ปี 2561 ถือเป็นปีที่มีความสำคัญและมีความหมายสำหรับอาร์เอสอย่างมาก เพราะถือเป็นจุดเปลี่ยนของธุรกิจกว่า 35 ปี ด้วยการก้าวเข้าสู่ธุรกิจพาณิชย์อย่างสมบูรณ์ ถือเป็นการเริ่มต้น ‘ยุคใหม่’ ภายใต้ Business Model ใหม่ด้วยธุรกิจ Multi-platform Commerce (MPC) สร้างธุรกิจในลักษณะ D to C (Direct to Customer) ปรับโครงสร้างบริหารธุรกิจดั้งเดิมอย่างมิวสิกสู่ธุรกิจมีเดียที่แข็งแรงและมีความชำนาญ พร้อมต่อยอดแพลตฟอร์มหน้าจอช่อง 8 จนสามารถสร้างรายได้และผลกำไรของบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดและความแข็งแรงในระยะยาว อาร์เอสจึงเปิดกว้างเปิดรับพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาช่วยขยายธุรกิจในแนวราบ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ
จึงเป็นที่มาของการจับมือกับบีทีเอสที่มีธุรกิจหลากหลายในมือ ทั้งธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์ ซึ่งจะเข้ามาช่วย Synergy ทางธุรกิจ โดยเชื่อมโยงฐานข้อมูลลูกค้าในการเข้าถึงสินค้าและบริการต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การขยายฐานรายได้ของอาร์เอสให้เติบโตสู่เป้าหมาย 1 หมื่นล้านในปี 2565 ตามแผนที่วางไว้
ปัจจุบันบีทีเอสให้บริการผู้โดยสารถึงเกือบ 1 ล้านเที่ยวคนต่อวัน และคาดว่าจะสามารถเพิ่มเส้นทางให้บริการจาก 48.9 กิโลเมตรในปัจจุบัน เป็น 133.4 กิโลเมตรภายในปี 2564 และ VGI บริษัทในกลุ่มซึ่งมี 3 แพลตฟอร์มหลัก ได้แก่ ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านที่มีมูลค่าสื่อกว่า 12,000 ล้านบาท, ธุรกิจบริการชำระเงินผ่านแรบบิทกรุ๊ป มีผู้ใช้กว่า 18 ล้านคน และธุรกิจโลจิสติกส์ที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงได้กว่า 1.2 ล้านคนต่อวัน
ขณะที่อาร์เอสได้โฟกัสในธุรกิจ Multi-platform Commerce (MPC) ที่สามารถเข้าถึงลูกค้ากว่า 1.2 ล้านคน ซึ่งสามารถสร้างยอดขายกว่า 2,100 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ภายหลังการเข้าถือหุ้นของ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) สำหรับการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจนั้นจะไม่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ต่อการบริหารงานของบริษัท รวมถึงโครงสร้างการถือหุ้นของ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 เช่นเดิม
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
