคาลเท็กซ์เพิ่มเป็น 528 แห่ง และยอดขายน้ำมันโตขึ้น 10% พร้อมตั้งเป้าขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มเป็น 800 แห่งใน 5 ปีข้างหน้า ดันมาร์เก็ตแชร์จากปัจจุบัน 5.3% เป็น 8% ซีอีโอมอง แม้การใช้รถยนต์ไฟฟ้าในไทยมีแนวโน้มเติบโต แต่ตลาดน้ำมันในไทยยังโตในอีกระยะยาว ขอวางแผนลงทุนไปพร้อมกันร่วมกับพันธมิตร
ชาแชงค์ นานาวาติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการพาณิชย์ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) ซึ่งมี บริษัท สตาร์ ฟูเอลส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เป็นบริษัทในเครือที่ได้รับสิทธิในการทำธุรกิจน้ำมันภายใต้ชื่อคาลเท็กซ์ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทเดินหน้าเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจขยายสถานีบริการน้ำมัน โดยจับมือ บริษัท เพียวพลังงานไทย จำกัด (เพียวไทย) ซึ่งดำเนินธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงมาเป็นพันธมิตร เพื่อเปิดให้บริการสถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์ ‘คาลเท็กซ์’ จำนวน 78 แห่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ ส่งผลให้จำนวนสถานีบริการคาลเท็กซ์จะเพิ่มขึ้นจาก 450 แห่งเป็น 528 แห่งทั่วประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เทียบชั้นธุรกิจน้ำมันในไทย 5 แบรนด์ใหญ่แข่งเดือด ใครเป็นใคร ปี 2567 มีกี่สถานีบริการ
- SPRC ปิดดีลซื้อกิจการ ‘คาลเท็กซ์’ จากเชฟรอน ด้วยเงินลงทุน 5.56 พันล้านบาท พ่วงหุ้น BAFS อีก 2.51% และหุ้นบริษัทท่อส่งปิโตรเลียมไทย 9.91%
- ปิดดีลประวัติศาสตร์! บางจากชำระค่าหุ้นเอสโซ่ 65.99% ทยอยรีแบรนด์ภายในสิ้นปีนี้ ขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจโรงกลั่นไทย
- ESSO ถึงตอนอวสาน 31 ส.ค. นี้ ปิดตำนาน 129 ปี ปั๊มน้ำมันสัญชาติอเมริกันในประเทศไทย สู่บทใหม่ที่ชื่อ ‘บางจาก’
“การขยายเพิ่ม 528 แห่ง ส่งผลให้ยอดขายของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงคาลเท็กซ์เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 10% ภายในสิ้นปีนี้” ชาแชงค์กล่าว
ทั้งนี้ เพียวไทยจะทยอยดำเนินการปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันเดิมภายใต้แบรนด์ ‘เอสโซ่’ เดิม มาเป็นสถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์ ‘คาลเท็กซ์’ ภายในเดือนกันยายน 2567 และคาดว่าจะแล้วเสร็จเต็มรูปแบบภายในเดือนมกราคม 2568
สำหรับแผน 5 ปี บริษัทตั้งเป้าขายเป็น 800 แห่ง แม้การแข่งขันสูง แต่ปัจจัยหลักๆ ชาแชงค์มองว่า ด้วยคุณภาพผลิตภัณฑ์น้ำมันและความต้องการใช้น้ำมันในไทยยังสูงในอีกระยะยาว ส่งผลให้ยอดขายน้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีมาร์เก็ตแชร์หรือส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันที่ 5.3% คาดว่าจะเพิ่มเป็น 8%
ขณะเดียวกัน คาลเท็กซ์ยังมุ่งเน้นการขยายบริการในส่วนของนอนออยล์ (Non-oil) โดยจะเพิ่มสัดส่วนให้เป็น 30% จาก 15% ของรายได้รวม รวมทั้งเพิ่มสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้มากขึ้น จากปัจจุบันมี 60 แห่ง ซึ่งในส่วนนี้คาลเท็กซ์มีพันธมิตรที่พร้อมขยายสถานีชาร์จต่อเนื่อง
“การที่คาลเท็กซ์มาอยู่ภายใต้ SPRC ทำให้บริษัทเป็นทีมเดียวกับโรงกลั่นฯ บริหารงานได้รวดเร็วทุกด้าน สะท้อนถึงความสำเร็จจากกลยุทธ์ทางธุรกิจ การตลาด และทำโปรโมชันเต็มรูปแบบอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มียอดขายของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเติบโตขึ้น” ชาแชงค์กล่าว
ชาแชงค์มองว่า นโยบายพลังงานที่ภาครัฐกำกับดูแล บริษัทพร้อมให้ข้อมูลถึงต้นทุน อย่างไรก็ตามขอให้พิจารณาถึงแผนการดำเนินการของภาคเอกชนที่ต้องมีผลกำไร โดยบริษัทย้ำว่ามีเป้าหมายลงทุนในไทยต่อเนื่อง
สมปรารถนา เจิมศิริวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการลงทุนและพัฒนาธุรกิจค้าปลีก SFL กล่าวว่า ธุรกิจ Non-oil มีการร่วมมือกับพันธมิตรและคู่ค้าที่หลากหลายมากขึ้น เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ศูนย์ซ่อมบำรุงและรักษารถยนต์
บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนร้านค้าให้ครอบคลุม 85% ของจำนวนสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ทั้งหมดภายในปี 2568 จากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 80%
สำหรับเพียวไทย เดิมเป็นผู้ให้บริการน้ำมันปั๊มเอสโซ่ อย่างไรก็ตาม หลังจากบางจากเข้าซื้อกิจการเอสโซ่ เพียวไทยย้ายค่ายมาจำหน่ายในนามคาลเท็กซ์