×

นักวิเคราะห์มอง ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ ขายหุ้น BYD เพื่อ ‘ทำกำไร’ จากพอร์ตที่เติบโตจนมีมูลค่า 3 แสนล้าน และเชื่อว่าในอนาคตจะขายออกมาอีก

03.09.2022
  • LOADING...
วอร์เรน บัฟเฟตต์

ข่าวที่ใหญ่สุดในอุตสาหกรรมรถยนต์ของแดนมังกรในเวลานี้คงหนีไม่พ้นการที่ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ ตัดสินใจขายหุ้น BYD ที่ถือมาหลายปีกับการเติบโตหลัก ‘พันเปอร์เซ็นต์’ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าขายเพื่อ ‘ทำกำไร’ และอาจขายอีกในอนาคต

 

สำหรับ BYD ด้วยผลกำไรที่เพิ่มขึ้น 3 เท่า และมีส่วนแบ่งเกือบ 30% ในตลาดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังขยายตัวของจีน ทำให้นี่ยังเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแรง

 

Berkshire Hathaway บริษัทด้านการลงทุนของบัฟเฟตต์ ทำเงินได้หลายพันล้านดอลลาร์จากการถือครอง นับตั้งแต่เขาลงทุนไปราว 230 ล้านดอลลาร์ในปี 2008 มูลค่าหุ้นตอนนี้มีมูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 3 แสนล้านบาทด้วยกัน

 


บทความที่เกี่ยวข้อง:


 

“Berkshire ได้รับประโยชน์อย่างมากจากสิ่งที่ BYD ทำ พวกเขาทำเงินได้อย่างยอดเยี่ยม” โคล สมีด ประธานบริษัทการลงทุน Smead Capital Management กล่าว

 

วันที่ 31 สิงหาคม หุ้น BYD ร่วงลง 7.9% ในฮ่องกง ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในรอบ 7 สัปดาห์ และเป็นผลงานที่แย่ที่สุดในดัชนี Hang Seng หลังจาก Berkshire ได้แจ้งตลาดว่าลดครองการถือหุ้น BYD ลงเหลือ 19.92% จาก 20.04%

 

บัฟเฟตต์ ผู้ที่มักจะลงทุนโดยมุ่งเน้นไปที่มูลค่าที่แท้จริงในระยะยาว ซึ่งมีเป้าหมายในการซื้อหุ้นในบริษัทที่ดีในราคาที่เหมาะสม ด้วยวิธีนี้นักลงทุนจึงหลีกเลี่ยงบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วด้วยหุ้นราคาแพงและความผันผวนของตลาด 

 

อย่าง Berkshire ถือหุ้นใน Coca-Cola และ American Express มานานหลายทศวรรษ ซึ่งกลยุทธ์นี้ทำให้หุ้นที่ซื้อโดย Berkshire มีผลงานที่ดีกว่าดัชนี S&P 500

 

นักวิเคราะห์มองว่าการขายหุ้นของ Berkshire อาจเกิดขึ้นเพราะมีการประเมินถึงมูลค่าที่อยู่เหนือราคาที่แท้จริง ซึ่งอาจดีกว่าหากขายหุ้นออก เมื่อดูจากราคาหุ้นของ BYD เพิ่มขึ้น 31% ในปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 423% ในปี 2022

 

หุ้นที่พุ่งทะยานของ BYD นั้นได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของจีน จากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลเป็นรถยนต์ไฟฟ้า BYD ยังผลิตเซมิคอนดักเตอร์ และปัจจุบันเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก โดยคิดเป็น 14% ของตลาด

 

นักวิเคราะห์มองอีกว่า Berkshire อาจทยอยขายหุ้น BYD ออกมาอีก แต่คงไม่ขายทีเดียวทั้งหมด ด้วยคงไม่ดีในสายตาของหน่วยงานกำกับดูแลของจีน ที่การขายหุ้นจำนวนมากของบัฟเฟตต์จะเข้ามาทำลายตลาด ซึ่งหากต้องการลงทุนในแดนมังกรต่อไป การทยอยขายจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด 

 

รายงานของ Bloomberg ระบุว่า ชาร์ลี มังเกอร์ กูรูนักลงทุนระดับตำนาน ทั้งยังเป็นคู่หูคนสนิทของบัฟเฟตต์ ยังคงเชื่อมั่นในจีน แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งและวอชิงตันจะเลวร้ายลงก็ตาม

 

ในการประชุมประจำปีของ Berkshire มังเกอร์กล่าวว่าเขาลงทุนในประเทศนี้เพราะเขา “เต็มใจที่จะเสี่ยงเล็กน้อยเพื่อเข้าสู่บริษัทที่ดีกว่าในราคาที่ต่ำกว่า”

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าชะตากรรมของหุ้น BYD จะขึ้น-ลงเป็นรถไฟเหาะ แต่คงไม่กระทบกับ Berkshire มากนัก เพราะมีการประเมินว่า BYD คิดเป็นสัดส่วนแค่ 2% ของทั้งพอร์ต

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising