วันนี้ (1 ตุลาคม) รภัสสรณ์ นิยะโมสถ ผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล จังหวัดลำปาง ระบุว่า ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง มีน้ำป่าไหลหลากหนัก และน้ำท่วมสูงหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายกับบ้านเรือนประชาชนอย่างมาก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ก้าวไกล ในภาคเหนือได้พยายามทำเต็มที่ในการประสานความช่วยเหลือให้กับประชาชนในพื้นที่
พบว่าตอนนี้การช่วยเหลือแม้จะเป็นไปอย่างสุดความสามารถแต่ก็ยังน่ากังวล เพราะสัปดาห์หน้าไทยจะเจออิทธิพลจากพายุหมุนเขตร้อนโคอินุในช่วงปลายสัปดาห์ ทำให้หลายพื้นที่อาจประสบปัญหาอุทกภัยอีก
รภัสสรณ์กล่าวย้ำว่า อยากให้รัฐบาลเร่งเตรียมความพร้อมล่วงหน้าและมีระบบเตือนภัยที่ทั่วถึง ไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนเผชิญน้ำท่วมตามบุญตามกรรม
“สถานการณ์ปัจจุบันที่มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 10 อ่าง ที่มีปริมาณน้ำใกล้เคียงกับความจุกักเก็บและเกณฑ์การระบายแล้ว และยังมีอ่างเก็บน้ำขนาดกลางอีก 151 แห่งทั่วประเทศที่มีน้ำเต็มความจุแล้ว และอีก 100 แห่งที่ใกล้เคียงกับความจุ (เกิน 80% ของความจุ) เห็นได้ชัดว่าน้ำอาจท่วมใหญ่ในอีกหลายพื้นที่ รัฐบาลต้องมีการเตือนภัยและเตรียมความพร้อมดูแลประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำเหล่านี้ รวมถึงเร่งประกาศเขตภัยพิบัติให้ครอบคลุม เตรียมการชดเชยเยียวยาอย่างทั่วถึง เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับเงินล่าช้า” รภัสสรณ์กล่าว
ด้าน คริษฐ์ ปานเนียม สส. พรรคก้าวไกล จังหวัดตาก ระบุว่า ภาวะอุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ได้ทำให้ภาวะการขาดแคลนน้ำที่อาจเกิดขึ้นในช่วงฤดูแล้งต้นปี 2567 ผ่อนคลายลง เพราะปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางในฤดูฝนปี 2566 (จนถึง 30 กันยายน) ยังมีเพียง 21,582 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเพียงประมาณ 60% ของปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำในฤดูฝนตามปีปกติ (หรือค่าเฉลี่ย 35,492 ล้านลูกบาศก์เมตร) เพราะฉะนั้น การบริหารจัดการน้ำเพื่อรับมือกับสถานการณ์เอลนีโญจึงยังคงมีความสำคัญต่อไปด้วย
