รู้จัก BYD แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าชื่อนี้ ที่ Tesla อยากได้ และกำลังจะเข้ามาทำตลาด

จากกระแสข่าว การจะเข้ามาทำตลาดของ BYD ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ทำให้ชื่อของแบรนด์ BYD กลายเป็นจุดสนใจอีกครั้ง ซึ่งต้องยอมรับว่า ชื่อของ BYD ในไทย แม้จะยังไม่ดังเทียบเท่าแบรนด์รถยนต์อื่นๆ แต่พอคุ้นหูอยู่บ้าง ดังนั้นบทความนี้จึงเกิดขึ้นมาสำหรับผู้ที่อยากรู้จักเข้าใจเกี่ยวกับ BYD ให้มากขึ้น

เริ่มต้นจากธุรกิจแบตเตอรี่

BYD ก่อตั้งขึ้นในประเทศจีนเมื่อปี 1995 โดยชื่อของ BYD ย่อมาจากคำว่า Build Your Dreams แรกเริ่มเป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับการผลิตแบตเตอรี่และผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัวเรีอน

ต่อมาได้ขยับขยายสู่การเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต และแล็ปท็อป ให้กับแบรนด์ต่างๆ เช่น Apple, Dell, Samsung, Toshiba, Motorola และอื่นๆ อีกมากมาย

หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ BYD เดินหมากก้าวสำคัญด้วยการรุกเข้ามาในธุรกิจยานยนต์ในชื่อ BYD Motor เมื่อปี 2003 ด้วยแนวคิดการเป็นยานยนต์พลังงานสะอาด โดยมีการผลิตทั้งรถยนต์, รถบัส, รถบรรทุก และรถรถยก (Forklift) รวมถึงขยายสู่การผลิต โซลาร์เซลล์และระบบแบตเตอรี่เก็บพลังงานสำรอง จวบจนถึงปัจจุบัน

จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้แบรนด์ BYD เฉิดฉายเป็นที่รู้จักในเวทีระดับโลก คือการที่ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ มหาเศรษฐีนักลงทุนระดับตำนาน เข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของ BYD ตั้งแต่ปี 2008

และชื่อของ BYD กระหึ่มอีกครั้งเมื่อราวหนึ่งปีก่อนมีข่าวลือว่า Tesla ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ต้องการให้ BYD ผลิตแบตเตอรี่ให้ เนื่องจาก BYD ได้คิดค้นแบตเตอรี่แบบใหม่สำเร็จในชื่อ Blade Battery ซึ่งว่ากันว่า แบตเตอรี่ชนิดนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากเก็บประจุไฟฟ้าได้มากกว่าและปลอดภัยกว่าแบตเตอรี่ปัจจุบัน

เหนือสิ่งอื่นใด รายงานข่าวล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ BYD รายงานตัวเลขยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022 มีจำนวน 641,000 คัน แซงหน้า Tesla ที่มียอดจำหน่าย 564,000 คัน ขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลกได้ อย่างไรก็ตามยอดขายดังกล่าวเป็นเพียงช่วงระยะเวลาครึ่งปีแรกเท่านั้น ยังต้องรอดูจนกว่าจะถึงสิ้นปีว่าแท้จริงแล้วใครจะเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากันแน่

กำลังจะเข้ามาในไทย

เราได้เห็นภาพใหญ่ของ BYD ในระดับโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กลับมาดูในส่วนของ BYD ในประเทศไทยกันบ้าง

แท้จริงแล้ว หากยังจำกันได้ BYD เคยทำตลาดในประเทศไทยมาแล้วถึง 2 ครั้งใหญ่ โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2015 เป็นการร่วมมือกับ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวรถยนต์นั่งรุ่น E6 และรถบัสรุ่น K9 เพื่อทำตลาด แต่แล้วก็เงียบหายไป โดยไม่มีรายงานว่ามีการนำเข้ามาจำหน่ายหรือไม่ประการใด

จนกระทั่งต่อมาในปี 2018 มีการรายงานข่าวผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมทุนกับ บริษัท ชาริช โฮลดิ้ง จำกัด ที่บริหารงานโดยหนึ่งในทายาทของตระกูลยนตรกิจ ได้สิทธิ์ในการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ BYD โดยทำตลาดรุ่น E6 ซึ่งมีการจำหน่ายไปได้ราว 100 คันเพื่อเป็นแท็กซี่ ก่อนที่จะยุติการทำตลาดไปอย่างเงียบๆ มิได้มีการเปิดเผยถึงเหตุผลในการเลิกทำตลาดแต่อย่างใด

ล่าสุด BYD ได้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง โดยคราวนี้ข้อมูลเบื้องต้นจะเป็นการร่วมมือกับทางกลุ่มสยามกลการอุตสาหกรรมที่นำทีมโดย ประธานวงศ์ พรประภา ทายาทรุ่นที่ 4 ของกลุ่มสยามกลการ โดยจะเป็นการนำเข้ามาทำตลาดในหลากหลายโมเดลมากกว่าเดิมที่มีเพียงรุ่น E6 เท่านั้น

ทั้งนี้ ในเชิงความสัมพันธ์แล้วทางกลุ่มสยามกลการอุตสาหกรรม มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ BYD เนื่องจากได้สิทธิ์ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถโฟร์กลิฟต์ไฟฟ้าและกลุ่มสินค้าด้านการจัดการพลังงานไฟฟ้าของ BYD ตั้งแต่อปี 2016 โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า BYD Thailand

การบุกเบิกรุกตลาดเมืองไทยในคราวนี้ ดูจากทิศทางของตลาดและการตอบรับที่ดีของประชาชนชาวไทยที่มีต่อยานยนต์ไฟฟ้า จึงน่าจะมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า BYD จะประสบความสำเร็จในด้านยอดขายมากกว่าอดีตที่ผ่านมา ส่วนจะจับมือยืนหยัดลงหลักปักฐานอยู่ได้นานแค่ไหน เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์

หมายเหตุ: วอร์เรน บัฟเฟตต์ ลงทุนใน BYD ผ่านทาง Berkshire Hathaway โดยถือหุ้นเป็นจำนวน 225,000,000 หุ้น เมื่อเปรียบราคาย้อนหลัง 5 ปีของหุ้น BYD มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาแล้ว 450%

บทความที่เกี่ยวข้อง

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH