วันนี้ (17 กุมภาพันธ์) บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส กรุ๊ป รายงานผลประกอบการรวม 9 เดือนของปี 2562/63 จำนวน 32,288 ล้านบาท ลดลง 16.7% หรือ 6,459 ล้านบาท
ปัจจัยหลักมาจากการลดลงของรายได้จากการให้บริการรับเหมาติดตั้งและก่อสร้าง และจัดหารถไฟฟ้าจำนวน 8,954 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการรับรู้รายได้งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองที่ลดลง
แต่การลดลงของรายได้ถูกชดเชยด้วย
1. การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการบริการและการขาย 1,798 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของรายได้ในธุรกิจขนส่งมวลชน (โดยเฉพาะการให้บริการเดินรถ) ธุรกิจสื่อโฆษณาและธุรกิจบริการ
2. การเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยรับ 495 ล้านบาท
3. เงินปันผลรับที่เพิ่มขึ้น 308 ล้านบาท
กำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ย และภาษี (Operating EBITDA) เพิ่ม 29.6% เป็น 5,730 ล้านบาท และกำไรสุทธิ (หลังหักส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย) อยู่ที่ 4,431 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,385 ล้านบาท หรือ 106.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ตัวเลขที่หวือหวานี้เกิดจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในธุรกิจขนส่งมวลชนและธุรกิจสื่อโฆษณา และการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรสุทธิจากเงินลงทุนในบริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) จากการบันทึกกำไร 1,118 ล้านบาทที่ยู ซิตี้ ขายบริษัท หมอชิตแลนด์ จำกัด แม้ว่าค่าใช้จ่ายทางการเงินและค่าใช้จ่ายทางภาษีสูงขึ้นก็ตาม
เฉพาะไตรมาส 3 ปี 2562/63 บีทีเอส กรุ๊ป มีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 11,069 ล้านบาท โดยมีรายได้จากธุรกิจระบบขนส่งมวลชน 8,659 ล้านบาท คิดเป็น 78% ของรายได้รวม ด้านรายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) เพิ่มขึ้น 67% เป็น 942 ล้านบาท ส่วนธุรกิจสื่อโฆษณาเติบโต 25% เป็น 1,867 ล้านบาท รวมๆ แล้วไตรมาสนี้มีกำไรสุทธิ 2,460 ล้านบาท เติบโต 107%
บีทีเอส กรุ๊ป ยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายการให้บริการระบบขนส่งมวลชนอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากการเปิดให้บริการสถานีห้าแยกลาดพร้าวในเดือนสิงหาคม 2562 ได้เปิดให้บริการเพิ่มอีก 4 สถานีของโครงการส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือไปเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562
นอกจากนี้ยังตั้งเป้าที่จะเปิดให้บริการเพิ่มอีก 4 สถานีในเดือนมิถุนายนนี้ และคาดว่าจะเปิดให้บริการแบบเต็มสายทั้งหมด 16 สถานีภายในปีนี้ คาดว่าการเปิดให้บริการสถานีใหม่เพิ่มเติมจะช่วยดันรายได้การให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
