‘บรูโน แฟร์นันด์ส’ ความพยายามครั้งล่าสุดของปีศาจแดงที่ใกล้สมหวัง?

ในขณะที่ผลงานในสนามของทีม ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้แฟนๆ กลับมามีรอยยิ้มได้อีกครั้งหลังไล่ถล่มนอริช ซิตี้ ทีมบ๊วยของพรีเมียร์ลีกขาดลอยถึง 4-0 ซึ่งเป็นหนึ่งในเกมที่พวกเขาทำผลงานได้น่าประทับใจมากที่สุด โดยเฉพาะ มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวยิงเบอร์หนึ่งของทีมที่ทำคนเดียว 2 ประตูฉลองการลงเล่นครบ 200 นัดให้ต้นสังกัด

แต่ในอีกด้าน ความพยายามในการเสริมความแข็งแกร่งให้ทีมสามารถแข่งขันเพื่อกลับมามีลุ้นทำอันดับไปรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอีกครั้งยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาปรากฏข่าวว่าแชมป์พรีเมียร์ลีก 20 สมัยได้พยายามเดินหน้าในการเจรจาคว้าตัว บรูโน แฟร์นันด์ส กองกลางจอมทัพของทีมสปอร์ติง ลิสบอน มาร่วมทีมอีกครั้ง

โดยความพยายามครั้งนี้เป็นความพยายามอย่างจริงจัง และเหล่าผู้บริหารระดับสูงของสโมสร นำโดย เอ็ด วูดเวิร์ด ต้องการที่จะคว้าตัวกองกลางที่เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดของโปรตุเกสมาร่วมทีมให้ได้อีกครั้ง หลังจากที่เคยพยายามมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อตลาดการซื้อขายในฤดูร้อน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และออกข่าวว่าเลิกให้ความสนใจในตัวแฟร์นันด์สโดยให้เหตุผลว่า “เสียการครองบอลง่ายเกินไป”

สำหรับครั้งนี้กระแสข่าวเริ่มจากการที่สื่อท้องถิ่นในโปรตุเกส ไม่ว่าจะเป็น A Bola, O Jogo และ Record รายงานทิศทางค่อนข้างชัดเจนไปในทางเดียวกันว่าทางด้านทีมดังของอังกฤษติดต่อทาบทามอย่างจริงจัง โดยที่ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีม และไมค์ ฟีแลน มือขวา ได้เดินทางไปเช็กฟอร์มของกองกลางวัย 25 ปีด้วยตัวเองมาแล้วด้วย

อันที่จริงนอกเหนือจากรายของแฟร์นันด์สยังมีชื่อของ เจมส์ แมดดิสัน จอมทัพของเลสเตอร์ ซิตี้, จาดอน ซาโช จอมพลิ้วของทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ปรากฏในข่าวด้วย แต่โอกาสในการย้ายทีมแทบเป็นไปไม่ได้ ทำให้ต้องหันมาหากองกลางของสปอร์ติง ลิสบอน ที่มีความเป็นไปได้มากกว่าแทน

จากนั้นสถานการณ์มีความคืบหน้าตามลำดับ โดยแม้ว่าจะติดขัดในการเจรจาช่วงแรก เนื่องจากทางด้านสปอร์ติง ลิสบอน ต้องการค่าตัวจากการย้ายทีมของกัปตันทีมคนเก่งมากถึง 70 ล้านยูโร และไม่สนใจข้อเสนอจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องการจะส่งผู้เล่นมาแลกตัวด้วย 2 ราย ซึ่งทำให้การเจรจาเป็นไปอย่างยากลำบากและทำให้ล่าช้า เพราะต้องมีการประสานผลประโยชน์กับหลายฝ่าย

แต่ล่าสุดดูเหมือนทุกอย่างกำลังจะจบลง โดยมีรายงานข่าวจากสถานีโทรทัศน์ TVI24 ในโปรตุเกสว่าขณะนี้สปอร์ติง ลิสบอน และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บรรลุข้อตกลงในการย้ายทีมของแฟร์นันด์สได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

โดยค่าตัวในการย้ายทีมอยู่ที่ 51 ล้านปอนด์ และมีเงื่อนไขในการจ่ายโบนัสต่างๆ บรรจุรวมไปด้วย ขณะที่เขาจะได้รับค่าตอบแทนในการย้ายมาเล่นที่โอลด์แทรฟฟอร์ดปีละ 5 ล้านยูโรหลังหักภาษีแล้ว

TVI24 ยังเผยแพร่ภาพของแฟร์นันด์สที่ได้บอกลาแฟนบอลนอกสนามหลังจบเกมที่บุกไปเอาชนะวิตอเรีย เซตูบัล 3-1 ซึ่งเกมนี้เขาทำคนเดียว 2 ประตู และมีการฉลองประตูด้วยการทำท่าทางปิดหูจนกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลว่าเป็นการสื่อถึงอะไรหรือไม่

อย่างไรก็ดี ทางด้านสื่ออื่นยังไม่มีการระบุชัดเจนว่าการย้ายทีมได้เสร็จสิ้นแล้ว โดย Record ระบุว่าการเจรจายังไม่เสร็จสิ้น แต่คาดว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์นี้ ขณะที่ O Jogo ระบุว่าข้อตกลงทั้งหมดจะอยู่ที่ราว 70 ล้านยูโร โดยสปอร์ติง ลิสบอน ต้องการได้ มาร์กอส โรโฮ กองหลังทีมชาติอาร์เจนตินารวมอยู่ในการเจรจาด้วย แต่อาจจะสู้ค่าเหนื่อยไม่ไหว และให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วยเหลือค่าเหนื่อยบางส่วน 

ส่วนทางด้าน A Bola เชื่อว่าการเจรจาใกล้ลุล่วงแล้ว แต่ที่น่าจับตามองคือแฟร์นันด์สจะได้ลงเล่นในเกมสำคัญที่สปอร์ติง ลิสบอน จะเปิดศึกดาร์บีเมืองลิสบอนกับเบนฟิกาในคืนวันศุกร์นี้หรือไม่

ด้านสปอร์ติง ลิสบอน หรือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีการกล่าวถึงการย้ายทีมแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้ต้องติดตามต่อว่าการย้ายทีมจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ซึ่งหากเป็นไปตามนั้นจริงก็จะถือเป็นการปิดฉากหนึ่งในมหากาพย์การย้ายทีมที่ยืดเยื้อมายาวนานหลายเดือน

กองกลางสมองเพชรผู้มีหัวใจทองคำ

บรูโน แฟร์นันด์ส เป็นหนึ่งในกองกลางชั้นนำของยุโรปในปัจจุบันที่เป็นที่ชื่นชอบและหมายตาของสโมสรดังมากมาย

ด้วยสไตล์การเล่นในแบบเพลย์เมกเกอร์สมัยใหม่ที่มีความสามารถขับเคลื่อนทีมได้อย่างยอดเยี่ยม มีไหวพริบ ฉลาด และมีทีเด็ดที่เหนือกว่าคนอื่นในเรื่องของความสามารถในการทำประตู และการทำแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมที่มีสถิติค่อนข้างสูง เฉพาะในฤดูกาลนี้ลงเล่นไปแล้ว 24 นัด ทำไปถึง 13 ประตูกับอีก 13 แอสซิสต์

แต่ที่เหนือกว่านั้นคือความเป็นมืออาชีพและความจงรักภักดีต่อต้นสังกัดทุกสโมสรที่ได้รับใช้

แฟร์นันด์สโดดเด่นสะดุดตาในเรื่องของฝีเท้าและความเป็นผู้นำมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นนักฟุตบอลเยาวชนในทีมอินเฟสตาในโปรตุเกส โดยจะมาถึงสนามซ้อมเป็นคนแรกและกลับเป็นคนสุดท้ายเสมอ ทำให้ถูกแมวมองทาบทามตัวไปทีมปาสเตเลรา สโมสรที่เป็นดังตักศิลาที่ปั้นนักฟุตบอลพรสวรรค์มาแล้วมากมาย 

แต่เส้นทางของเขาหลังจากนั้นเป็นเส้นทางที่แตกต่างจากสตาร์ชาวโปรตุเกสทั่วไป เมื่อเขาย้ายไปร่วมทีมเบาวิสตา โดยไม่ได้ถูกดึงไป 3 สโมสรยักษ์ใหญ่ในบ้านเกิดอย่างเบนฟิกา, เอฟซี ปอร์โต และสปอร์ติง ลิสบอน ก่อนจะย้ายไปผจญภัยในต่างแดนในฐานะนักฟุตบอลอาชีพเต็มตัวตั้งแต่อายุยังน้อยกับโนวาราในปี 2012 ก่อนจะย้ายมาอยู่กับสโมสรระดับที่เหนือกว่าอย่างอูดิเนเซ ที่ใช้เวลา 3 ปีก่อนจะย้ายมาซามพ์โดเรียในปี 2016

ในช่วงนี้แฟร์นันด์สเริ่มเป็นที่หมายปองของสโมสรใหญ่ ซึ่งรวมถึงบาเลนเซียในสเปนและเบนฟิกาในบ้านเกิด แต่เขาเลือกจะภักดีอยู่กับทีม ‘บลูเชอร์คิอาตี’ จนครบฤดูกาล ก่อนจะตัดสินใจกลับมาเล่นในบ้านเกิดอีกครั้งกับสปอร์ติง ลิสบอน ในปี 2017

การกลับมาเล่นในบ้านเกิดไม่ได้สวยงามนัก เมื่อสปอร์ติง ลิสบอน ประสบปัญหาวิกฤตภายในสโมสร เกิดเหตุการณ์เลวร้ายเมื่อแฟนฟุตบอลบุกมาถึงสนามซ้อมเพราะไม่พอใจในผลงานที่ย่ำแย่ของทีม จนสุดท้ายนำไปสู่ภาวะทีมแตกเนื่องจากนักเตะไม่ต้องการจะเล่นกับสปอร์ติง ลิสบอน ต่อไป

แต่แทนที่จะย้ายออกจากทีม แฟร์นันด์สกลับตัดสินใจที่จะอยู่กับสโมสรต่อไปและพยายามช่วยรั้งเพื่อนร่วมทีมให้อยู่ช่วยกันฝ่าวิกฤตของทีมให้ได้ และแม้ว่าเอเจนต์จะพยายามเรียกร้องขอปรับค่าเหนื่อยในสัญญาเพิ่มขึ้นจากสโมสร แต่เขาปฏิเสธและขอรับค่าเหนื่อยเท่าเก่า เพราะตระหนักดีถึงสิ่งที่สโมสรได้พยายามทำเพื่อเขา และตระหนักถึงสถานะทางการเงินของสโมสรที่ย่ำแย่ แต่ก็ยังพยายามจะให้ค่าเหนื่อยของเขาสูงที่สุดของสโมสร

ในช่วงที่ผ่านมาแฟร์นันด์สได้รับการทาบทามจากสโมสรระดับชั้นนำมากมาย ซึ่งนอกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังมีท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และปารีส แซงต์ แชร์กแมง รวมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นที่คาดกันว่าเขาจะบีบให้เกิดการย้ายทีมเหมือนสตาร์ทั่วไป แต่กองกลางขวัญใจแฟนสปอร์ติง ลิสบอน ปฏิเสธจะกดดันสโมสร เนื่องจากตระหนักถึงความสำคัญของเขาต่อทีมและต่อแฟนบอล ซึ่งในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาเขาไม่ได้เรียกร้องขอย้ายทีม แต่รอให้สโมสรตกลงกับสโมสรที่เข้ามาทำการเจรจาให้เรียบร้อยเองก่อน แต่เมื่อไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ก็ยินดีจะอยู่กับทีมต่อไป

อย่างไรก็ดี แฟร์นันด์สแจ้งต่อสโมสรอย่างชัดเจนว่าเขามีความต้องการจะย้ายมาเล่นในอังกฤษ และจากการที่สปอร์ติง ลิสบอน หมดโอกาสลุ้นแชมป์อย่างแน่นอนในฤดูกาลนี้ กอปรกับการที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการตัวอย่างจริงจัง หากทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงได้ แฟร์นันด์สก็พร้อมจะอำลาทีม เพราะเชื่อว่าถึงเวลาที่เหมาะสมและได้ทำทุกอย่างถูกต้องแล้ว

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์