วันนี้ (16 กุมภาพันธ์) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี เตรียมเดินทางลงพื้นที่จังหวัดพัทลุงและสงขลา ระหว่างวันจันทร์และอังคารที่ 17-18 กุมภาพันธ์นี้ โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งแรกของปี 2568
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงลงพื้นที่ตรวจราชการ รับฟังปัญหาเพื่อผลักดันนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่ต่างๆ ของภาคใต้ เช่น การพัฒนาการเกษตรสู่เกษตรสมัยใหม่ และเกษตรมูลค่าสูง (ด้านพืช, ประมง, ปศุสัตว์, สมุนไพร และไม้เศรษฐกิจ) รวมทั้งการท่องเที่ยว และท่องเที่ยวชุมชน สู่การท่องเที่ยวมูลค่าสูงอย่างยั่งยืน
ทั้งการพัฒนาอุตสาหกรรม เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) การค้า การลงทุน และการค้าชายแดน เพื่อยกระดับเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัด รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งโลจิสติกส์ เครือข่ายการสื่อสาร และพลังงาน เพื่อเป็นฐานการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของกลุ่มจังหวัดภาคใต้เพื่อการพัฒนาสังคม สู่สังคมเป็นสุขและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน พร้อมทั้งติดตามการฟื้นฟูอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้อีกด้วย
สำหรับกำหนดการการปฏิบัติงานภารกิจนั้น นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ โดยในวันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.30 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานตรัง ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง และเดินทางต่อไปที่จังหวัดพัทลุง โดยเวลาประมาณ 13.00 น. นายกรัฐมนตรีจะติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ที่จุดชมวิวทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ซึ่งจุดนี้จะมองเห็นทะเลน้อยและทะเลสาบสงขลา เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำในยามน้ำแล้งหรือน้ำท่วม เพื่อบริหารให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ไม่ให้ได้รับผลกระทบทั้งน้ำท่วมน้ำแล้งอีกต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้
ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังบริษัท ไทยยูเนี่ยน ซีฟู๊ด จำกัด ที่อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เพื่อพูดคุยรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะ ในกระบวนการผลิตและส่งออกอาหารทะเลของไทย เพื่อนำมาปรับปรุงนโยบายต่างๆ ของทางราชการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสินค้าประมงของไทยที่กำลังได้รับความนิยมจากตลาดโลก จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปรับฟังแนวทางการสนับสนุนการท่องเที่ยวในเมืองน่าเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาลที่ชุมชนเมืองเก่าสงขลา และพูดคุยประเด็นการส่งเสริมหรือเปิดสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสงขลา ที่บริเวณเมืองเก่าสงขลา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา
ขณะที่กำหนดการในวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 10.00 น. นายกรัฐมนตรีจะประชุมคณะรัฐมนตรีทั้งคณะอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ที่ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
จากนั้นในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังด่านศุลกากรสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนระหว่างไทยกับมาเลเซีย และติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ของประเทศมาเลเซีย เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นช่องทางการส่งออกและนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยไปยังมาเลเซีย ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนมอเตอร์เวย์ของมาเลเซีย ที่เดินทางไปยังเมืองปีนัง และไปถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ต่อเนื่องไปถึงเมืองโจโฮร์บะฮ์รู ชายแดนมาเลเซีย สิงคโปร์ ได้อีกด้วย
ตัวอย่างผ้าบาติก ‘ลายสมิหลา’ แรงบันดาลใจจากเงือกทอง สัญลักษณ์คู่เมือง
ที่คณะรัฐมนตรีจะสวมใส่ใน ครม.สัญจรครั้งแรกของปี 2568 ที่จังหวัดสงขลา
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะรัฐมนตรีทั้งคณะอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทั้งหมดจะสวมใส่ผ้าบาติก ‘ลายสมิหลา’ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปปั้นนางเงือกทอง ณ ชายหาดสมิหลา อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสงขลา ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติแวะเวียนมาเช็กอินกันอย่างไม่ขาดสาย สีสันลวดลายบนผืนผ้ามาจากการผสมผสานระหว่างรูปปั้นนางเงือกทองและท้องทะเล รังสรรค์โดยกลุ่ม ‘มีดี นาทับ’ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา และตัดเย็บโดยร้านวินเนอร์สงขลา
สำหรับกระบวนการผลิตยังได้นำเทคนิคการลงเกลือทะเลถึง 3 ชั้น เพื่อให้ผืนผ้ามีความสดใสเหมือนท้องทะเลและสีติดทนนาน ใครได้สวมใส่ผ้าผืนนี้เสมือนได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศท้องทะเลที่งดงาม และเสียงเกลียวคลื่นกระทบฝั่งของชายหาดสมิหลา โดยกลุ่มมีดี นาทับ ผู้รังสรรค์ผ้าผืนนี้ เป็นกลุ่มที่ได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการประกวดผ้าบาติกระดับประเทศ 3 ปีซ้อน สำหรับการผลิตผ้าบาติกลายสมิหลาครั้งนี้ เป็นการแสดงถึงความภาคภูมิใจของชาวสงขลา ที่ได้รับเกียรติจากรัฐบาลใช้เป็นสถานที่ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่เป็นครั้งแรกของปี 2568