เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวานนี้ (19 สิงหาคม) บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เปิดเผยว่า ตามที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งตามศาลปกครองชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีข้อหาที่ BTSC ฟ้องให้เพิกถอนหลักเกณฑ์การร่วมลงทุนของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม
โดยกรณีนี้เป็นเพียงการจำหน่ายคดีบางส่วนเท่านั้น ซึ่งเหลืออีก 2 คดีที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลคือ 1. ขอให้ศาลสั่งให้ รฟม. ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 5 แสนบาทแก่ BTSC จากการจ้างที่ปรึกษาทางด้านเทคนิคในการยื่นประกวดราคาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และ 2. ฟ้องร้อง รฟม. เพิ่มเรื่องยกเลิกการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มโดยมิชอบ
ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองถูกเลื่อนกำหนดการเปิดให้บริการออกไปเป็นภายในปี 2565 เนื่องจากการระบาดของโควิด และมาตรการควบคุมของภาครัฐบาลส่งผลให้การก่อสร้างหยุดชะงัดลง สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว BTS ได้ยื่นฟ้องคดีเกี่ยวกับหนี้มูลค่า 3 หมื่นล้านบาทของ กทม. ต่อศาลแล้ว
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (20 สิงหาคม) ราคาหุ้น BTS ปรับตัวขึ้น 2.27%DoD สู่ระดับ 9.00 บาท สอดคล้องกับ SET Index ที่ปรับตัวขึ้น 7.57 จุดหรือ 0.49%DoD สู่ระดับ 1,551.85 จุด (ข้อมูล ณ เวลา 12.30 น.)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS มีมุมมองเป็นกลางต่อ BTS ในประเด็นศาลปกครองสูงสุดสั่งจำหน่ายคดีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เนื่องจากยังมีอีก 2 คดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาซึ่งยังคงต้องติดตามต่อไป
ด้านแนวโน้มกำไรปกติ 2QFY65 ของ BTS SCBS คาดว่าจะลดลง QoQ แต่ทรงตัว YoY เนื่องจากจะไม่มีรายได้จากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง (70% ของรายได้จากการดำเนินงานใน 1QFY65) ในเดือนกรกฎาคม โดยมีสาเหตุมาจากมาตรการล็อกดาวน์ แม้ว่ากลับมาดำเนินการก่อสร้างได้แล้วในเดือนสิงหาคม
นอกจากนี้ กทม. ยังขอให้ BTS ลดจำนวนเที่ยววิ่งสำหรับส่วนต่อขยายสายสีเขียวในช่วงล็อกดาวน์ โดยผู้บริหารเปิดเผยว่า การลดจำนวนเที่ยววิ่งจะส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อรายได้ O&M (ซึ่งคิดเป็น 20% ของรายได้จากการดำเนินงานใน 1QFY65) รายได้ E&M สำหรับส่วนต่อขยายสายสีเขียวจะลดลง QoQ เนื่องจากการพัฒนาโครงการนี้ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว
มุมมองระยะยาว:
SCBS คาดว่าผลการดำเนินงานของ BTS จะสามารถฟื้นตัวสู่ระดับก่อนโควิดระบาดได้ในปี FY2566 (เมษายน 2565 ถึง มีนาคม 2566) โดยแนวโน้มในระยะยาวยังคงเป็นบวกเนื่องจากมีโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลายโครงการที่จะเปิดประมูล เช่น รถไฟฟ้าและมอเตอร์เวย์ ซึ่ง BTS มีโอกาสชนะการประมูล นอกจากนี้ BTS ยังมีอีกหลายโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างซึ่งจะช่วยหนุนให้กำไรของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับประเด็นที่ต้องจับตาในปี FY2565 คือการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นสำคัญต่อแนวโน้มผลประกอบการระยะยาว ซึ่งปัจจุบันไทม์ไลน์ยังไม่ชัดเจน
