วันนี้ (29 ตุลาคม) จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานที่กรุงเทพมหานครเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนในปี 2568
จิรายุกล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลของสาธารณรัฐประชาชนจีนเคยอนุญาตให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง ไปประดิษฐานในประเทศต่างๆ แล้ว 6 ครั้ง โดยอัญเชิญมาประดิษฐาน ณ พุทธมณฑล ที่ประเทศไทยครั้งแรกในปี 2545 ในสมัยรัชกาลที่ 9 ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญ เป็นสิริมงคลยิ่งต่อพุทธศาสนิกชนไทย-จีน โดยทั้งสองประเทศต่างมีพระพุทธศาสนาเป็นที่ยึดโยงจิตใจ และเป็นรากฐานสำคัญทางวัฒนธรรม
ทั้งนี้ รัฐบาลเชื่อมั่นว่าการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานที่ประเทศไทยในครั้งนี้ จะช่วยสานต่อมิตรภาพอันยาวนานระหว่างไทย-จีนให้แน่นแฟ้น โดยผ่านสายสัมพันธ์ทางพระพุทธศาสนา และผลักดันการเสริมสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างไทย-จีน พร้อมส่งเสริมในคำว่า ‘ไทย-จีนใช่อื่นไกล พี่น้องกัน’ ให้ยิ่งหยั่งลงรากลึกในจิตใจ จึงขอเชิญชวนประชาชนไปร่วมนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ