เชื่อว่าในตอนนี้หลายเชื้อชาติเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการใส่ใจโลกของเรามากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะในแง่ของการเดินทาง ใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการกินอยู่ และถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่งานวิจัยล่าสุดพบว่าหนุ่มสาวชาวอังกฤษยินดีที่จะเปลี่ยนมารับประทานอาหารที่ยั่งยืนมากขึ้น แต่ยังขาดความรู้ความเข้าใจถึงความหมายของคำว่า ‘ยั่งยืน’ อย่างแท้จริง
นักวิจัยจาก Bournemouth ได้สัมภาษณ์ผู้คนวัยหนุ่มสาวจำนวน 21 คน ถึงความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารที่ยั่งยืน และความเต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงอาหารการกิน พบว่าผู้เข้าร่วมจำนวนมากไม่รู้หรือไม่แน่ใจอย่างมากว่าอาหารยั่งยืนคืออะไร
ทาง UN ได้นิยามความหมายของอาหารที่ยั่งยืนไว้ว่าคือ ‘อาหารที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ ซึ่งนำไปสู่ความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการ เพื่อสุขภาพที่ดีของคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต’
ในด้านของงานวิจัยเรื่องอาหารที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมก่อนหน้านี้พบว่า กว่า 20-30% ของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในยุโรปและสหราชอาณาจักรมีต้นกำเนิดมาจากอาหารของมนุษย์ รวมถึงผลกระทบจากการผลิตอาหาร การแปรรูป และการขายปลีก
ซึ่งในปัจจุบันก็เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่า การบริโภคเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์มักมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าอาหารจากพืช แต่ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีวิธีอื่นๆ อีกมากมายที่ส่งผลต่อการรับประทานอาหารอย่างยั่งยืน
Katherine Appleton ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัย Bournemouth ซึ่งเป็นผู้นำการศึกษาอธิบายว่า หลายครั้งที่เมื่อพูดถึงการใช้ชีวิตอย่าง ‘ยั่งยืน’ หลายคนอาจนึกถึงการขึ้นเครื่องบินให้น้อยลง ใช้รถยนต์ให้น้อยลง รีไซเคิลมากยิ่งขึ้น แต่ดูเหมือนว่าไม่ใช่ทุกคนที่ตระหนักถึงความแตกต่างในการเปลี่ยนอาหารการกินของพวกเขา
ทีมวิจัยแนะนำว่า จำเป็นต้องมีการทำงานมากขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับสิ่งที่ประกอบกันเป็นอาหารที่ยั่งยืน และวิธีที่การเลือกรับประทานอาหารของผู้คนสามารถส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความมั่นคงทางอาหารของโลก
อย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงที่ดีแม้ยังไม่ได้เข้าใจลึกซึ้ง อาจจะต้องค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ เรียนรู้กันไป และเชื่อว่าสักวันหนึ่งเรื่องพวกนี้จะกลายเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน
ภาพ: Shutterstock
อ้างอิง: